‘ริดดารา’ กางแผนรุ่นใหม่ ครบทุกทางเลือกปิกอัพอีวี

รถปิกอัพอีวี ริดดารา เดินหน้าเพิ่มความหลากหลาย เน้น 2 แขนสำคัญ “ตลาดฟลีต-ตลาดผู้ใช้ทั่วไป” ดันยอดขายปีนี้ แย้มแผนส่งรุ่นใหม่ มาครบทุกทางเลือก ลุยตลาด หลังเจรจาบริษัทแม่ พัฒนาโปรดักต์ ประเดิมส่งรุ่นปรับออปชันออกสู่ตลาดไตรมาส 3 ปีนี้ ตามมาด้วยรุ่นเครื่องยนต์ PHEV และ KP-11 จับกลุ่มผู้ใช้งานบรรทุกหนัก
มร.จาง ชง ผู้จัดการทั่วไป Geely Riddara ประเทศไทย เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทในประเทศไทยว่า บริษัทมีแผนจะเปิดตัวรถกระบะไฟฟ้า ริดดารา (RIDDARA) รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดประเทศไทย ภายในระยะเวลา 3 ปีจากนี้ (2568-2570) อีกอย่างน้อย 3 รุ่น หลังจากบริษัทได้เจรจาและวางแผนงานร่วมกับบริษัทแม่ที่จีน เพื่อทำตลาดประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
และเพื่อปิดจุดอ่อนของบริษัท ที่ปัจจุบันมีรถยนต์ปิกอัพไฟฟ้า RIDDARA RD6 ทำตลาดเพียงรุ่นเดียว ทำให้บริษัทมีจุดอ่อน โดยในไตรมาสที่ 3 ของปี 2568 จะส่งรถปิกอัพไฟฟ้า RIDDARA RD Econ ทำตลาด โดยมีการปรับลดออปชันบางตัว เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ง่าย ในราคาที่ย่อมเยาลงจากรุ่นไฟฟ้า RIDDARA RD6
จากนั้นในปี 2569 บริษัทจะส่งรถปิกอัพ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ไฟฟ้า RIDDARA EM-P (PHEV) ออกสู่ตลาด โดยจะเน้นความเป็นรถปิกอัพ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ที่เน้นเรื่องของเพอร์ฟอร์มานซ์ในการขับขี่ ซึ่งขณะนี้บริษัทได้ทำงานร่วมกับบริษัทแม่ เพื่อที่พัฒนารถรุ่นนี้อย่างจริงจัง
และเพื่อแก้ปัญหาเรื่องราคาจำหน่าย เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยไม่ได้มีการส่งเสริมรถยนต์ประเภทนี้ บริษัทได้เจรจากับบริษัทแม่ที่จีน เพื่อเตรียมนำรถรุ่นนี้เข้ามาผลิต-ประกอบในประเทศไทย ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดว่าจะลงทุนในลักษณะใด หรือจะมีการร่วมทุน หรือจะใช้ประโยชน์จากนโยบาย ONE Geery มาร่วมกันกับแบรนด์ต่าง ๆ ของ จีลี่ กรุ๊ป ที่ทำตลาดอยู่ในไทย ตรงนี้ยังต้องรอดูความชัดเจน
จากนั้นในปี 2569 บริษัทจะส่งรถปิกอัพไฟฟ้า หรือรถปิกอัพ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ที่รองรับกับการบรรทุกหนักออกสู่ตลาดประเทศไทยเช่นเดียวกัน และสุดท้ายในปี 2570 ก็จะส่งรถปิกอัพฟูลไซซ์ (ขนาดใหญ่) ออกสู่ตลาด ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการวิจัยและพัฒนาเรื่องความหลากหลายของสินค้า และการเข้าถึงของกลุ่มลูกค้า
นอกจากนี้ สำหรับแผนการขยายเครือข่ายการจัดจำหน่ายนั้น บริษัทตั้งเป้าว่าจะมีโชว์รูมและศูนย์บริการในประเทศไทยปีนี้ 40 แห่ง ล่าสุดบริษัทได้ปรับเป้าหมายและแผนการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพโดยรวม เนื่องจากตลาดรถยนต์อยู่ในช่วงซบเซา และการยอมรับแบรนด์จากจีน ยังต้องเผชิญกับความท้าทาย ริดดาราเอง ได้พยายามเดินหน้าสร้างความมั่นคงและความแข็งแกร่งให้กับดีลเลอร์และโชว์รูมที่มีอยู่ 18 แห่งในปัจจุบัน แบ่งเป็น กรุงเทพฯ 10 แห่ง และต่างจังหวัด 8 แห่ง ให้มีความมั่นคงที่สุดก่อน
“วันนี้ผมอยากโฟกัสที่ 18 ดีลเลอร์ให้มีกำไรและอยู่ได้ก่อน เพื่อให้ผู้ที่ลงทุนมาเขาสามารถคืนทุนได้เร็วที่สุด ส่วนการลงทุนเรื่องโรงงานของบริษัทแม่นั้น จะมาโดยจีลี่กรุ๊ป หรือจะใช้โรงงานของธนบุรีหรือไม่ ยังไม่สามารถตอบอะไรได้ แต่เรามีการคุยหลายรอบและมีแนวโน้มค่อนข้างดี บริษัทจะยังคงมองว่าสมควรแก่การลงทุน เพื่อให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถพวงมาลัยขวา”
ขณะที่เป้าหมายยอดขายนั้น ได้ปรับลดจากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 10,000 คันนั้น ปีนี้ปรับลง 50% เหลือแค่ 5,000 คันเท่านั้น ขณะที่สัดส่วนการขายช่วงที่ผ่านมา จะเห็นว่าตลาดองค์กร หน่วยงานต่างๆ มียอดเข้ามาค่อนข้างดี และเป็นไปตามเป้าหมายของบริษัทที่มุ่งเน้นการขายในส่วนของ 2 แขนหลัก คือ ลูกค้าทั่วไป และตลาดองค์กร หรือฟลีตเซล
จากยอดขายล่าสุด หลังจากบริษัทได้เปิดตัวรถในเดือนตุลาคม 2567 ถึงปัจจุบัน มีการส่งมอบรถกระบะไฟฟ้าไปได้แล้ว มากกว่า 500 คัน