เส้นทาง “รถหรู” ยอดจองกว่า 2 พันคัน เป้าหมายคนมีตังค์ กระแสยังโอเค

ปัจจุบัน รถยนต์หรูยังคงเป็นหนึ่งกระแสที่คงความคึกคัก สะท้อนสภาพเศรษฐกิจในประเทศที่เป็นปัจจัยสำคัญยังคงมีการจับจ่ายใช้สอย ส่งผลดีต่อภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ หลายค่ายเปิดตัวรถใหม่นำเสนอทางเลือกให้ผู้บริโภค พร้อมสร้างเงื่อนไขข้อเสนอพิเศษให้จับจองเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น ส่งยอดจองในกลุ่มรถยนต์พรีเมียมคาร์ พุ่งทะลุ 2,000 คัน สร้างโอกาสเติบโตในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้
ท่ามกลางการแข่งขันในตลาดรถยนต์ในประเทศไทย ที่เข้มข้นนับตั้งแต่รอยต่อไตรมาสแรกและไตรมาสสองของปี 2568 กระตุ้นอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้กลับสู่ความคึกคัก โดยในเซ็กเมนต์รถยนต์พรีเมียม เป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญไม่แพ้กับเซ็กเมนต์อื่นๆ เห็นได้จากการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แต่ทว่าจากสภาพปัญหาเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง และปัญหาหนี้สินครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมตลาดรถยนต์ทั้งหมดในปีที่ผ่านมา ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ด้วยตัวเลขยอดขายอยู่ที่ 572,675 คัน หรือลดลง 26.2 % เมื่อเทียบกับปี 2566 ไม่เว้นแม่แต่ยอดขายตลาดรถยนต์ในกลุ่มพรีเมียมคาร์ ที่มีตัวเลขยอดจดทะเบียนที่ลดลงเช่นกันที่ 24% ปิดยอดรวม 34,540 คัน
อย่างไรก็ดี ถึงแม้ตลาดรถยนต์ไทยจะต้องใช้เวลาอีกไม่น้อยในการฟื้นตัวท่ามกลางแรงกดดันจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ แต่หลายฝ่ายยังมองเห็นปัจจัยบวกจากแนวโน้มความเปลี่ยนแปลงที่ยังคงชัดเจนในหลายๆ ด้าน เช่น ยอดจดทะเบียนในกลุ่มรถยนต์พลังงานทางเลือกที่เติบโตขึ้น สอดรับกับทิศทางของผู้บริโภคที่ความต้องการแปรเปลี่ยนไป ยกตัวอย่างเช่น รถยนต์ในกลุ่มไฮบริด xEV และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า BEV
โดยในปีที่ผ่านมา บีเอ็มดับเบิลยู ยังคงครองสัดส่วนมากที่สุดในตลาดกว่า 35.3% ด้วยยอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 12,208 คัน ลดลง 1,920 คัน ราว 13.6% รองลงมาได้แก่ เมอร์เซเดส-เบนซ์ จำนวนทั้งสิ้น 9,283 คัน ครองสัดส่วน 26.9% ลดลงจากปีก่อนหน้ามากกว่า 3,000 คัน
ขณะที่ วอลโว่ เป็นหนึ่งในค่ายที่มียอดจดทะเบียนโตเพิ่มขึ้น ด้วยจำนวนทั้งสิ้น 3,741 คัน ขยายตัวเพิ่มขึ้น 1.4% ครองส่วนแบ่งมากกว่า 10% ตามด้วย ปอร์เช่ จำนวน 1,705 คัน ลดลง 5.2% ครองแชร์ 4.9% และอีกหนึ่งค่ายที่เติบโตขึ้นคือ มินิ ที่ครองส่วนแบ่งกว่า 4% ด้วยยอดจดทะเบียน 1,451 คัน โตขึ้น 7.6%
จากทิศทางดังกล่าว ส่งผลให้แต่ละค่ายต้องขยับตัว เสริมทัพด้วยรถรุ่นใหม่ๆ ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ภายใต้ราคาที่จับต้องได้ง่ายยิ่งขึ้น ท่ามกลางการแข่งขันในด้านสงครามราคาของค่ายผู้ผลิตสัญชาติจีน ที่ขับเคี่ยวกันอย่างหนัก เป็นหนึ่งในตัวแรกที่ทำให้ผู้บริโภคยังลังเลที่จะตัดสินใจซื้อรถยนต์
การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นในประเทศรวมถึงภูมิภาค เป็นหนึ่งในแนวทางที่หลายค่ายผู้ผลิตให้ความสำคัญ เพราะสามารถทำราคาได้ดีขึ้น และยังสร้างความเชื่อมั่นในแง่ของตัวโปรดักต์ กระตุ้นการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ของผู้บริโภคที่ยังคงรอจังหวะในการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ ของบรรดาค่ายผู้ผลิตออกสู่ท้องตลาด
เห็นได้จากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2025 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มของผู้ผลิตฝากฝั่งรถหรู ที่เสิร์ฟความคึกคักด้วยการนำเสนอยนตรกรรมรุ่นใหม่ๆ ไล่เลียงไปตั้งแต่ ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า รถยนต์พลังงานทางเลือก รวมไปถึงรถยนต์ในกลุ่มลักชัวรี และซูเปอร์ลักชัวรีคาร์ ที่แต่ละค่ายยังคงนำเสนอจุดเด่นของตัวเอง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ในแง่ของตัวผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงการบริการหลังการขาย ที่เป็นหัวใจสำคัญ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค
สำหรับงานมอเตอร์โชว์ในปีนี้ รถยนต์ในกลุ่มพรีเมียม ยังคงได้รับการตอบรับที่ยอดเยี่ยมจากลูกค้าในประเทศไทย ซึ่งแต่ละแบรนด์ยังคงมีฐานแฟนที่แข็งแกร่ง โดยมี 3 ค่ายท็อปทรีอย่าง บีเอ็มดับเบิลยู, เมอร์เซเดส-เบนซ์ และวอลโว่ เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ รวมถึงเพื่อนร่วมตลาดค่ายอื่นๆ ที่พร้อมเติมเต็มความคึกคัก และสร้างสีสันด้วยรถรุ่นใหม่ๆ ด้วยเช่นกัน
นอกจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ แนวทางการทำตลาด ก็เป็นหนึ่งในกลุยทธ์ที่ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ให้ความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์ในกลุ่มพรีเมียร์คาร์ ที่มีราคาสูง ซึ่งแต่ละค่ายต่างจำเป็นต้องหาแนวทางวิธีการสร้างแรงจูงใจให้ผู้บริโภคตัดสินใจ ภายใต้เงื่อนไข โปรโมชัน-แคมเปญ และข้อเสนอพิเศษต่างๆ ที่เป็นตัวกำหนดชี้วัดให้ลูกค้าได้จับจอง
ซึ่งจากทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ทำให้ตลอดทั้ง 14 วันของการจัดงาน รถยนต์ในกลุ่มพรีเมียมคาร์ ถือว่าเป็นหนึ่งตลาดที่สร้างแรงขับเคลื่อนได้ไม่แพ้รถยนต์ในกลุ่มอื่นๆ สะท้อนตัวเลขยอดจองรถยนต์จากทั้ง 3 ค่ายหลัก อย่าง บีเอ็มดับเบิลยู, เมอร์เซเดส-เบนซ์ และวอลโว่ รวมถึงเพื่อนร่วมค่ายอื่นๆ กวาดยอดจองกว่า 2,000 คัน เรียกความคึกคักให้ตลาดในกลุ่มพรีเมียร์คาร์ได้เป็นอย่างดี สะท้อนแนวทางการทำตลาดของแต่ละแบรนด์ให้ความสำคัญในแง่ทั้งมุมของผลิตภัณฑ์และการบริการหลังการขาย ที่เป็นตัวแปรสำคัญให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกจับจองเป็นเจ้าของรถยนต์หรู