ประธานใหญ่ นิสสัน ประเทศไทย มร.โทชิฮิโระ ฟูจิกิ เปิดบ้านต้อนรับและให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน พร้อมเปิดเผยแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นและให้ความสำคัญนโยบายหลัก 4 ด้าน เผยเตรียมนำผลิตภัณฑ์ใหม่เปิดตัวในตลาดถึง 5 โมเดล ภายในเวลา 3 ปี ทั้ง อีวี และไฮบริด รวมถึงกระบะรุ่นใหม่ นาวารา ที่จะเปิดตัวในปีนี้

ท่ามกลางสถานการณ์ที่ผันผวนของตลาดรถยนต์ในประเทศไทย ที่ต้องประสบพบเจอกับปัญหาต่างๆ ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2567 ล่าสุดประธานคนใหม่ของ นิสสัน ประเทศไทย ได้เปิดบ้านให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในเรื่องของทิศทางการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยของนิสสัน

มร.โทชิฮิโระ ฟูจิกิ ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ ​(ประเทศไทย) จำกัด และนิสสัน อาเซียน เปิดเผยถึงกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของนิสสันในประเทศไทยว่า จากนี้บริษัทจะมุ่งเน้นนโยบายหลักในการดำเนินธุรกิจ 4 ด้าน ได้แก่ การเดินหน้าสร้างแบรนด์, การส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่น่าตื่นเต้นเร้าใจออกสู่ตลาด การสร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวแทนจำหน่ายทั้ง 141 แห่ง และการมุ่งสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้านิสสันในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์ของตลาดรถยนต์ในประเทศไทยยังอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน  รวมถึงการแข่งขันที่ค่อนข้างรุนแรงของค่ายรถยนต์แบรนด์จีน ยิ่งทำให้ตลาดเกิดความผันผวนอย่างไรก็ตาม นิสสันพยายามดึงส่วนแบ่งทางการตลาดให้กลับมาอยู่ที่ 3% ในปีนี้ให้ได้ เชื่อว่าเมื่อมีรถใหม่เข้ามา เชื่อว่าจะค่อยๆ ขยับยอดขายให้เพิ่มมากขึ้น

โดยนิสสันตั้งเป้าที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ถึง 5 โมเดล ภายในระยะเวลา 3 ปีต่อจากนี้  สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่จะมีทั้งรถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์ไฮบริด มีทั้งนำเข้าและผลิตเองภายในประเทศ ปัจจุบันนิสสันมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 2.2% แม้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ดูจะยากลำบากก็ตาม ดังนั้น การเพิ่มยอดขายจึงไม่อาจจะพึ่งพาแต่การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เท่านั้น แต่ยังต้องมุ่งเน้นในเรื่องของการสร้างการรับรู้ให้แก่ผู้บริโภคได้รับรู้ถึงคุณค่าของแบรนด์ด้วย

การบริการหลังขายก็ถือเป็นเรื่องที่นิสสันให้สำคัญเช่นกัน การดูแลลูกค้าต้องมีความเข้มข้น  ซึ่งเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา นิสสันมีโชว์รูมและศูนย์บริการอยู่ 161 แห่ง แต่ในปัจจุบันเราเหลืออยู่ 141 แห่ง เพื่อเป็นการปรับตัวตามสถานการณ์ จึงจำเป็นต้องลดจำนวนและขนาดของโชว์รูมลง แต่พยายามเพิ่มบริการต่างๆ ให้มากขึ้น แม้ว่าจะมีดีลเลอร์ที่ปิดตัวไป แต่จะเน้นการวางเครือข่ายดูแลลูกค้าอย่างเต็มที่

และเร็วๆ นี้ นิสสันยังมีแผนที่จะแนะนำรถยนต์ปิกอัพขนาด 1 ตัน นิสสัน นาวารา ไมเนอร์เชนจ์ ออกสู่ตลาด โดยเป็นการเพิ่มออปชันและเสริมความพรีเมียมให้กับกระบะที่จะเปิดตัวใหม่ เพื่อนำเสนอเป็นทางเลือกเพิ่มเติมให้กับลูกค้าของเรา

“ปัจจุบันสถานการณ์สิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมยานยนต์และสภาพเศรษฐกิจยังไม่แน่นอน  แต่นิสสันหวังว่ารถปิกอัพ นาวารา ใหม่ จะเข้ามาช่วยกระตุ้นยอดขาย วันนี้มีการเเข่งขันในตลาดค่อนข้างสูง ทำให้ยากต่อการคาดการณ์ เราจะพยายามเพิ่มส่วนแบ่งตรงนี้ให้กลับมา จาก 2.2% และผมจะพยายามทำเป็นสเต็ป การพูดมันง่าย แต่ต้องรอดูอีกที”

มร.ฟูจิกิ ยังกล่าวถึงความเป็นไปได้ที่บริษัทจะนำเข้ารถอีวีจากจีน ญี่ปุ่น เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย บริษัทกำลังพิจารณาและยังไม่ปิดกั้น โดยขณะนี้เรากำลังคัดเลือกออปชันที่เหมาะสมสำหรับลูกค้าคนไทย ซึ่งรถยนต์รุ่นใหม่ที่จะขายในไทยอาจจะนำเข้าจากแหล่งผลิตอื่นๆ ของนิสสัน

“การที่เราดำเนินธุรกิจอยู่ในประเทศไทยมายาวนานถึง 71 ปี เรามีความสุขที่ได้รับใช้สังคมไทย และเราจะยังคงอยู่ที่ประเทศไทย แน่นอนว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีทั้งเวลาที่ดีและไม่ดี แต่เราก็ยังยืนยันว่าเราจะอยู่ที่ไทย และหวังว่าคนไทยจะยังมีความสุขที่ได้ขับรถนิสสันครับ” มร.โทชิฮิโระ ฟูจิกิ กล่าวทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้ม