“F 900 XR” สีสวยสะกด เติมเต็มทุกการผจญภัย

“บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย” สร้างความเร้าใจให้กับนักบิดชาวไทยสายผจญภัยอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัว “F 900 XR” สีใหม่ ตัวถังภายนอกสีน้ำเงิน Racing Blue Metallic และยังคงเอกลักษณ์ที่แท้จริงของตระกูลไดนามิกโรดสเตอร์ ในกลุ่มแอดเวนเจอร์ สปอร์ต สะกดทุกสายตา โดดเด่นด้วยขนาดเครื่องยนต์ 895 ซี.ซี. โดยจำหน่ายในราคา 599,000 บาท
มร.ชิวาภาดา เรย์ ผู้อำนวยการ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และผู้นำเข้าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “การเพิ่มตัวเลือกสีใหม่สำหรับบีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR ช่วยยกระดับรูปลักษณ์แบบไดนามิก และเสริมมาดแบบใหม่ให้กับมอเตอร์ไซค์แนวสปอร์ตผจญภัยรุ่นนี้ พร้อมผสานความสปอร์ตและสมรรถนะแบบทัวริ่งไว้ได้อย่างลงตัว ซึ่งช่วยถ่ายทอดความรู้สึกอิสระและไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ให้กับนักบิดในการขับขี่ทุกเส้นทาง “บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR” นำเสนอคุณลักษณะเฉพาะในกลุ่มมอเตอร์ไซค์ขนาดกลาง มาพร้อมคุณสมบัติที่โดดเด่นและเทคโนโลยีล่าสุดที่ได้รับการต่อยอดจากรุ่นก่อนหน้า”
“บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR” นับเป็นที่สุดของมอเตอร์ไซค์ในตระกูลแอดเวนเจอร์ สปอร์ต อย่างแท้จริง ด้วยสมรรถนะโฉบเฉี่ยว ตำแหน่งการขับขี่แบบนั่งตรงสไตล์ GS ความสะดวกสบายในการขับขี่ระยะไกล ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รูปลักษณ์สื่อถึงความทรงพลัง เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากนี้ความโดดเด่นของ “บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR” ยังอยู่ที่การสืบทอดดีไซน์และคอนเซปต์ของมอเตอร์ไซค์ในตระกูล XR ที่ผสานความสปอร์ตและสมรรถนะแบบทัวริ่งเข้าไว้ได้อย่างลงตัว ทั้งยังมาพร้อมเทคโนโลยีในการขับขี่ที่ล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟหน้า LED ที่ปรับองศาตามการเลี้ยวโค้ง (Adaptive Cornering Light) และระบบ Keyless Ride ซึ่งล้วนเป็นคุณสมบัติที่ไม่เคยมีมาก่อนในมอเตอร์ไซค์ระดับกลาง
“บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR” ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ส่งพละกำลัง 73 กิโลวัตต์ (99 แรงม้า) ที่ 8,500 รอบต่อนาที ให้แรงบิด 88 นิวตันเมตร ที่ 6,750 รอบต่อนาที ให้ความเร็วสูงสุดมากกว่า 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 895 ซี.ซี. พร้อมองศาการจุดระเบิดที่ 270/450 องศา และระบบเก็บเสียงแบบใหม่ มอบเสียงทรงพลังและเร้าใจยิ่งขึ้น มาพร้อมระบบคลัตช์แบบ anti-hopping และระบบป้องกันการลื่นไถลของล้อหลัง (MSR) จากการชะลอตัวหรือลดเกียร์ เพื่อมอบความปลอดภัยยิ่งขึ้นให้แก่ผู้ขับขี่ มอเตอร์ไซค์รุ่นนี้มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 4.2 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร และรองรับน้ำมันเชื้อเพลิงไร้สารตะกั่วค่าออกเทน 91 ขึ้นไป
“บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR” สร้างความสนุกเร้าใจในการขับขี่ด้วยโหมดการขับขี่ ‘Rain’ และ ‘Road’ รวมทั้ง Riding Modes Pro ประกอบด้วย ‘Dynamic’ และ ‘Dynamic Pro’ เพื่อยกระดับความสปอร์ตให้เร้าใจยิ่งขึ้น ระบบ ABS Pro ช่วยให้ควบคุมมอเตอร์ไซค์ได้อย่างแม่นยำในทุกสถานการณ์การขับขี่ พร้อมระบบ Dynamic Traction Control (DTC) ระบบ Dynamic Brake Control (DBC) ระบบ Dynamic ESA และระบบตรวจสอบความดันลมยาง (RDC) ในขณะที่ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติยังช่วยให้ผู้ขับขี่รักษาความเร็วรถให้คงที่ได้ นอกจากนั้นระบบช่วยเปลี่ยนเกียร์ Gear Shift Assistant Pro ยังช่วยให้สามารถเปลี่ยนเกียร์ขึ้นและลงได้เกือบทุกช่วงน้ำหนักบรรทุกและช่วงความเร็วรอบเครื่องยนต์โดยไม่ต้องควบคุมคลัตช์ ระบบทำความร้อนที่แฮนด์ยังช่วยป้องกันมือชาและความเมื่อยล้าเมื่อขับขี่ไปในในสภาพอากาศที่หนาวเย็น
“บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR” มาพร้อมถังน้ำมันขนาด 15.5 ลิตร ถังน้ำมันมีน้ำหนักเบาและผ่านกระบวนการเชื่อมที่นำมาใช้ในการผลิตมอเตอร์ไซค์เป็นครั้งแรก ส่วนโครงสร้างการยึดเหล็กกล้าส่วนท้ายรถได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานเป็นครั้งแรกในมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้เช่นกัน จึงทำให้ส่วนท้ายรถมีรูปลักษณ์เพรียวและสั้นยิ่งขึ้น นอกจากนั้น บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR ซึ่งมีระยะสปริงที่ค่อนข้างยาวขึ้น ช่วยมอบความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และหลากหลายกว่าในสไตล์แบบทัวริ่ง ระบบไฟหน้า LED ปรับองศาตามการเลี้ยวโค้ง (Adaptive Cornering Light) พร้อมระบบ Headlight Pro นอกจากจะสร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่ยิ่งขึ้นแล้ว ยังนับว่าเป็นฟีเจอร์ที่โดดเด่นในมอเตอร์ไซค์ขนาดมิดไซซ์ ทำให้การขับขี่เวลากลางคืนมีความอุ่นใจยิ่งขึ้นด้วยไฟหน้าส่องสว่างตามการเลี้ยวโค้ง หลอดไฟทั้งหมดเป็นแบบ LED ที่ได้รับการติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับมอเตอร์ไซค์ในตระกูล F-Series ทุกรุ่น
“บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR” มาพร้อมตำแหน่งที่นั่งซึ่งมอบทั้งความสปอร์ตและความสบายสำหรับการขับขี่แบบทัวริ่งเพื่อเสริมประสิทธิภาพในการขับขี่ระยะไกล ชุดแฟริ่งด้านหน้าที่มาพร้อมกระจกกันลมปรับระดับได้มอบทั้งลุคสปอร์ตและการป้องกันให้แก่ผู้ขับขี่
นอกจากนี้ยังมาพร้อมโซ่ M Endurance ด้วยคุณสมบัติการหล่อลื่นและความทนทานต่อการสึกหรอที่ยอดเยี่ยม พร้อมทั้งมอบความสะดวกสบายด้านการบำรุงรักษามากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับมอเตอร์ไซค์รุ่นอื่นๆ ซึ่งรวมถึงการทำความสะอาดที่ยุ่งยากและหลีกเลี่ยงไม่ได้เนื่องจากต้องเผชิญปัญหาน้ำมันหล่อลื่นกระเด็นหากใช้โซ่ธรรมดา โซ่ M Endurance จึงมอบทั้งความสะดวกสบายและความทนทานในการใช้งานสูงสุด
“บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR” ยังมีหน้าจอ TFT สีขนาด 6.5 นิ้ว และระบบเชื่อมต่อ BMW ConnectedRide เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ฟีเจอร์ดังกล่าวช่วยให้นักบิดสามารถคุยโทรศัพท์ ฟังเพลง หรือใช้งานระบบนำทางได้อย่างสะดวกในขณะขับขี่
ทั้งนี้ “บีเอ็มดับเบิลยู F 900 XR” สีน้ำเงิน Racing Blue Metallic พร้อมวางจำหน่ายในราคา 599,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)