“EX30” เสริมทัพ สานแนวทาง “วอลโว่” ล็อกเป้า ค่ายบีอีวี 100% ภายใน 2 ปี

วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย เสริมความแข็งแกร่งให้กับไลน์อัปรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ในประเทศไทย ด้วย VOLVO EX30 บีอีวีรุ่นที่ 3 ในตลาดประเทศไทย มาพร้อม 3 รุ่นทางเลือก วิ่งได้ระยะทางไกลกว่า 500 กิโลเมตร เคาะราคาจำหน่าย 1,590,000-1,890,000 บาท ตอกย้ำแนวทางสู่การทำตลาดเฉพาะรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ภายในปี 2025
ปัจจุบันค่ายวอลโว่ เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เดินหน้าทำตลาดในประเทศไทย ด้วยยานยนต์ภายใต้ขุมพลังปลั๊ก-อิน ไฮบริด แล เพียว อิเล็กทริค (บีอีวี) เพียงเท่านั้น ซึ่งเป็นแนวทางการดำเนินธุรกิจของค่ายผู้ผลิตสัญชาติสวีดิช โดยหวังที่จะลดปริมาณการปล่อยก๊าซพิษจากท่อไอเสียให้ได้ 40% ต่อคัน ภายในปี 2025 เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายหลักในการเป็นบริษัทที่มีปริมาณก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2040
โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ได้ทยอยลดสัดส่วนรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) และแทนที่ด้วยรถยนต์ไฮบริด (HEV) ก่อนจะอัปเกรดขึ้นเป็นรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV) และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% (BEV) ซึ่งเป็นไลน์อัปในปัจจุบันของแบรนด์วอลโว่ในประเทศไทย
ล่าสุดได้เพิ่มทางเลือกในกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% (BEV) ด้วย VOLVO EX30 ที่เปิดตัวและพร้อมทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นรุ่นที่ 3 ของรถยนต์ในเซ็กเมนต์ เพียว อิเล็กทริค ภายใต้แบรนด์วอลโว่ ต่อจากรุ่นเปิดตลาดอย่าง VOLVO XC40 Recharge ที่มีให้เลือกใช้ 2 รุ่นย่อย ต่อด้วย VOLVO C40 Recharge ที่มาพร้อม 2 รุ่นทางเลือกเช่นกัน
มร.คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึง VOLVO EX30 ว่า “อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ วอลโว่มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำของการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ด้วยแผนการเข้าสู่การเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายรถไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ สำหรับในประเทศไทย เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เราได้ประกาศทิศทางการจำหน่ายรถของวอลโว่ โดยจะจำหน่ายเฉพาะรถไฟฟ้าเท่านั้น ภายในปี 2025”
“นอกจากนี้ เรายังได้เปิดตัวรถไฟฟ้า รุ่นที่ 3 ได้แก่ VOLVO EX30 ซึ่งเป็นรถที่มีบทบาทสำคัญต่อเป้าหมายในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซจากท่อไอเสียให้ได้ 40% ต่อคัน ภายในปี 2025 และเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายหลักในการเป็นบริษัทที่มีปริมาณก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี 2040”
สำหรับ VOLVO EX30 ยังคงมาในสไตล์ครอสโอเวอร์ ผสานความทันสมัยและโฉบเฉี่ยวได้อย่างลงตัว เป็นรถที่สร้างคาร์บอนฟุตปรินท์น้อยที่สุดเท่าที่เคยมีมาในรถวอลโว่ ด้วยการนำวัสดุรีไซเคิลและวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่ ทั้งภายนอกและภายใน สร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ด้านหน้าโดดเด่นด้วยไฟหน้าดีไซน์โฉบเฉี่ยว สอดรับกับชุดกันชนที่ไร้กระจังหน้าในแบบฉบับของบีอีวี เพิ่มมิติให้กับตัวรถด้วยสันมุมที่สอดรับกับฝากระโปรงด้านหน้า
รวมถึงด้านข้างตัวรถที่ดูบึกบึน ด้วยส่วนเว้าและสันมุมเช่นเดียวกับกันชนด้านหน้า ไล่เรียงไปจนถึงด้านท้ายรถที่เรียบหรู ล้ำสมัย ด้วยโคมไฟท้าย 2 ชั้น บริเวณฝากระโปรงท้ายและกระจกหลัง เติมเต็มความสปอร์ตด้วยชายกันสีดำด้าน บริเวณชายกันชนหน้า-หลัง และด้านข้างตัวรถ มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ลายใบพัด 5 ก้าน สีดำปัดเงา ในรุ่น Ultra และขนาด 18 นิ้ว ในรุ่นเริ่มต้น
ภายในห้องโดยสารหรูหรา กว้างขวาง ด้วยหลังคากระจก Panoramic Sunroof แผงแดชบอร์ดด้านหน้าเรียบหรู โดดเด่นด้วยหน้าจอกลาง ระบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว มาพร้อมระบบ Android Automotive OS Google Built-in รวมถึง Google Play, Google Maps และ Google Assistant พร้อมด้วยฟังก์ชันสั่งงานด้วยเสียง Hey Google และระบบนำทาง Navigation System รองรับ Apple Car Play และ Andriod Auto เติมเต็มด้วยระบบเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon 9 ลำโพง
เบาะนั่งสไตล์สปอร์ต คู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า พร้อมระบบดันหลังปรับด้วยไฟฟ้า Lumbar Support สำหรับผู้ขับขี่ รวมถึงพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรงสปอร์ต 3 ก้าน พร้อมฟังก์ชันควบคุมแบบไร้ปุ่มบนก้านพวงมาลัยด้านซ้ายและขวา มาพร้อมไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสารปรับเปลี่ยนได้ 5 รูปแบบ รวมถึงที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย, ช่องเชื่อมต่อ USB Type C ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง ด้านหลัง 2 ตำแหน่ง และ ช่องชาร์จไฟ 12V
ตอบสนองการใช้งานด้วย 2 ขุมพลัง ประกอบด้วย มอเตอร์ 1 ตัว พละกำลัง 272 แรงม้า แรงบิด 343 นิวตันเมตร มาพร้อมแบตเตอรี่ NMC ขนาด 69 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง RWD ทำความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง วิ่งได้ระยะทางไกลสุด 540 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟฟ้าเต็มหนึ่งครั้ง มาพร้อมหัวชาร์จแบบ Type 2 / CCS Combo ชาร์จระบบกระแสสลับ รองรับได้สูงสุด 11 กิโลวัตต์ / 22 กิโลวัตต์ ส่วนกระแสตรง รองรับสูงสุด 134 กิโลวัตต์ ชาร์จไฟฟ้าจาก 10-80% ภายในเวลา 26.5 นาที
ขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ รีดพละกำลังสูงสุด 428 แรงม้า สร้างแรงบิด 542 นิวตันเมตร มาพร้อมแบตเตอรี่ NMC 69 กิโลวัตต์-ชั่วโมง และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ทำความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง วิ่งได้ระยะทางไกลสุด 520กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟฟ้าเต็มหนึ่งครั้ง มาพร้อมหัวชาร์จแบบ Type 2 / CCS Combo ชาร์จระบบกระแสสลับ รองรับได้สูงสุด 11 กิโลวัตต์ / 22 กิโลวัตต์ ส่วนกระแสตรง รองรับสูงสุด 153 กิโลวัตต์ ชาร์จไฟฟ้าจาก 10-80% ภายในเวลา 26.5 นาที
สำหรับ VOLVO EX30 มีให้เลือกใช้ 3 รุ่นย่อย ได้แก่ EX30 Core Single Motor Extended Range ราคาจำหน่าย 1,590,000 บาท, EX30 Ultra Single Motor Extended Range ราคาจำหน่าย 1,790,000 บาท และ EX30 Ultra Twin Motor Performance ราคาจำหน่าย 1,890,000 บาท