ค่ายเทสล่า กระโดดเข้าร่วมวงยานยนต์พลังานไฟฟ้าในประเทศไทย ด้วยรถ 2 โมเดลแรก อย่าง TESLA MODEL3 ภายใต้รูปโฉมของสปอร์ตซีดาน และรถอเนกประสงค์อย่าง TESLA MODEL Y มาพร้อม 3 รุ่นทางเลือกในแต่ละโมเดล เติมความร้อนแรงให้กับตลาดในประเทศไทย ภายใต้ราคาที่จับต้องได้ง่ายยิ่งขึ้น หลังการเข้ามาของบริษัทแม่ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

ในฉบับนี้ “หนังสือพิมพ์ยวดยาน” ส่องกล้องถึง TESLA MODEL3 Performance ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุดในไลน์อัปดังกล่าว ด้วยออปชันการใช้งานที่ยกระดับขึ้นอีกขั้นจากรุ่นเริ่มต้น อย่าง Rear Wheel Drive และรุ่นรอง อย่าง Long Range AWD ที่มาพร้อมความโดดเด่นในเรื่องของระยะทางที่ทำได้ต่อการชาร์จไฟฟ้าเต็มหนึ่งครั้ง ตามชื่อรุ่น ด้วยระยะทางกว่า 680 กิโลเมตร

รูปร่างหน้าตาของ MODEL3 มาในสไตล์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว ตัวถังได้รับการพัฒนาขึ้นโดยคำนึงถึงความปลอดภัย ผสมผสานระหว่างวัสดุที่เป็นเหล็กและอะลูมิเนียม ภายใต้โครงสร้างที่แข็งแกร่ง สามารถดูดซับและป้องกันแรงกระแทก ทั้งยังลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำด้วยเช่นกัน

ทันสมัยด้วยไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ดีไซน์โฉบเฉี่ยว รวมถึงหลังคากระจก Panoramic Roof แบบเต็มบาน พร้อมฟิล์มป้องกันรังสี UV และรังสีอินฟราเรด กระจกมองข้างพับไฟฟ้า แบบตัดแสงและทำความร้อนอัตโนมัติ เติมเต็มความสปอร์ตในรุ่นท็อป ด้วยล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว ลาย Uberturbine Wheels รวมถึงสปอยเลอร์หลังแบบ CarbonFiber และแป้นเบรก-คันเร่ง อะลูมิเนียม อัลลอย

ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุหนัง Vegan เบาะนั่งคู่หน้า-หลัง มาพร้อมระบบอุ่นเบาะ โดยเบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า พร้อมด้วยระบบอุ่นพวงมาลัย  คอนโซลกลางมาพร้อมที่เก็บของ สั่งงานผ่านหน้าจอกลางระบบสัมผัส ขนาด 15 นิ้ว พร้อมด้วยระบบแสดงภาพสภาพแวดล้อมการขับขี่แบบ real time รวมถึงหน้าจอแสดงอุณหภูมิยาง เบรก มอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่

ทันสมัย สะดวกสบาย ด้วยโปรไฟล์ผู้ขับขี่แบบกำหนดเอง รวมถึงแท่นชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย 2 ตำแหน่งและระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมกรองอากาศ HEPA ยกระดับการใช้งานด้วยฟังก์ชัน Pre-conditioning ทำให้ห้องโดยสารอุ่นขึ้นโดยอัตโนมัติ และเตรียมพร้อมแบตเตอรี่

มาพร้อมระบบเสียงแบบ Premium ผ่านลำโพง 13 ตำแหน่ง รวม SubWoofer 1 ตัว และ Amp 2 ตัว เล่นเพลงและสื่อผ่าน Bluetooth  ช่อง USB-A ในช่องเก็บของ พร้อมอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบพกพาขนาด 128GB และช่อง USB-C จำนวน 4 ตำแหน่ง

ส่งกำลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่ล้อคู่หน้าและหลัง (All Wheel Drive) รีดพละกำลัง 506 แรงม้า สร้างแรงบิด 660 นิวตันเมตร ตอบสนองการใช้งานด้วยอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายในเวลา 3.3 วินาที สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุดราว 608 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟฟ้าเต็มหนึ่งครั้ง ซึ่งน้อยกว่ารุ่นกลาง อย่าง Long Range AWD

เนื่องด้วยสมรรถนะการใช้งานที่ยกระดับขึ้นไปอีกขั้น ด้วยโหมดการขับขี่ Track Mode ทั้งยังสามารถปรับการกระจายกำลังหน้า-หลัง Handling Balanced รวมถึงปรับระดับการช่วยเหลือของระบบ Stability Assist และปรับระดับการหน่วงไฟกลับ Regenerative Braking ได้ตั้งแต่ 0-100% พร้อมทั้งขยายขนาดจานเบรกคู่หน้า จาก 320 เป็น 355 มิลลิเมตร

ด้วยออปชันที่เทสล่าใส่มาใน MODEL3 Performance เพิ่มความน่าสนใจในระดับหนึ่ง สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการและเน้นความสนุกสนานในการขับขี่สไตล์สปอร์ต ด้วยราคาค่าตัวที่ต้องควักเพิ่มจากรุ่นกลางกว่า 310,000 บาท และ 550,000 บาท จากรุ่นเริ่มต้น ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญกระตุ้นการตัดสินใจ

ต้องตอบคำถามตัวเองให้ได้ก่อน ว่าชื่นชอบและพอใจในระดับไหน  ถ้าเน้นเข้าร่วม ก็ไปที่รุ่นเริ่มต้น หรือถ้าอยากได้ระยะทางที่เพิ่มขึ้นต่อการชาร์จไฟฟ้าเต็มหนึ่งครั้ง ก็ไปที่รุ่นกลาง  หรือถ้าพร้อมจ่าย 2,309,000 บาท เพื่อแลกสมรรถนะที่เพิ่มขึ้น ก็จบที่รุ่นท็อป

รายละเอียดทางเทคนิค

ชื่อรุ่น                                                  TESLA MODEL3 Performance

มิติตัวรถ ยาว x กว้าง x สูง (มิลลิเมตร)                        4,694 x 1,849 x 1,443

ระยะฐานล้อ (มิลลิเมตร)                                 2,875

น้ำหนักตัวรถรวม (กิโลกรัม)                           1,844

ขุมพลัง                                                มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ที่ล้อคู่หน้าและหลัง (All Wheel Drive)

พละกำลังสูงสุด (แรงม้า)                                 506

แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร)                              660

แบตเตอรี่                                                         ลิเทียมไอออน NMC

ความจุ (กิโลวัตต์-ชั่วโมง)                               75.0

รองรับการชาร์จ                                              ไฟฟ้ากระแสสลับ AC สูงสุด 11.5 กิโลวัตต์

ไฟฟ้ากระแสตรง DC Fast Charge สูงสุด 250 กิโลวัตต์

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (วินาที)                     3.3

ความเร็วสูงสุด (กิโลเมตร/ชั่วโมง)                  261

ระยะทางต่อการชาร์จไฟฟ้าเต็ม (กิโลเมตร)    608

ระบบช่วงล่าง  หน้า                             ดับเบิ้ลวิชโบน พร้อมคอยล์สปริง ช็อคอัพ และเหล็กกันโคลง

หลัง                             มัลติลิงก์ พร้อมคอยล์สปริง ช็อคอัพ และเหล็กกันโคลง

ระบบเบรก      หน้า/หลัง                     ดิสก์เบรก แบบมีครีบระบายความร้อน

ล้อ                   หน้า/หลัง                     ล้ออัลลอยลาย Uberturbine Wheels ขนาด 20 นิ้ว

ยาง                  หน้า/หลัง                     PIRELLI PZERO ขนาด 235/35R20

ราคาจำหน่าย                                       2,309,000 บาท