โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ท้าชิงยอดมินิเอ็มพีวี เพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคด้วย โตโยต้า เวลอซ ชูความโดดเด่นในสไตล์สปอร์ตเอ็มพีวี ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยครบครัน มาพร้อม 2 เกรดทางเลือก เก็บยอดจองไปแล้วมากกว่า 1,000 คัน ตั้งเป้าครองเจ้าตลาดในเซ็กเมนต์ดังกล่าว  

หลังจากที่ค่ายโตโยต้าเดินหน้าเสริมทัพด้วยรถยนต์รุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ช่วงปลายปีก่อนหน้า ทว่า เป็นการนำเสนอรถรุ่นพิเศษที่ยกระดับรูปโฉมและการใช้งานด้วยชุดแต่ง ในสไตล์สปอร์ต ภายใต้รหัส จีอาร์ สปอร์ต ซึ่งเป็นการขยับตัวเพื่อสร้างความสดใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในตลาด รวมถึงรุ่นล่าสุด อย่าง ฟอร์จูนเนอร์ คอมมานเดอร์ ที่เพิ่งส่งลงทำตลาดในช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา

ล่าสุดเป็นคิวของรถอเนกปรงสงค์ เอ็มพีวี อย่าง โตโยต้า เวลอซ ที่เปิดตัวและทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นโปรดักต์ใหม่ที่ค่ายโตโยต้าส่งผู้เล่นลงทำตลาดในประเทศไทย เสริมความแข็งแกร่งในเซ็กเมนต์ดังกล่าว โดยเป็นการพัฒนาต่อยอดจาก โตโยต้า อแวนซา

สำหรับ โตโยต้า เวลอซ  มาภายใต้รูปโฉมที่เน้นสันมุมและเส้นสายที่ชัดเจน สร้างมิติให้ตัวรถได้เป็นอย่างดี โดดเด่นด้วยกระจังหน้าสีดำทรงหกเหลี่ยม มาพร้อมกันชนหน้าขนาดใหญ่ สอดรับกับไฟหน้ารูปทรงโฉบเฉี่ยว รวมถึงไฟตัดหมอกทรงกลมล้อมด้วยเส้นโครเมียมทรงตัวที ดีไซน์เฉี่ยว ที่วางไว้มุมซ้าย-ขวาช่วงกลางกันชน เติมเต็มความสปอร์ตสไตล์ครอสโอเวอร์ด้วยชายกันชนล่างสีเทาและสีดำ

ตอบโจทย์การใช้งานสไตล์ครอสโอเวอร์ ภายใต้มิติตัวรถ ยาว x กว้าง x สูง ที่ 4,475/1,750/1,700 มิลลิเมตร ความยาวช่วงล้อ 2,750 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดจากพื้น 205 มิลลิเมตร ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบอิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบทอร์ชันบีม พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ระบบเบรกแบบดิสก์เบรกทั้งหน้าและหลัง

ด้านข้างตัวรถโดดเด่นด้วยการเดินเส้นโครเมียมที่ลากยาวจากชายฝากระโปรงหน้า ผ่านขอบประตูด้านบน ไปจนถึงด้านท้ายรถ เพิ่มความพรีเมียมให้กับตัวรถได้เป็นอย่างดี เติมความสปอร์ตด้วยกรอบกระจกหน้า-หลัง ที่ใช้วัสดุสีดำ ส่วนมือจับประตูและฝากรอบกระจกมองข้างเป็นสีเดียวกับตัวรถ มาพร้อมไฟเลี้ยวและไฟส่องสว่างบริเวณพื้น

เติมเต็มการใช้งานด้วยการติดตั้งราวหลังคาสีดำ รวมถึงล้ออัลลอยปัดเงาสีทูโทน ขนาด 17 นิ้วในรุ่นท็อป  และ 16 นิ้วในรุ่นรอง เพิ่มความโฉบเฉี่ยวด้วยชุดไฟท้ายแอลอีดี รวมถึงกันชนท้ายที่มาพร้อมดิฟฟิวเซอร์สีเทาตัดด้วยวัสดุสีดำไปในทิศทางเดียวกันกับด้านหน้า เสริมความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลังคาเติมความโฉบเฉี่ยวด้วยสันมุมสีดำซ้าย-ขวา มาพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 ด้านในกระจกบานท้าย และไฟทับทิมบริเวณมุมซ้าย-ขวา ช่วงกลางกันชน

ภายในห้องโดยสารผสานความสปอร์ตพรีเมียม สร้างความโดดเด่นด้วยวัสดุโครเมียมและคาร์บอนไฟเบอร์บริเวณแผงแดชบอร์ดด้านหน้า รวมถึงแผงประตูและคอนโซลกลาง มาพร้อมมาตรวัดฟูลดิจิทัล TFT ขนาด 7 นิ้วพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS มัลติฟังก์ชัน ทรงสามก้าน สีทูโทน เสริมการใช้งานด้วยที่วางแก้วใต้ช่องแอร์ทั้งด้านซ้ายและขวา มาพร้อมแอมเบียนท์ไลต์บริเวณคอนโซลกลางและแผงประตูด้านหน้า

ครบครันด้วยระบบอินโฟเทนเมนต์ ที่มาพร้อมหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว แบบลอยตัว ทันยุคสมัยด้วยที่ชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สายบริเวณคอนโซลกลาง ระบบปรับอากาศตอนหน้าอัตโนมัติ รวมถึงระบบกุญแจ Smart Keyless Entry และ ปุ่ม Push Start เติมเต็มด้วยหน้าจอแขวนบนเพดานสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง โดยเบาะแถวที่ 2 และ 3 สามารถพับให้เรียบ เพิ่มพื้นที่เก็บของในห้องโดยสารตอนท้าย

ด้านขุมพลัง ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน รหัส 2NR-VE 4 สูบแถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-I ขนาด 1.5 ลิตร ความจุ 1,496 ซี.ซี. พละกำลังสูงสุด 106 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที สร้างแรงบิดสูงสุด 137 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบ/นาที ผสานการทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อม Sequential Shift มาพร้อมสวิตช์เลือกโหมดการขับขี่ ECO/NORMAL/POWER ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนล้อหน้า

ครบครันด้วยเทคโนโลยีเสริมความปลอดภัย ได้แก่ ระบบป้องกันการชนด้านหน้า, ระบบเตือนการออกนอกช่องทางเดินรถ, ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งโดยไม่ตั้งใจ, ระบบเตือนมุมอับสายตา, ระบบเตือนรถเคลื่อนผ่านขณะถอยหลัง, ระบบเตือนรถคันหน้าเคลื่อนตัว, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน รวมถึง กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา ตามยุคสมัยของรถยนต์ในยุคปัจจุบัน

โดย โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย อิมพอร์ต โตโยต้า เวลอซ เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ทั้งสิ้น 2 เกรด โดยเปิดให้จองสิทธิ์ตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ และคว้ายอดจองไปแล้วมากกว่า 1,000 คัน พร้อมส่งมอบสำหรับรุ่นเริ่มต้นอย่าง SMART ส่วนรุ่น PREMIUM พร้อมส่งมอบในเดือนมีนาคมเป็นต้นไป