“มาสด้า2” ตอบโจทย์ เจ้าตลาด “เก๋งเล็ก” ลดรุ่นย่อย เริ่มต้นราคาเดิม
มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) ขยับตัวรับต้นปีด้วย มาสด้า2 โมเดลเยียร์ 2022 สานต่อความสำเร็จเจ้าตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ชูออปชันและเทคโนโลยีเสริมการใช้งานครบครัน สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอีโคคาร์ มีให้เลือกใช้ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน-ดีเซล ภายใต้บอดี้ 4 และ 5 ประตู ตอบโจทย์ลูกค้าในยุคปัจจุบันด้วยสีใหม่ แพลตทินั่ม ควอตซ์ ล็อกเป้าลูกค้าเจเนอเรชันใหม่ ขายราคาเดิม 546,000-799,000 บาท
รถยนต์นั่งขนาดเล็กเป็นหนึ่งในตลาดที่ขับเคี่ยวกันอย่างหนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เกี่ยวเนื่องตั้งแต่นโยบายรถคันแรกจากภาครัฐบาลในปี 2554 โดย มาสด้า2 เป็นหนึ่งในรุ่นยอดนิยมที่มาพร้อมการตอบรับที่ดีด้วยยอดขายสะสมกว่า 95,000 คัน นับตั้งแต่เริ่มทำตลาดในประเทศไทยในปี 2552 ตามด้วยเจเนอเรชันที่ 2 ภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟในปี 2558 และโกยยอดขายได้สูงถึง 160,000 คัน ก่อนจะปรับโฉมครั้งล่าสุดช่วงปลายปี 2562 และเก็บยอดไปได้กว่า 45,000 คัน
ด้วยความโดดเด่นทั้งในเรื่องของรูปร่างหน้าตา รวมถึงการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงและสมรรถนะการใช้งานที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างลงตัว ส่งผลให้ มาสด้า2 ครองเจ้าตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กรวมอีโคคาร์ และบี-เซ็กเมนต์ ติดต่อกันถึง 3 ปี นับตั้งแต่ปี 2560-2562 ตอกย้ำความนิยมด้วยตัวเลขการครอบครองของลูกค้าในประเทศไทยกว่า 300,000 คัน ก่อนจะตอกย้ำความสำคัญของรถรุ่นดังกล่าวในประเทศไทยด้วย มาสด้า2 โมเดลเยียร์ 2022
นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงรถรุ่นใหม่ว่า “มาสด้า2 เป็นโมเดลหลักสำคัญที่ส่งผลต่อปริมาณยอดขายของมาสด้าในแต่ละปี ดังนั้นการเปิดตัวแนะนำ มาสด้า2 ใหม่ ในครั้งนี้ จึงเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อของกลุ่มลูกค้าที่มีขนาดใหญ่ ด้วยความคุ้มค่าคุ้มราคาเพื่อให้ลูกค้าเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น ทั้งยังเพิ่มออปชันและอุปกรณ์มาตรฐานให้มากขึ้น เหมาะสมกับสังคมในยุคปัจจุบัน ยังคงไว้ซึ่งความพรีเมียมทั้งภายนอกและภายในเหนือกว่ารถยนต์ในระดับเดียวกัน ทว่าจำหน่ายเท่ากับรุ่นเดิมด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 546,000 บาท”
สำหรับ มาสด้า2 ใหม่ มาพร้อมดีไซน์ที่หรูหรายิ่งขึ้น ได้รับการออกแบบและพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด Kodo-Soul of Motion ด้วยเส้นสายที่เรียบง่าย แฝงด้วยความโฉบเฉี่ยวทรงพลังด้วยคอนเซปต์ Less is More เช่นเดิม โดยภายนอกมาพร้อมสีใหม่ล่าสุด แพลตทินั่ม ควอตซ์ และล้ออัลลอยสีดำใหม่ขนาด 16 นิ้ว และมีให้เลือกใช้ทั้งในตัวถัง 4 และ 5 ประตูส่วนภายในห้องโดยสารยกระดับความพรีเมียมยิ่งขึ้นด้วยแผงคอนโซลหน้าและเบาะหนังสีดำใหม่ เติมเต็มความสะดวกสบายด้วยออปชันเสริมการใช้งาน
โดดเด่นด้วยอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย Wireless Charger รองรับระบบ Wireless Apple CarPlay® และ Android Auto™* รวมถึงระบบ Infotainment เชื่อมต่อกับ Mazda Connect ครบทุกฟังก์ชัน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล
รวมถึงเบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึก 2 ตำแหน่ง หนึ่งเดียวในคลาส และระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360° View Monitor) ที่เข้ามาเสริมด้านความปลอดภัย
ยังคงมีให้เลือกใช้ 2 เครื่องยนต์ ได้แก่ เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร ที่ให้สมรรถนะการขับขี่และการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมถึง 23.3 กิโลเมตร/ลิตร และเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 1.5 ลิตร ที่ให้การตอบสนองการขับขี่และการประหยัดน้ำมันสูงถึง 26.3 กิโลเมตร/ลิตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด มาพร้อมระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง หรือ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารทุกตำแหน่ง
นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยเชิงป้องกัน i-Activsense ที่ช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุรุนแรง และช่วยให้การขับขี่เป็นไปได้อย่างง่ายยิ่งขึ้น เพื่อความปลอดภัยตลอดทุกการเดินทาง อาทิ ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (ABSM) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) และระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360° View Monitor)
ในทุกรุ่นย่อยยังมาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานด้านความปลอดภัยขั้นพื้นฐานที่ติดตั้งมาอย่างครบครัน อาทิ ระบบป้องกันล้อล็อก 4W-ABS และระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ DSC รวมถึงระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HLA ระบบสัญญาณไฟกะพริบอัตโนมัติเมื่อเบรกในภาวะฉุกเฉินและส่งสัญญาณเตือนรถคันหลัง ESS ระบบช่วยป้องกันรถลื่นไถล TCS โครงสร้างตัวถังสกายแอคทีฟ พร้อมถุงลมนิรภัยคู่หน้า Dual Airbag เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า
ด้าน นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารอาวุโส กล่าวว่า “เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้ามากยิ่งขึ้น มาสด้า2 ใหม่ ได้รับการติดตั้งรายการอุปกรณ์มาตรฐานเพิ่มเติมตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น ส่งผลให้มีฟังก์ชันการใช้งานที่สะดวกครบครันมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานในกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่มีระดับราคาใกล้เคียงกัน เพิ่มความมั่นใจให้กับการขับขี่ ตอบสนองการใช้งานและอรรถประโยชน์ของผู้ขับขี่และผู้โดยสารในยุคปัจจุบัน”
สำหรับ มาสด้า2 ใหม่ มีสีภายนอกให้เลือก 8 สี ได้แก่ บรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์, เทา โพลีเมทัล เกรย์, แดง โซล เรด คริสตัล, เทา แมชชีน เกรย์, ขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล, ดำ เจ็ท แบล็ก, เงิน โซนิค ซิลเวอร์ และขาว เซรามิก เมทัลลิก วางราคาจำหน่ายราคาเท่ากันทั้งรุ่นซีดาน 4 ประตู และรุ่นแฮตช์แบ็ก 5 ประตู เริ่มต้นที่ รุ่น 1.3 E/1.3 E Sports ราคา 546,000 บาท, รุ่น 1.3 C/ 1.3 C Sports ราคา 599,000 บาท, รุ่น 1.3 S Leather/1.3 Sports Leather ราคา 659,000 บาท, รุ่น 1.3 SP/1.3 SP Sports ราคา 690,000 บาท และ รุ่น XDL/XDL Sports ราคา 799,000 บาท