“โตโยต้า” ปรับเป้า คาดการณ์ ตลาดรถยนต์ปี 67 วูบอีก 9%

โตโยต้าปรับเป้า คาดการณ์ตลาดรถปีนี้เหลือ 7.3 แสนคัน หลังมองเห็นปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบตลาดรถยนต์ในปัจจุบัน พร้อมเดินหน้าผลักดันกลุ่มรถยนต์พลังงานทางเลือก ตามนโยบาย Multi Pahtway รวมถึงแผนงานกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าปิกอัพ ที่พร้อมเดินหน้าทำตลาดปลายปี 2568
มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยยังไม่ดีนัก จากปัจจัยลบที่เกิดขึ้นหลายอย่าง เริ่มจากดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2566 ที่ไม่ดีนัก บวกกับสถาบันการเงินที่เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น รวมถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมที่ยังต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว
เหตุผลทั้งหมดที่ทำให้โตโยต้าตัดสินใจปรับลดเป้าหมาย ปีนี้จากเดิมตั้งเป้าไว้ 7.8-8 แสนคัน โดยหั่นคาดการณ์ตลาดรถเหลือประมาณ 7.3 แสนคัน หรือลดลงประมาณ 5% จากปี 2566 ที่มียอดขาย 7.7 แสนคัน ซึ่งลดลงจากปีก่อนหน้า 9% อย่างไรก็ตาม คาดว่ารัฐจะมีแนวทางออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเชื่อว่ามาตรการต่างๆ รวมถึงภาคการท่องเที่ยวที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้ตลาดรถยนต์ในช่วงครึ่งปีหลังปรับตัวดีขึ้น
ในส่วนของโตโยต้า แม้ตลาดรถยนต์โดยรวมไม่ดี แต่หากเทียบกับภาพรวมตลาด เชื่อว่าสถานการณ์ของโตโยต้าจะอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ โดยตั้งเป้าการขายปีนี้ 2.5 แสนคัน ส่วนแบ่งตลาด 34%
“แม้ว่าตลาดโดยรวมไม่ดี และยังได้รับผบกระทบจากตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหรืออีวี โดยเฉพาะอีวีจากจีนที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.ที่ผ่านมา ส่วนแบ่งตลาดโตโยต้าทำได้ 34.8% ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ที่ทำได้ 34.3%”
การที่ยอดขายโตโยต้าอยู่ในเกณฑ์ดี มาจากการยอมรับรถยนต์หลายรุ่น โดยเฉพาะรถที่เปิดตัวใหม่ เช่น โคโรลล่า ครอส รุ่นปรับโฉม ที่หลังจากเปิดตัว 1 เดือน มียอดจองมากกว่า 3,000 คัน ยาริส ครอส เปิดตัว 5 เดือน ยอดจอง 2.5 หมื่นคัน หรือว่า ไฮลักซ์ แชมป์ มียอดจอง 5,000 คันในช่วงเวลา 3 เดือน ซึ่งสูงกว่าเป้าทั้งหมด ซึ่งการที่รถหลายรุ่นของโตโยต้าประสบความสำเร็จ แม้จะอยู่ท่ามกลางการขยายตัวของอีวี มาจากกระแสความนิยมของรถลูกผสมอย่างไฮบริดยังคงได้รับการตอบรับที่ดี
“พลังงานทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นการตอบสนองด้านความประหยัด หรือการลดปัญหามลภาวะ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นอีวีเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีเทคโนโลยีอื่นๆ ที่สามารถตอบสนองได้ ทั้งนี้ ขึั้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า”
ทั้งนี้ โตโยต้ามองว่าการตอบสนองความต้องการของลูกค้า ไม่ได้อยู่ที่เทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งานด้วย ซึ่งบางกรณีรถไฮบริดอาจจะประหยัดกว่าอีวีก็ได้ ดังนั้น แนวทางของโตโยต้า คือ การเพิ่มความหลากหลายของทางเลือกให้ลูกค้า หรือเป็นไปตามนโยบายที่เรียกว่า Multi Pathway ขณะที่รถยนต์ในกลุ่มพลังงานไฟฟ้าหรืออีวีนั้น โตโยต้ายังเตรียมแผนผลิต ปิกอัพ ไฮลักซ์ อีวี ภายในช่วงปลายปี 2568 ที่จะถึงนี้