โซ่หลุด ฉบับ 1,108 ความแตกต่าง…ของ วิถีการทำงานของ “คนพีอาร์” แต่ละค่าย

เดือนสุดท้ายของปี 67… “โซ่หลุด” ย้อนเส้นทางในการเขียนเรื่องราวของ “คนมอเตอร์ไซค์” กว่า 1,000 ฉบับแล้ว ยังถามตัวเองเลยว่า…เอาอะไรมาเขียน โดยเฉพาะ “ตัวละคร” ที่เป็น “คนทำงาน” นั้น ผ่านมา แล้วก็ผ่านไป มีทั้งสนิทมาก และไม่สนิท มีทั้งได้เจอกันและไม่ค่อยได้เจอกัน แต่…คนทำงานที่สนิทจริงๆ ส่วนมากก็เป็น “คนพีอาร์” และก็แปลกที่ “คนพีอาร์” แต่ละค่าย ก็มีวิถีการทำงานแตกต่างกัน ทำให้ความสนิทสนมก็แตกต่างกันไป วันนี้…เมื่อเหลือค่ายรถที่ขยับตัวกันจริงๆ มีอยู่แค่ 2 ค่าย เป็นไทยฮอนด้ากับไทยยามาฮ่า ซึ่งทั้งสองค่าย…ต่างก็มีวิถีทางที่แตกต่างกัน ทำให้ความสนิทสนมระหว่าง “คนพีอาร์” กับ “โซ่หลุด” ก็มีแตกต่างกันอย่างชัดเจน ยิ่งในยุคที่ “คนสื่อ” หรือโลกของการสื่อสารเปลี่ยนแปลงไปอีกด้วย
อีกความแตกต่างที่ “โซ่หลุด” รู้สึก…ทั้งสองค่ายมีวิถีทางที่ชัดเจน “ไทยฮอนด้า” นั้น คนพีอาร์มาตามวิถีทางของการทำงานที่ไม่ได้ก้าวขึ้นมาแบบทดแทนกัน การเปลี่ยนหมุดความรับผิดชอบ บางครั้ง…คนที่มารับทำงานก็อาจจะไม่ใช่วิถีทางเดิม ด้วยเหตุนี้…ทำให้ความสนิทสนมก็เหมือนจะไม่ปะติดปะต่อ อยู่ๆ ก็อาจถึงเวลาโยกแผนก หรือบางครั้ง…ก็มาตามวิถีทางของบริษัท โยกมาจากอีกสายงาน ซึ่งไม่รู้ว่า…เป็นเพราะเหตุนี้หรือไม่? หัวแถวคนพีอาร์ของไทยฮอนด้า จึงมาตามวิถีไม่ได้มาตามเส้นทางการทำงาน ทำให้รู้สึก…เหมือนมีรอยต่อ ที่บางครั้ง…งานกำลังไหลลื่นก็ได้เวลาโยกย้ายแผนกอีกแล้ว เผลอๆ จากงานพีอาร์ไปอยู่อีกสายงาน ที่เป็นการเรียนรู้ตามวิถีแห่งบริษัท ที่คนทำงานต้องสามารถรู้หลายๆ เรื่องของงานในบริษัท บางครั้ง…เส้นทางก็อาจย้อนกลับที่เดิม หรือบางทีก็ไปแล้วไปลับ
ฟากฝั่ง… “ไทยยามาฮ่า” นั้น “คนพีอาร์” นั้น ส่วนมากมาตามเส้นทาง ไม่ค่อยได้โยกเยกออกนอกแผนก เติบโตแบบคนทำงานสายเดียว ซึ่ง “โซ่หลุด” มองว่า…งานพีอาร์ เป็นเหมือนงานเชื่อมโยง โดยเฉพาะความผูกพันกับคนสื่อ ที่ต้องใช้ความผูกพัน ความสนิทสนม เป็นแกนกลาง ทำให้ “โซ่หลุด” รู้สึกผูกพันและสนิทสนมมากกว่า เลยไม่แปลกใจ ทำไมวันนี้…จึงสามารถเชื่อมโยงกับ “คนพีอาร์” ไทยยามาฮ่า มากกว่า ซึ่งทำให้การประสานงานในหลายๆ เรื่อง สะดวกและรวดเร็วกว่า อย่าง “คนพีอาร์” ของทั้งสองค่ายนั้น ชัดเจนเลยว่า… “โซ่หลุด” สนิทและสื่อสารกับ “เบียร์” อัญชลี ศรีพิทักษ์ และทีมงาน ได้สะดวกและง่ายกว่า รวมถึง…ความสนิมสนมก็เป็นฟากฝั่ง “ไทยยามาฮ่า” นั้น สนิทและคุ้นเคยมากกว่า ที่เขียนยังงี้…มิได้หมายความว่า…มีปัญหากับใคร เพียงแต่ยกตัวอย่างให้เห็นถึงวิถีทางความแตกต่างของคน 2 ค่ายเท่านั้นเอง
ก้อ…เป็นแค่มุมมองของ “โซ่หลุด” ที่วันนี้…อาจจะเหลือเพียงคนเดียวที่เป็นคนสื่อสิ่งพิมพ์ ที่ยังคงผูกพันกับคนบริษัท ทำให้ได้เห็นความแตกต่างและวิถีทางแห่งคนทำงานแบบชัดเจนและแตกต่าง ซึ่งก็ไม่มีใครผิด หรือไม่มีใครถูก เป็นวิถีทางการทำงานของแต่ละค่าย ที่แตกต่างกันเท่านั้น
เป็นแค่มุมมองของ “โซ่หลุด” ที่มองเป็นคนสื่อเท่านั้น