แห่จอง “เอชอาร์-วี” เดือนเดียว 6.5 พันคัน
ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี มาพร้อมการตอบรับที่ยอดเยี่ยมจากแฟนฮอนด้า โกยยอดจองไปแล้วกว่า 6,500 คัน หลังผ่านเดือนแรกที่เคาะราคาขายและเปิดให้จับจอง ตอกย้ำความนิยมของสปอร์ตพรีเมียมเอสยูวี ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ทวงบัลลังก์เจ้าตลาดบี-เอสยูวี ล็อกเป้าเก็บเกี่ยวยอดจอง 20,000 คันในปีแรก
ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) ร่วมขับเคี่ยวในตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ด้วย ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี สปอร์ตพรีเมียมเอสยูวี ที่ลงทำตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันด้วยขุมพลังไฮบริด ภายใต้รหัส อี:เอชอีวี ต่อจาก ฮอนด้า ซิตี้ ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่มาพร้อมขุมพลังฟูลไฮบริดในบ้านเรา
มร.โนริยุกิ ทาคาคุระ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ฮอนด้า เอชอาร์-วี ถือเป็นรถยนต์รุ่นสำคัญที่ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้าทั่วโลก เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อปี 2557 สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญให้กับตลาดรถยนต์ในประเทศไทย เป็นรถยนต์รุ่นแรกที่เข้ามาเปิดเซ็กเมนต์เอสยูวีขนาดกลาง และเติมเต็มความต้องการของลูกค้าในกลุ่มรถเอสยูวีให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา ฮอนด้า เอชอาร์-วี เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดเอสยูวีที่ขับเคลื่อนการเติบโตของเซ็กเมนต์นี้ ด้วยยอดขายสะสมรวมกว่า 100,000 คัน”
“จากความสำเร็จดังกล่าว ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียที่ได้เปิดตัว ฮอนด้า เอชอาร์-วี เจเนอเรชันที่ 2 ภายใต้ชื่อ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ และเป็นประเทศแรกในโลก ที่ได้เปิดตัวรุ่น RS ที่มาพร้อมดีไซน์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ โดยนับเป็นก้าวสำคัญที่ ฮอนด้า เอชอาร์-วี ใหม่ จะมาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ขึ้นอีกครั้ง ด้วยการผสานทั้งระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง ในทุกรุ่นย่อย พร้อมเป็นยนตรกรรมเอสยูวีสำหรับทุกคนอย่างแท้จริง”
ถึงแม้จะมาพร้อมคำถามว่า ทำไมถึงมีให้เลือกใช้เฉพาะเครื่องยนต์ไฮบริด ซึ่งฮอนด้าให้เหตุผลว่า เป็นทิศทางการทำตลาดของยานยนต์ค่ายฮอนด้า สอดคล้องกับเทรนด์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกที่กำลังก้าวเดินไปสู่ขุมพลังแห่งอนาคต ส่งผลให้หลายๆ ค่ายขยับตัวรับการเปลี่ยนแปลงมาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และยังคงได้การตอบรับที่ดีจากแฟนฮอนด้าที่จับจองเป็นเจ้าของแล้วกว่า 6,500 คัน นับตั้งแต่เปิดตัวและจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
ด้วยความแข็งแกร่งของแบรนด์ ทั้งในเรื่องคุณภาพของผลิตภัณฑ์บวกกับมาตรฐานงานบริการ ส่งผลให้ ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) หมายมั่นปั้นมือที่จะขยับส่วนแบ่งในตลาดบี-เอสยูวี ที่ถืออยู่ 35% เพิ่มขึ้นไปครองเจ้าตลาดมิดไซซ์เอสยูวีอีกครั้ง โดยตั้งเป้าที่จะเดินหน้าเก็บเกี่ยวยอดขาย 20,000 คัน ภายในปีแรกที่ลงทำตลาดในประเทศไทย ท่ามกลางการขับเคี่ยวที่เข้มข้น
สำหรับ ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ใหม่ มาพร้อมดีไซน์สปอร์ตพรีเมียม โดดเด่นด้วยตัวถังที่ปราดเปรียวในสไตล์สปอร์ตคูเป้ มาพร้อมกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ สีเดียวกับตัวรถ (รุ่นEL) และกระจังหน้าสีดำเงา (รุ่นE) สอดรับกับไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED กันชนหน้าและหลังดีไซน์ใหม่ พร้อมด้วยไฟท้ายแบบ LED Light Strip และไฟเบรกเป็นเส้นแนวยาว เติมเต็มด้วยสปอยเลอร์หลังแบบสปอร์ต เสาอากาศครีบฉลาม และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว มาพร้อมโลโก้ H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้า และสัญลักษณ์ e:HEV ที่ด้านท้าย
และเป็นครั้งแรกในโลกกับการเปิดตัวรุ่น RS ที่ประเทศไทย ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมด้วยกระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ต พร้อมสัญลักษณ์ RS สัญลักษณ์ AMP UP บนกันชนหน้าด้านล่าง กันชนหน้า-หลัง พร้อมชายกันกระแทกด้านข้างสีดำแบบสปอร์ตตกแต่งด้วยโครเมียม ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential ไฟท้ายแบบ LED Light Strip สี Smoke ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 18 นิ้ว และหลังคากระจกแบบพาโนรามา
รวมถึงสีภายนอกทางเลือกอย่างสีแดงอิกไนต์ ที่มาพร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน สะท้อนความสปอร์ตไปอีกขั้นด้วยภายในห้องโดยสารที่ยกระดับความสปอร์ตด้วยเบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดงแบบสปอร์ต รวมถึงแป้นเบรกและแป้นคันเร่งสไตล์สปอร์ต มาพร้อมพวงมาลัยสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง และแผ่นกั้นห้องสัมภาระท้าย
มีให้เลือกใช้ 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น RS ราคา 1,179,000 บาท, รุ่น EL ราคา 1,079,000 บาท และรุ่น E ราคา 979,000 บาท ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังฟูลไฮบริด ภายใต้ชื่อ อี:เอชอีวี ซึ่งเป็นแนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของฮอนด้า เพื่อปูทางไปสู่ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในอนาคต