“แลมเบรตต้า” G350 Series II สกู๊ตเตอร์คลาสสิกระดับไฮเอ็นด์

“แลมเบรตต้า” เปิดตัว G350 Series II สกู๊ตเตอร์คลาสสิกระดับไฮเอ็นด์ เอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่ไม่เพียงแค่การถ่ายทอด DNA แท้ของ LAMBRETTA เอาไว้ในตัวตน เติมเต็มด้วยงานดีไซน์สไตล์อิตาเลียนอันโดดเด่น กับการกลับมาในรูปโฉมใหม่ของ “Remaster Collection” ดีไซน์ที่ยกระดับความคลาสสิกเข้าสู่ความเป็นตำนานของแลมเบรตต้ามากยิ่งขึ้น
นายกวิน ร่วมใจพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไดนามิค มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายแลมเบรตต้าในประเทศไทย เผยว่า “ ปีนี้แลมเบรตต้า ได้เดินทางเข้าสู่ปีที่ 77 ส่วนการทำตลาดในประเทศไทย บริษัทฯ ได้มีการเปิดตัวครั้งแรกอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี 2018 ถึงปีนี้ถือเป็นการก้าวเข้าสู่ปีที่ 7 กับ Product Line-up ทั้ง 3 ซีรีส์ในปัจจุบัน และเมื่อเทียบตัวเลขยอดขายของปี 2022 ที่มีเพียงโมเดลในซีรีส์ V-Special มียอดขายอยู่ที่ 5,890 คัน และเมื่อปี 2023 ที่ผ่านมา มีโมเดลในตะกูล X และ G เข้ามาเสริมทัพ และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี สามารถจบตัวเลขยอดจดทะเบียนที่ 13,347 คัน ซึ่งเทียบกับปีก่อนหน้า มีการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 126.6% และในปีนี้บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาทั้งในเรื่องของการนำเสนอ Product ที่น่าสนใจอย่าง G350 Series II คอลเลกชันใหม่ ที่ต่อยอดความสำเร็จจากรุ่นแรก และยังคงเดินหน้าพัฒนาในส่วนของการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับกับความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้น”
ล่าสุดเปิดตัว “G350 Series II” โฉมใหม่ของ “Remaster Collection” ในดีไซน์ที่ยกระดับความคลาสสิกเข้าสู่ความเป็นตำนานของแลมเบรตต้ามากยิ่งขึ้น อีกทั้งได้นำ Iconic badge ที่เคยปรากฏในรุ่นตำนานในอดีต มารีดีไซน์และประดับไว้ใน G350 Series II ได้อย่างลงตัว ยิ่งเป็นการเติมเสน่ห์ให้ G350 Series II และตอกย้ำว่า มันไม่ใช่แค่เพียงรถสกู๊ตเตอร์ แต่ยังเป็นงานศิลปะชิ้นสำคัญที่สะท้อนถึงมรดกและความงดงามแห่งวัฒนธรรมอิตาลีอีกด้วย
LAMBRETTA G350 Series II มาพร้อมกับฟังก์ชันเอกลักษณ์สุดพรีเมียม เครื่องยนต์ 330.1 ซี.ซี. 4 จังหวะ 1 สูบ 4 วาล์ว ที่มีคาแรกเตอร์การขับขี่ที่ให้ความสมูธ ตอบโจทย์ผู้นิยมความคลาสสิก ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ โดดเด่นด้วยการออกแบบโครงสร้างตัวรถแบบ Low & Long เอกลักษณ์ของ LAMBRETTA มาตั้งแต่อดีตสู่รุ่นปัจจุบัน บอดี้ตัวรถเหล็กแกร่งแบบ Full Monocoque Frame ที่เพิ่มความพิเศษดีไซน์ให้บริเวณข้างถังทั้งสองข้างสามารถถอดแยกชิ้นได้ เพื่อให้ง่ายต่อการเซอร์วิส รวมไปถึงการคัสตอมแต่งรถในสไตล์ต่างๆ ก็สามารถถอดเปลี่ยนได้ง่าย
ตัวรถยังคงดีไซน์สไตล์คลาสสิกตาม DNA ของ LAMBRETTA ทั้งช่องแตรหรือที่ชาวแลมเบรตติสต้าเรียกกันว่า จมูกหมู รวมไปถึงบังโคลนแบบคงที่ หรือ Fix Fender และเอกลักษณ์เฉพาะตัวกับไฟหน้าดีไซน์หกเหลี่ยม มาในระบบไฟ LED ทั้งไฟหน้า-หลัง ดีไซน์อันเป็นตำนานของ LAMBRETTA
ในส่วนของเทคโนโลยีทันสมัยกับหน้าจอเรือนไมล์แบบ TFT ให้สีสันคมชัด สามารถปรับระดับแสงหน้าจอได้ มีเซ็นเซอร์ที่สามารถปรับหน้าจอจากโหมดหน้าจอสว่างสำหรับกลางวัน และเป็นหน้าจอมืดสำหรับกลางคืน เมื่อตั้งค่าหน้าจอที่โหมดอัตโนมัติ พร้อมฟังก์ชันการเชื่อมต่อบลูทูธ ที่โชว์เบอร์สายเรียกเข้าบนหน้าจอ
ส่วนของเทคโนโลยีการขับขี่ สามารถควบคุมบาลานซ์ของตัวรถได้เป็นอย่างดี ด้วยการออกแบบระบบช่วงล่างในชุดกันสะเทือนหน้าแบบ Double Arm-Link ที่ถอดแบบดีไซน์เอกลักษณ์จากรุ่นตำนานของ LAMBRETTA มาไว้ในรุ่น G350 Series II เช่นเคยกับ Performance ที่ให้อารมณ์ความสมูธขณะขับขี่ มาพร้อมยางติดรถจากแบรนด์อิตาลีอย่าง Pirelli ยึดเกาะพื้นถนนให้ความปลอดภัยเหมาะกับการขับขี่ในเมืองไทย เพิ่มความมั่นใจกับระบบดิสก์เบรกทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ทำงานพร้อมกับระบบเบรกแบบ Dual-channel ABS
LAMBRETTA G350 Series II โฉมใหม่ มาพร้อม 4 คู่สีสันแห่งความคลาสสิก ได้แก่ Rosso-Bianco (สีแดงขาว) สีแดงในส่วนของจมูกและฝาข้างของตัวรถ เบาะสีดำ, Grigio-Bianco (สีเทาขาว) สีเทามีประกาย ในส่วนของจมูกและฝาข้างของตัวรถ, เบาะสีดำ, Nero-Bianco (สีดำขาว) สีดำในส่วนของจมูกและฝาข้างของตัวรถ เบาะสีแดง, Bianco-Rosso (สีขาวแดง) สีขาวในส่วนของจมูกและฝาข้างของตัวรถ, เบาะสีแดง กับราคาแนะนำขายที่ 216,500 บาท เรียกได้ว่าเป็นราคาที่สมกับการได้ครอบครองความหรูหราและความคลาสสิกของสายเลือดแห่งตำนานสกู๊ตเตอร์ที่สะท้อนถึงสไตล์ รสนิยม และความเป็นตัวตนของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี