“แกรนทัวริสโม” เปิดผ้าคลุม มาไทย 3 รุ่น ทั้งน้ำมัน-ไฟฟ้า

มาเซราติ ประเทศไทย เปิดตัวรถยนต์ แกรนทัวริสโม โฉมใหม่ อย่างเป็นทางการ ประกาศเตรียมเผยโฉมโชว์ตัวต่อสาธารณะ ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45
มาเซราติ ประเทศไทย เปิดตัว มาเซราติ แกรนทัวริสโม โฉมใหม่ อย่างเป็นทางการ นับเป็นการเปิดตำนานบทใหม่ ที่เริ่มขึ้นจาก มาเซราติ A6 1500 เมื่อ 77 ปีที่ผ่านมา โดยเป็นยนตรกรรมสไตล์จีที เป็นการผสมผสานอย่างลงตัวของสมรรถนะแบบรถสปอร์ต เข้ากับความสะดวกสบายเพื่อรองรับการขับทางไกล พร้อมเปิดรับจองทั้ง 3 รุ่นย่อย คือ โมเดนา (Modena), โทรเฟโอ (Trofeo) และสุดยอดนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นโฟลกอเร (Folgore) ที่แปลว่า สายฟ้า ในภาษาอิตาเลียน ภายใต้คอนเซปต์ ‘The Others Just Travel’ ที่มอบประสบการณ์พิเศษ มากกว่าคำว่าการเดินทาง
งานดีไซน์ของ แกรนทัวริสโม นำเสนอความสง่างามและสมรรถนะเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ด้วยรูปลักษณ์ที่ไม่ซ้ำใคร และสามารถจดจําได้ในทันที เส้นสายดูเรียบง่ายแต่ชัดเจน ผสานประสิทธิภาพการขับเคลื่อนที่ดีสุดในเซ็กเมนต์ สะท้อนตัวตนและความพิถีพิถันในการออกแบบ ขณะเดียวกัน สามารถรักษาสัดส่วนอันเป็นเอกลักษณ์ไว้ได้อย่างครบถ้วน ด้วยฝากระโปรงหน้าทรงยาว และตำแหน่งผู้ขับที่อยู่กึ่งกลางระหว่างล้อทั้ง 4 พร้อมหลังคาลาดต่ำสู่ด้านหลัง เน้นให้เห็นความโค้งมนของเสาซี ที่มีโลโก้ตรีศูลติดตั้งอยู่
ห้องโดยสารติดตั้งนวัตกรรมล้ำสมัย ด้วยระบบมัลติมีเดีย Maserati Intelligent Assistant (MIA), อินโฟเทนเมนต์ใหม่ล่าสุด, หน้าจอ comfort display ที่รวมฟังก์ชันหลักของทัชสกรีนอเนกประสงค์, นาฬิกาดิจิทัลอัจฉริยะ (Digital Smart Clock) และเฮด-อัพ ดิสเพลย์ (เป็นออปชัน) นอกจากนี้ ยังมอบประสบการณ์พิเศษแบบ all-round sound experience การันตีด้วยสุ้มเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของมาเซราติ รวมทั้งเวอร์ชันรถไฟฟ้า อันเกิดจากฝีมือการพัฒนาของวิศวกรจาก Maserati Innovation Lab มอบประสบการณ์สมบูรณ์แบบผ่านระบบเครื่องเสียง Maserati Sound Audio System และมีออปชันพิเศษกับสุดยอดเครื่องเสียงสัญชาติอิตาลี ‘Sonus Faber’ ลำโพง 12 ตำแหน่ง และ 19 ตำแหน่งให้เลือก
ขุมพลังเบนซิน 16 สูบ 3.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ เน็ททูโน (V6 Nettuno) บล็อกเดียวกับที่ใช้ใน ซูเปอร์คาร์รุ่นเอ็ม 20 (MC20) ติดตั้งในสองรุ่นย่อย คือ โมเดนา (Modena) ทำได้ 490 แรงม้า (hp) แรงบิด 600 นิวตันเมตร และโทรเฟโอ (Trofeo) ที่ผ่านการอัปเกรดเพิ่มก่าลังเป็น 550 แรงม้า (hp) แรงบิด 650 นิวตันเมตร
ส่วน กรันทูริสโม โฟลกอเร (GranTurismo Folgore) ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% ส่งกำลังผ่านมอเตอร์ 402 แรงม้า (hp) จํานวน 3 ตัว (หน้า 1 หลัง 2) ผสานเทคโนโลยีแบตเตอรี่ 800 โวลต์ ความจุ 92.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง เทคโนโลยีของรถแข่งฟอร์มูล่า อี (Formula E) ติดตั้งแบตเตอรี่ไว้บริเวณโครงสร้างกลางรถ (T-Bone) แทนที่การติดตั้งไว้ใต้เบาะผู้ขับ ส่งผลดีต่อสมดุลและจุดศูนย์ถ่วงของรถ ทำได้ 761 แรงม้า (hp) แรงบิด 1,350 นิวตันเมตร
โดยราคาจำหน่ายของ มาเซราติ แกรนทัวริสโม (GranTurismo) โฉมใหม่ มีดังนี้ GranTurismo รุ่น Modena ราคา 14.5 ล้านบาท, GranTurismo รุ่น Trofeo ราคา 16.9 ล้านบาท และGranTurismo รุ่น Folgore ราคา 12.9 ล้านบาท (รถไฟฟ้า)