ค่ายเอ็มจี ประกาศเป้าหมายยอดขายปี 2566 แตะ 4 หมื่นคัน หวังขยับขึ้นอันดับ 5 ตลาดรวมรถยนต์ไทย ปีนี้พร้อมเปิดอีวีเพิ่มอีก 2 รุ่น ชี้ปัญหาการขาดแคลนอะไหล่และเซมิคอนดักเตอร์เอ็มจีจะคลี่คลายและจบลงในช่วงครึ่งปีหลัง  

            ปีที่ผ่านมา ค่ายรถยนต์เอ็มจีปิดยอดการขายโดยประมาณ 2.8 หมื่นคัน ครองส่วนแบ่งอยู่ที่ 3.2% ของยอดขายตลาดรถยนต์ทุกแบรนด์ในประเทศไทย โดยแบ่งออกเป็นยอดขายที่มาจาก EV 4,000 คัน และอื่นๆ 2.4 หมื่นคัน ขณะที่เป้าหมายในปี 2566 คาดว่าจะทำได้ 4 หมื่นคัน แบ่งเป็น EV 1 หมื่นคัน และรถรุ่นอื่นๆ 3 หมื่นคัน ทั้งนี้ เอ็มจีได้ตั้งเป้าที่จะขยับอันดับมาสู่ท็อป 5 จากเดิมปีที่ผ่านมาอยู่อันดับ 7 ของตลาด

นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ยอดขายในปีที่แล้ว เราเจอปัญหาเรื่องการขาดแคลนซัพพลาย ส่งผลให้ตัวเลขการขายไปไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ในปีนี้กลับมาดีขึ้น ปัญหาเรื่องการซัพพลายคาดว่าจะกลับมาเป็นปกติในครึ่งปีหลัง จึงทำให้มั่นใจว่า ยอดขายที่วางไว้น่าเป็นไปตามหมายที่วางไว้ของปีนี้

นอกจากปัญหาเรื่องซัพพลายที่ได้รับการแก้ไขแล้ว ในส่วนของกลยุทธ์และแผนงานที่วางไว้ก็จะเป็นตัวเสริมที่ช่วยให้ยอดขายเป็นไปตามเป้า โดยปีนี้เอ็มจีพร้อมที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มอีก 2 รุ่น เป็นโมเดลใหม่ 1 รุ่น รุ่นปรับโฉมอีก 1 รุ่น ปัจจุบันเอ็มจีมีรถยนต์ไฟฟ้าที่ทำตลาดทั้งหมดได้แก่ MG ZS EV, MG 4 และ MG EP ซึ่ง 2 รุ่นแรกนั้นเปิดรับจองตามปกติ แต่ MG EP ได้ปิดรับจอง

“ต้นทุนรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในรุ่น MG EP ทั้งต้นทุนการผลิต  ค่าเงินต่างๆ แต่เรายังปรับราคาไม่ได้ เนื่องจากมีการทำข้อตกลงร่วมกันกับกรมสรรพสามิต ซึ่งแนวทางการทำตลาดของบริษัท อาจจะปรับไปสู่การขายฟลีท ไดเรกต์เซลส์ให้กับผู้ประกอบการรถสาธารณะ แท็กซี่ ซึ่งตรงนี้ก็ต้องศึกษาและพิจารณาในรายละเอียดกันอีกครั้ง ส่วนความพร้อมของโรงงานเกี่ยวกับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้านั้น ปลายปีก็น่าจะพร้อม แต่เบื้องต้นต้องดูเรื่องต้นทุนต่างๆ คาดว่าถ้าจะพร้อมจริงๆ ก็น่าจะเป็นปีหน้า”

ขณะแผนงานอื่นๆ ซึ่ง ณ ตอนนี้เอ็มจีเรามีสถานีชาร์จอีวีทั้งสิ้น 158 สถานี แบ่งเป็น เอ็มจี 103 แห่ง บางจาก 47 แห่ง และอื่นๆ อีก 8 แห่ง อนาคตจะให้มีจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของเอ็มจีอย่างน้อยๆ ทุก 150 กิโลเมตร รวมไปถึงการขยายเพิ่มโชว์รูมและศูนย์บริการให้ครบ 77 จังหวัด และจะเพิ่มศูนย์ซ่อมสีและตัวถัง จากปัจจุบันที่มี 67 แห่ง ภายในปีนี้จะเพิ่มเป็น 80 แห่ง ในส่วนของรถใช้แล้ว MG APPROVED ที่มี 8 แห่ง ก็จะเพิ่มอีก 5-10 แห่ง”

ส่วนแผนงานอนาคต เอ็มจีจะเริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในปี 2567 จากฐานการผลิตรถยนต์ในจังหวัดระยอง แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใด และบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษา ส่วนแผนดำเนินงานที่เอ็มจีจะมุ่งเน้นในปีนี้คือ ส่งเสริมภาพลักษณ์และการเติบโตของเอ็มจี เน้นคุณภาพการบริการ การขาย และความเชี่ยวชาญของพนักงาน

นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยในปีนี้ คาดว่าจะเติบโต เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว การท่องเที่ยวเริ่มกลับมา โดยประเมินว่ายอดขายรถยนต์ในปีนี้จะอยู่ที่ 8.5 แสนคัน และยอดขาย EV ในปีนี้จะเติบโต 3-4 เท่าหรือประมาณ 3-4 หมื่นคัน