‘เอ็กซ์ซี90’ ‘วอลโว่’ พลิกเกม ‘ไฮบริดผสม’ ขายคู่รถไฟฟ้า

วอลโว่ เปลี่ยนเกมกลยุทธ์สอดรับทิศทางการเติบโตของตลาด xEV ที่พุ่งขึ้นสวนทางบีอีวีที่ถดถอยลง พร้อมนำเสนอ “เอ็กซ์ซี90 พีเอชอีวี” ไมเนอร์เชนจ์ เอสยูวีรุ่นยอดนิยมตลอดกาล สร้างทางเลือกให้ผู้บริโภค พร้อมสานต่อแนวทางการเติบโตของตลาดรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด เพื่อไปสู่เป้าหมายยานยนต์พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบต่อไปในอนาคต
ภายใต้กระแสความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ลดน้อยถอยลง ส่งผลให้ภาพรวมรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในปัจจุบันกลับไปอยู่ในสภาวะทรงตัว เดินไปในทิศทางเดียวกับภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในยังคงเป็นทางเลือกหลัก โดยมีขุมพลังไฮบริด และปลั๊ก-อิน ไฮบริด เป็นตัวสอดแทรก หลังกระแสบีอีวีฟีเวอร์เริ่มซาลง ส่งผลให้ผู้ผลิตรถยนต์หลายค่ายให้ความสำคัญในทิศทางดังกล่าว และนำเสนอโปรดักต์เพื่อสร้างแรงจูงใจ สอดรับทิศทางการเติบโตของตลาด xEV
โดย วอลโว่ ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์รถยนต์จากฟากฝั่งยุโรปที่ประสบความสำเร็จในตลาด xEV อย่างรวดเร็ว ด้วยนโยบายและแผนงานที่มุ่งมั่นตามกลยุทธ์ของบริษัทแม่สู่การเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าล้วน และบริษัทยังตั้งเป้าที่จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2040
แต่อย่างไรก็ดี สถานการณ์ภาพรวมในตลาดรถยนต์ทั่วโลกที่แปรเปลี่ยนไป รวมถึงในประเทศไทย ส่งผลให้ วอลโว่ จึงได้ปรับแผนธุกิจใหม่ โดยชะลอแผนขายแต่รถยนต์อีวีทั้งพอร์ตในปี 2025 ออกไปก่อน พร้อมกลับมาให้ความสำคัญในรถยนต์ไฟฟ้ากลุ่มปลั๊ก-อิน ไฮบริด เพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมกับสภาพของตลาดรถยนต์ในประเทศไทย
มร.คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากพบว่าความต้องการ และการตอบรับรถยนต์ไฟฟ้าของผู้บริโภคในประเทศไทยยังไม่เป็นไปตามคาดการณ์ โดยผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังมีความต้องการใช้รถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด อยู่เป็นจำนวนที่ค่อนข้างมาก ส่วนเทรนด์การตอบรับรถยนต์ไฟฟ้านั้นมีการชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด โดยปัจจุบัน มีสัดส่วนความต้องการของรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด อยู่ที่ 20% โดยความต้องการของรถอีวีโตกว่า 24% ทำให้สัดส่วนเพิ่มเป็น 80%
ทั้งนี้ สถานการณ์ภาพรวมตลาดรถยนต์รวมและตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยปี 2568 ยังไม่มีปัจจัยที่ส่งผลดีต่อตลาดที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2567 โดย วอลโว่ ตั้งเป้ายอดขายในปี 2568 เติบโต 5% เมื่อเทียบกับปี 2567 มียอดจองให้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 3% จากตลาดรถพรีเมียมมีความต้องการ 35,000-36,000 คัน ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ อย่าง เอ็กซ์ซี90 ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ไมเนอร์เชนจ์ ที่เพิ่งเปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา และรถยนต์ไฟฟ้าอีก 2 รุ่น ที่วอลโว่ เตรียมแผนการเปิดตัวในตลาดประเทศไทยเร็วๆ นี้
“หลังจากเราแนะนำรถอีวีรุ่นใหม่ออกสู่ตลาดไป แต่เราก็ยังเห็นว่าผู้บริโภคยังมีความต้องการรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด อยู่อีกจำนวนพอสมควร ดังนั้น วอลโว่ จึงต้องการที่จะบาลานซ์ความต้องการของตลาดตรงนี้ รวมทั้งต้องการบาลานซ์โปรดักต์ของเราด้วย และแน่นอนว่าเมื่อผู้บริโภคยังมีความต้องการรถปลั๊ก-อิน ไฮบริดยังมีอยู่ เราเองก็ต้องพยายามตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าตรงนี้ด้วย” มร.คริส เวลส์ กล่าวเสริม
สำหรับ วอลโว่ เอ็กซ์ซี90 รุ่นใหม่ นับเป็นรถยนต์เอสยูวีขุมพลังปลั๊ก-อิน ไฮบริด ที่ได้รับการปรับปรุงหน้าตาใหม่ ภายในดีไซน์ใหม่ ราคาเริ่มต้น 4.69 ล้านบาท วอลโว่ เอ็กซ์ซี90 ถือเป็นสัญลักษณ์ของ วอลโว่ คาร์ส ด้วยชุดเทคโนโลยีและการอัปเดตการออกแบบที่หลากหลายทั้งภายในและภายนอก ทำให้รถยนต์เอสยูวีไฮบริดรุ่นเรือธงที่ได้รับรางวัลและขายดีที่สุดนี้ ดีขึ้นกว่าเดิมมาก
อย่างไรก็ตาม วอลโว่ เชื่อว่าอนาคตรถยนต์ที่จำหน่ายในประเทศไทยทั้งหมดจะต้องปรับพอร์ตเป็น รถยนต์ไฟฟ้า 100% อย่างแน่นอน นอกจากนี้ บริษัทยังได้วางแผนการเติบโตของรถวอลโว่มือสอง ไมล์น้อยคุณภาพดี อย่าง Volvo Selekt Approved Used Cars ว่ามียอดจำหน่ายปี 2024 เติบโตขึ้น 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน พร้อมกับแผนการเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีมาตรฐาน Volvo Certified Damage Repair Centre (VCDR) รวมถึงขยายบริการ Volvo Mobile Service ที่ให้ลูกค้ารับบริการตรวจเช็กและซ่อมบำรุงจากที่บ้านหรือสถานที่นัดหมาย เพื่อลดภาระในการเดินทางไปยังศูนย์บริการ และเพิ่มความรวดเร็วในแง่ของเวลาที่ลูกค้าต้องการนำรถเข้าซ่อมบำรุง
ทั้งนี้ วอลโว่ ยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสู่การเป็นยานยนต์ไฟฟ้าและเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัวในอนาคต