เอสยูวี “เอ็มจี” กระแสดี ปี 64 ขายทะลุ 16,104 คัน
เอ็มจี เผยยอดตัวเลขสะสมกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์มีอัตราเติบโตขึ้นต่อเนื่อง ปี 2564 ขายทะลุ 16,104 คัน ดันยอดรวมสะสม 5 ปี สูงถึงกว่า 70,000 คัน กางแผนเตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ลงตลาดในปีนี้ พร้อมยกระดับผลิตภัณฑ์ให้มีความโดดเด่นยิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์ให้ตรงความต้องการของลูกค้า และรักษาผู้นำในตลาดเอสยูวี
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เอ็มจีประสบความสำเร็จในการทำตลาดในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ (เอสยูวี) ด้วยยอดขายที่เติบโตขึ้นต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 5 ปี จนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาดนี้ได้ในระยะเวลาไม่นาน ผ่านการทำตลาดด้วยรุ่นเอ็มจี แซดเอส และ เอ็มจี เอชเอส
นอกจากนี้ทั้งสองรุ่นยังช่วยปูพรมตลาดรถยนต์ไฟฟ้าให้กับแบรนด์ ด้วยการทำตลาด เอ็มจี แซดเอส อีวี รถยนต์ไฟฟ้าล้วนที่บุกเบิกตลาดไทย และเอ็มจี เอชเอส พีเอชอีวี รถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด ที่จูงใจผู้บริโภคด้วยราคาที่เข้าถึงได้ ช่วยให้การตัดสินใจใช้รถยนต์ไฟฟ้าทำได้ง่ายขึ้น
ซึ่งในปี 2564 ที่ผ่านมา เอ็มจี สามารถกอบโกยยอดขายรถยนต์ในกลุ่มเอสยูวี รวมกว่า 16,014 คัน แบ่งเป็นรถประเภท บี-เอสยูวี ในรุ่นเอ็มจี แซดเอส และเอ็มจี แซดเอส อีวี 11,245 คัน ขณะที่เอ็มจี เอชเอส และเอ็มจี เอชเอส พีเอชอีวี มียอดขายกว่า 4,769 คัน โดยปัจจุบันเอ็มจีมีรถในกลุ่มเอสยูวี ที่จำหน่ายในประเทศไทยรวมแล้วกว่า 70,000 คัน
ปัจจุบันเอ็มจีทำตลาดรถเอสยูวีใน 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่ม บี-เอสยูวี ด้วย เอ็มจี แซดเอส ที่ถือเป็นรถยนต์อัจฉริยะ หรือ สมาร์ตคาร์ตัวจริงจากการติดตั้งระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART ที่ผู้ใช้รถสามารถเชื่อมต่อ ตรวจสอบ และสั่งการระบบต่างๆ ภายในรถผ่านโทรศัพท์มือถือ จึงตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบทั้งเทคโนโลยีและอรรถประโยชน์ที่หลากหลายของรถยนต์อเนกประสงค์
ส่วนอีกกลุ่มคือ ซี-เอสยูวี ด้วยรุ่นเอ็มจี เอชเอส ที่มีทั้งความสปอร์ตและความหรูหราเหนือระดับพร้อมติดตั้งฟังก์ชันการใช้งานและระบบความปลอดภัยขั้นสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดตั้งระบบ ADAS ที่เทียบเท่าระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ระดับที่ 2 (Partial Automation) ยิ่งไปกว่านั้น เอ็มจียังได้แนะนำเทคโนโลยีขับเคลื่อนที่ใช้พลังงานทางเลือก สอดรับกับเมกะเทรนด์ของโลกที่เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ด้วยการเปิดตัว เอ็มจี แซดเอส อีวี ซึ่งเป็นรถยนต์เอสยูวีที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% และเอ็มจี เอชเอส พีเอชอีวี ที่ผสมผสานระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์สันดาปเข้าด้วยกัน ออกมาเป็นระบบขับเคลื่อนในรูปแบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด ที่สามารถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ได้ไกลถึง 67 กิโลเมตร
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ ยังกล่าวต่อว่า สำหรับปีนี้เอ็มจีมีแผนแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ลงตลาด ซึ่งผมมั่นใจว่าจากความโดดเด่นของตัวผลิตภัณฑ์ทั้งในด้านเทคโนโลยี ความทันสมัย และคุณค่า ของรถเอ็มจีทุกรุ่นจะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้าคนไทย และทำให้เรายังคงเป็นผู้นำในกลุ่มเอสยูวี อย่างแน่นอน