“เอช6” เสริมแกร่งไฮบริด ตอบรับลูกค้า

เกรท วอลล์ มอเตอร์ สานต่อความนิยมรถยนต์อเนกประสงค์ภายใต้ขุมพลังไฮบริด ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคด้วย ฮาวาล เอช6 HEV PRO ชูความโดดเด่นในเรื่องของรูปโฉม รวมถึงออปชันเสริมการใช้งานที่ครบครัน ภายใต้ราคาจำหน่าย 1,099,000 บาท พร้อมข้อเสนอพิเศษ สร้างโอกาสจับจองเป็นเจ้าของ ตอกย้ำแนวทางการนำเสนอยานยนต์ทางเลือกที่คุ้มค่าคุ้มราคา
รถยนต์อเนกประสงค์เป็นหนึ่งในเซ็กเมนต์ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยสมรรถนะที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครบครัน ทั้งในเรื่องของการเดินทาง รวมถึงความอเนกประสงค์ภายในห้องโดยสารที่สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน เป็นแรงกระตุ้นให้บรรดาค่ายผู้ผลิตส่งผู้เล่นลงทำตลาดอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
โดย เกรท วอลล์ มอเตอร์ กระโดดเข้าร่วมวงด้วย ฮาวาล เอช6 รถยนต์อเนกประสงค์ภายใต้ขุมพลังไฮบริด ที่เปิดตัวในตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการในช่วงกลางปี 2011 ประเดิมด้วย 2 รุ่นย่อย อย่าง HEV PRO และ HEV ULTRA มาพร้อมความโดดเด่นทั้งในเรื่องของรูปโฉม รวมถึงออปชันเสริมการใช้งานที่ครบครัน ภายใต้ราคาที่น่าจับจองเป็นเจ้าของ เหนือคู่แข่งในตลาดคอมแพ็คเอสยูวี
ด้วยการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากลูกค้าในประเทศไทย ส่งผลให้ค่ายกำแพงเมืองจีนเติมเต็มการใช้งานด้วย ฮาวาล เอช6 ปลั๊ก-อิน ไฮบริด สานต่อความนิยมด้วยสมรรถนะการใช้งานที่ยกระดับขึ้นไปอีกขั้น เสริมความแข็งแกร่งให้กับไลน์อัปรถอเนกประสงค์ เพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค และยังคงไว้ซึ่งความนิยมเช่นเดียวกันรุ่นก่อนหน้าที่ประเดิมทำตลาดในประเทศไทย ภายใต้บทบาทของรถยนต์รุ่นแรกที่มาภายใต้แบรนด์ฮาวาล
ก่อนที่ ออลนิว ฮาวาล เอช6 จะเข้ามาสานต่อความนิยมของรถรุ่นดังกล่าว ในปีที่ผ่านมา ตอกย้ำแนวทางการนำเสนอยานยนต์พลังงานทางเลือก คู่ขนานไปกับการสร้างระบบนิเวศยานยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทย ซึ่งรถปลั๊ก-อิน ไฮบริด นับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภคที่ยังไม่พร้อมจะก้าวไปสู่รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ด้วยความอเนกประสงค์ภายใต้ขุมพลังลูกผสม ที่สามารถวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าได้กว่า 200 กิโลเมตร
ล่าสุด จากความต้องการของแฟน เอช6 ที่ติดใจในสมรรถนะและความคุ้มค่าคุ้มราคาของ ฮาวาล เอช6 HEV PRO ส่งผลให้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ เปิดโอกาสให้ลูกค้าที่สนใจสามารถจับจองเป็นเจ้าของรถรุ่นดังกล่าวอีกครั้ง ซึ่งล็อตพิเศษของรถรุ่นดังกล่าว จะเปิดให้จับจองผ่านช่องทางออนไลน์ไปจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน ในเวลา 23.59 น. ภายใต้ราคาจำหน่ายเพียง 1,099,000 บาท ในจำนวนจำกัด
สำหรับ ฮาวาล เอช6 HEV PRO ได้รับการพัฒนาบนแพลตฟอร์มโมดูลาร์อัจฉริยะ GWM LEMON ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบ ผสานการทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า และเพลาขับเคลื่อนอิเล็กทรอนิกส์แบบ Multi-mode DHT รีดพละกำลังสูงสุด 243 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 530 นิวตันเมตร รองรับการขับขี่ที่หลากหลาย พร้อมโหมดการขับขี่ 4 โหมด ได้แก่ โหมดมาตรฐาน,โหมดสปอร์ต,โหมดประหยัด และโหมดพื้นหิมะ
มาพร้อมรูปโฉมที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ด้านหน้าแบบ Star Matrix ที่ดูล้ำสมัยและมีมิติยิ่งขึ้น ทั้งยังมาด้วยขนาดที่ใหญ่ที่สุดในรถระดับเดียวกัน เติมเต็มการใช้งานด้วยระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูง-ต่ำ อัตโนมัติ และไฟส่องนำทางหลังดับเครื่องยนต์ รวมถึงล้ออัลลอยลายสปอร์ต ขนาด 18 นิ้ว และยางขนาด 225/60 R18 ระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และระบบกันสะเทือนหลังแบบอิสระ มัลติลิงก์พร้อมเหล็กกันโคลง พร้อมการปรับแต่งระบบช่วงล่างใหม่ เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่
ขณะที่ภายในห้องโดยสารเรียบง่ายแต่คงไว้ซึ่งความหรูหรา เน้นความกว้างขวางและสะดวกสบาย พร้อมการตกแต่งด้วยวัสดุสีดำ แฝงลายเส้นสีเงิน เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง พร้อมระบบดันหลังปรับด้วยระบบไฟฟ้า ช่วยลดความเหนื่อยล้าในการขับขี่ เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง และปุ่มปรับตำแหน่งเบาะผู้โดยสารด้านหน้าจากด้านคนขับ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระ ซ้าย-ขวา และระบบกรองอากาศ PM 2.5
ครบครันด้วยฟังก์ชันอัจฉริยะเสริมการขับขี่และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ, ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก, ระบบตรวจความดันลมยาง, กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา, การสั่งงานด้วยเสียงอัจฉริยะ รวมถึงการควบคุมสั่งงานและตรวจสอบสถานะของรถยนต์ผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ
โดยล็อตพิเศษนี้มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ เทา, ดำ และขาว ลูกค้าสามารถชำระเงินผ่านทางช่องทางออนไลน์ด้วยบัตรเครดิต บัตรเดบิต และโมบายแบงกิ้ง เสมือนหนึ่งการสั่งซื้อสินค้าจากลาซาด้าโดยทั่วไป หลังจากคำสั่งซื้อสำเร็จ พนักงานของ GWM รวมถึงทีมงาน iAM และ/หรือ GWM พาร์ทเนอร์สโตร์ จะติดต่อกลับภายใน 48 ชั่วโมง เพื่อยืนยันรายละเอียดคำสั่งซื้อ รวมถึงนัดหมายการจัดส่งรถล่วงหน้า ณ พาร์ทเนอร์สโตร์ ที่ลูกค้าสะดวก
พร้อมสร้างโอกาสให้เป็นเจ้าของได้ง่ายยิ่งขึ้น ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ อาทิ ดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% นาน 48 เดือน รวมถึงประกันภัยชั้นหนึ่ง และฟรีค่าอะไหล่และค่าแรงบํารุงรักษาตามระยะทางสูงสุด 10 ครั้ง ภายใน 5 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร เติมเต็มความมั่นใจด้วยบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ระยะเวลา 5 ปี รวมถึงการรับประกันคุณภาพ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร และการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริด 8 ปี ไม่จำกัดระยะทาง