“เลกซัส” เสริมไลน์อัพ ล่ายอดขายพรีเมียมคาร์
เลกซัสกรุ๊ป เสริมความแข็งแกร่งให้กับไลน์อัพในประเทศไทย ด้วย เลกซัส RX 500h F SPORT Performance ที่ยกระดับด้วยชุดแต่ง F SPORT PERFORMANCE เติมความสปอร์ตพรีเมียมทั้งภายนอกและภายใน และ เลกซัส RX 350h ลักชัวรีครอสโอเวอร์ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าพรีเมียมคาร์ที่ยังไม่พร้อมขยับไปสู่ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า
เลกซัสกรุ๊ป เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 40 ภายใต้แนวคิด “POWERING THE FUTURE” ผ่านการนำเสนอตัวเลือกพลังงานขับเคลื่อนที่หลากหลาย ทรงพลัง เพื่อความยั่งยืนกว่าที่เคย ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมเปิดตัวรถยนต์ไฮบริดภายใต้แบรนด์เลกซัส 2 รุ่น เพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคในประเทศไทย
นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ เลกซัสกรุ๊ป บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “บูธของเราได้ถูกนำเสนอผ่านแนวคิด POWERING THE FUTURE พร้อมก้าวไปสู่อนาคตการขับขี่ที่ทรงพลัง และยั่งยืนยิ่งกว่าที่เคย โดยตอกย้ำการนำเสนอตัวเลือกพลังงานขับเคลื่อนที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองรูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน ภายใต้วิสัยทัศน์ Lexus Electrified ที่มาครบทุกไลน์อัพ ทั้ง HEV, PHEV และ BEV”
ภายในงานได้เปิดตัว The New Lexus RX 500h F Sport Performance ที่ยกระดับด้วยชุดแต่ง F SPORT PERFORMANCE เติมความสปอร์ตพรีเมียมทั้งภายนอกและภายใน ตอบสนองการใช้งานด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ 2.4L-T HEV เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พละกำลังสูงสุด 366 แรงม้า มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ DIRECT4 ผสานการทำงานร่วมกับระบบไฮบริดใหม่ โดยเปิดจองสิทธิ์เป็นเจ้าของภายในงานจำนวนจำกัดเพียง 10 คัน เคาะราคาจำหน่าย 5,500,000 บาท
รวมถึง The New Lexus RX 350h ทางเลือกใหม่ของลักชัวรีครอสโอเวอร์ มาพร้อมเครื่่องยนต์ 4 สูบแถวเรียงขนาด 2.5 ลิตร มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ ทั้งยังประหยัดน้ำมันด้วยระบบไฮบริดที่ควบรวมมอเตอร์กำลังสูงเข้าไว้ด้วยกัน เติมเต็มการใช้งานด้วยอุปกรณ์ความปลอดภัยเต็มระบบ มาตรฐาน Lexus Safety System Plus มาพร้อม 2 รุ่นทางเลือก ได้แก่ Luxury AWD ราคา 4,440,000 บาท และ Premium AWD ราคา 4,790,000 บาท
พร้อมด้วย Lexus RX 450h+ PHEV ครอสโอเวอร์ขุมพลังปลั๊ก-อิน ไฮบริด ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้า E-FOUR ผสานการทำงานของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน และเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร สามารถวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าได้ระยะทางราว 90 กิโลเมตร ใน EV Mode และใช้เวลาชาร์จไฟเพียง 2 ชั่วโมงครึ่ง ด้วยเครื่องชาร์จกระแสสลับ TYPE2 ตอบสนองการใช้งานด้วย 2 รุ่นย่อย ได้แก่ Luxury AWD ราคา 4,640,000 บาท และ Premium AWD ราคา 5,090,000 บาท
ทั้งยังครบครันด้วยยนตรกรรมหรูอย่าง Lexus LS, Lexus LM, Lexus RZ, Lexus NX, LEXUS UX , LEXUS ES และ LEXUS IS มาพร้อมกับบริการ KINTO ONE และ KINTO ONE Experience ทางเลือกใหม่ของการใช้รถจากโตโยต้า ลีสซิ่ง ตอบรับไลฟ์สไตล์ลูกค้าคนรุ่นใหม่ ช่วยให้การใช้รถเป็นเรื่องง่าย สะดวกสบาย คุ้มค่า หมดกังวลเรื่องราคาขายต่อเพียงคืนรถเมื่อครบสัญญา
