เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เปิดตัว พร้อมประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ของรถยนต์ 3 รุ่นใหม่จาก Mercedes-AMG ที่มอบสมรรถนะเหนือระดับ สุนทรียแห่งดีไซน์ และจิตวิญญาณแห่งความแรง ถ่ายทอดผ่าน Mercedes-AMG SL 55 4MATIC+, G 63 และ GT 63 4MATIC+ ซึ่งเตรียมพร้อมให้ทุกคนได้สัมผัสกับยนตรกรรมระดับท็อปอย่างใกล้ชิด ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 นี้

Mercedes-AMG SL 55 4MATIC+ รถสปอร์ตเปิดประทุนสุดทรงพลัง ที่มาพร้อมงานดีไซน์สุดประณีต โดดเด่นด้วยกระจังหน้า AMG-specific radiator grille with V8-Styling-Paket Exterieur ไฟหน้าแบบ Digital Light ระบบไฟด้านข้างประตูแบบ AMG light display หลังคาเปิดประทุนแบบ Fabric soft-top ซึ่งสามารถเปิดและปิดภายในระยะเวลาเพียง 15 วินาที โดยควบคุมได้ในความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม. ด้านท้ายติดตั้งสปอยเลอร์ระบบไฟฟ้า electrically extending rear wing พร้อมติดตั้งล้ออัลลอย AMG ขนาด 19 นิ้ว

มอบประสบการณ์การขับขี่ระดับเฟิร์สคลาส ด้วยระบบปฏิบัติการ MBUX7 ในห้องโดยสาร ด้วยหน้าจอขนาด 11.9 นิ้ว ที่สามารถควบคุมได้ด้วยระบบสัมผัสและปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า 12-32 องศา ช่วยปรับให้มองเห็นหน้าจอได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ป้องกันแสงสะท้อนจากการเปิดหลังคาที่มากระทบหน้าจอ ส่วนจอหน้าที่นั่งคนขับเป็นหน้าจอขนาด 12.3 นิ้ว แบบ AMG-specific indicator ที่ทั้งสปอร์ต โฉบเฉี่ยวและเร้าใจ นอกจากนี้ ยังมีพวงมาลัยแบบ AMG Performance steering wheel ที่นุ่มกระชับมือด้วยหนัง Nappa leather และเบาะที่นั่ง AMG Sport seats พร้อม AIRSCARF

Mercedes-AMG SL 55 4MATIC+ มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.0 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบ Bi-Turbo มอบพละกำลังสูงสุด 476 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร ซึ่งประกอบขึ้นโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญเพียงผู้เดียว ตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย แบบระบบช่วยการออกตัวแบบ RACE START ช่วยให้รถสามารถพุ่งทะยานจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาเพียง 3.9 วินาที มอบความเร็วสูงสุด 295 กิโลเมตร/ชั่วโมง

เพิ่มความมั่นใจด้วยระบบขับเคลื่อนแบบ AMG Performance 4MATIC+ แบบ all-wheel drive ซึ่งถูกปรับแต่งให้สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ และ AMG RIDE CONTROL Sports Suspension โดยผู้ขับขี่สามารถปรับระบบการทำงานของช่วงล่างได้ถึง 3 ระดับ คือ Comfort, Sport และ Sport+ ทั้งยังมอบความปลอดภัยสูงสุดด้วยการติดตั้งกล้องมองรอบคันแบบ 360 องศา ระบบช่วยเหลือการขับขี่แบบ Driving Assistance Package ที่รวบรวมระบบความปลอดภัยต่างๆ ไว้อย่างครบครัน ยังมาพร้อม OPITONAL EXTRA ที่เปิดให้ลูกค้าสามารถเลือกออปชันและอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมได้อีกมากมาย

Mercedes-AMG GT 63 4MATIC+ รถสปอร์ตคูเป้สไตล์แกรนด์ทัวเรอร์ เจเนอเรชันที่สอง ที่สะท้อนดีเอ็นเอของรถมอเตอร์สปอร์ตที่ขับขี่ได้จริง มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.0 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบ Bi-Turbo และติดตั้งในตำแหน่งอันเป็นเอกลักษณ์แบบ Hot Inside “V” ทำให้เครื่องยนต์สามารถสร้างพละกำลังได้สูงถึง 585 แรงม้า แรงบิดสูงสุดถึง 800 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 3.2 วินาที และความเร็วสูงสุดถึง 315 กิโลเมตร/ชั่วโมง จับคู่กับเกียร์ AMG SPEEDSHIFT MCT 9-Speed Sport Transmission ที่สามารถรองรับแรงบิดได้สูง รวมถึงระบบ RACE START ในจังหวะออกตัวเพื่อการทำอัตราเร่งที่ดีที่สุด

ยังมาพร้อมระบบเบรกแบบ Sports Braking System และช่องระบายอากาศเพื่อลดอุณหภูมิของเบรกเมื่อมีการใช้งานในความเร็วสูง ระบบช่วยเหลือการควบคุมการเลี้ยวล้อหลังแบบ AMG Rear-Axle Steering, ระบบ AMG RIDE CONTROL Sports Suspension และ AMG Real Performance Sound เติมเต็มประสบการณ์แห่งความสปอร์ตอย่างเต็มรูปแบบ ผู้ขับขี่สามารถควบคุมเสียงของเครื่องยนต์ได้หลากหลายรูปแบบ เช่น Sporty, Discreet (BALANCED), Motorsporty และ Emotive (POWERFUL) สามารถเลือกโหมดผ่านระบบปรับรูปแบบการขับขี่ AMG DYNAMIC SELECT โดยในโหมด S และ S+

ภายใน Mercedes-AMG GT 63 4MATIC+ มาพร้อมระบบปฏิบัติการ MBUX7 กับหน้าจอตรงกลางขนาด 11.9 นิ้ว ควบคุมด้วยระบบสัมผัส และสามารถปรับระดับด้วยไฟฟ้า 12° ถึง 32° พร้อมหน้าจอ Driver’s display ขนาด 12.3 นิ้ว แบบ AMG-specific indicators พวงมาลัย AMG Performance Steering Wheel และเบาะหลังที่พับพนักพิงได้ในรถยนต์แบบ 2+2 ที่นั่ง สามารถเลือกซื้อเพิ่มเติมได้ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน

Mercedes-AMG G63 รถอเนกประสงค์สุดหรูทรงคลาสสิกแบบสปอร์ต มาพร้อมกับ AMG bodystyling ที่ตกแต่งด้วยกระจังหน้าแบบ AMG Specific Grille และกันชนหน้าแบบ AMG-specific front bumper เพื่อเพิ่มความสปอร์ตดุดัน ทั้งยังช่วยในด้านแอโรไดนามิกและการระบายอากาศ ผสานกับไฟหน้า MULTIBEAM LED ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มทัศนวิสัย และความปลอดภัยขณะขับขี่ ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ V8 Bi-Turbo ขนาด 4.0 ลิตร พละกำลังสูงสุด 585 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร ทำให้สามารถเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายใน 4.5 วินาที ซึ่งยกระดับสมรรถนะด้วยระบบ Mild Hybrid เสริมพลังการออกตัวที่เฉียบคม และตอบสนองได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

โดดเด่นด้วย AMG ACTIVE RIDE CONTROL Chassis ระบบช่วงล่างแบบ Active Hydraulic ที่เพิ่มความเสถียรในการขับขี่ และลดอาการโคลงตัวของรถ ซึ่งสามารถปรับการขับขี่ได้ 2 รูปแบบ คือ Off Road และ Sport โดยเพิ่มฟีเจอร์ความเป็นรถมอเตอร์สปอร์ตมากขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่ง Differential Lock อันเป็นเอกลักษณ์ของ G-Class โดยระบบสามารถล็อกเฟืองท้ายได้ถึง 3 จุด แต่ละจุดสามารถล็อกได้เต็ม 100% ช่วยให้รถสามารถขับผ่านพื้นผิวที่มีแรงยึดเกาะต่ำ เช่น โคลน ทราย หิมะ หรือพื้นผิวขรุขระได้อย่างมีประสิทธิภาพ รถรุ่นนี้ยังมาพร้อม OPITONAL EXTRA ที่เปิดให้ลูกค้าสามารถเลือกออปชันเพิ่มเติมได้

โดย Mercedes-AMG SL 55 4MATIC+ ราคาเริ่มต้นที่ 14,900,000 บาท, Mercedes-AMG GT 63 4MATIC+ ราคาเริ่มต้น 15,900,000 บาท และ Mercedes-AMG G 63 ราคาเริ่มต้น 18,800,000 บาท ผู้ที่สนใจสามารถสัมผัสรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม-6 เมษายน 2568