Ramindhra UHU

Top Menu

  • หน้าหลัก

Main Menu

  • ข่าวรถยนต์
  • ข่าวมอเตอร์ไซค์
  • รามอินทรา
    • มิตรภาพผ่านเว็บไซต์
    • รามอินทรา ยกนิ้วให้
    • รามอินทรา จุ๊กจิ๊ก
    • รามอินทรา จอ จ่อ จ้อ
    • รามอินทรา แคะคน ค้นข่าว
  • เกียร์ 6
  • คนในกรอบ
  • คนในสังคม
  • โซ่หลุด
  • Test Drive
  • หน้าหลัก

Ramindhra UHU

Header Banner

Ramindhra UHU

  • ข่าวรถยนต์
  • ข่าวมอเตอร์ไซค์
  • รามอินทรา
    • มิตรภาพผ่านเว็บไซต์
    • รามอินทรา ยกนิ้วให้
    • รามอินทรา จุ๊กจิ๊ก
    • รามอินทรา จอ จ่อ จ้อ
    • รามอินทรา แคะคน ค้นข่าว
  • เกียร์ 6
  • คนในกรอบ
  • คนในสังคม
  • โซ่หลุด
  • Test Drive
  • ‘ไทรทัน’ ทรงใหม่ ‘ปิกอัพ’ ครบเครื่อง เติมทางเลือก 13 รุ่น ย้ำเป้าหมายเบอร์ 3

  • “ฟอร์ด” ปั้นบุคลากรคุณภาพ เดินหน้าสานต่อโครงการ… ‘เปลี่ยนความรู้ สู่อาชีพ’ ปีที่ 8

  • ‘จีลี่’ กางแผนธุรกิจในไทย ขยายเครือข่ายศูนย์บริการ

  • ‘โตโยต้า’ แจงเจตนารมณ์ ขับเคลื่อนเป้าหมาย Net-Zero

  • ‘GWM’ ยิ้มรับยอด พ.ค. แทงก์ 300 ตอบโจทย์ลูกค้า

ข่าวรถยนต์
Home›ข่าวรถยนต์›“เบนซ์” เติมไลน์ วี-คลาส ตอบโจทย์ครอบครัว 5.4 ล้าน

“เบนซ์” เติมไลน์ วี-คลาส ตอบโจทย์ครอบครัว 5.4 ล้าน

By writer
January 22, 2023
663
0
Share:

เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ขยับตัวต้นปีด้วย Mercedes-Benz V 250 d Exclusive รถแวนอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง อิมพอร์ตจากฐานผลิตที่ประเทศสเปน ชูความหรูหรา พรีเมียม ครบครันด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ตอบโจทย์การเดินทางของครอบครัวยุคใหม่ ภายใต้ราคาจำหน่าย 5,400,000 บาท

            หลังจากเสริมทัพด้วยรถยนต์นั่งในตระกูลซี-คลาส อย่าง Mercedes-Benz C 350 e AMG Dynamic และ Mercedes-Benz Vito 119 CDI Tourer Select รถตู้อเนกประสงค์สำหรับผู้บริหาร  ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคในประเทศไทย ช่วงปลายปีที่ผ่านมา

ล่าสุด เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ประเดิมตลาดปี 2023 ด้วย Mercedes-Benz V 250 d Exclusive รถแวนอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ระดับเฟิร์สคลาส ผลผลิตจากโรงงานเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในเมืองบิโตเรีย-กัสเตอิซ ประเทศสเปน ฐานผลิตรถแวนของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก

Mercedes-Benz V 250 d Exclusive ตอบโจทย์การใช้งานในบทบาทของรถแวนแบบ 3 ตอน 7 ที่นั่ง จัดรูปแบบการนั่งแบบ 2-2-3 ตัวถังแบบ Extra Long ภายใต้มิติตัวถัง กว้าง x ยาว x สูง ที่ 1,928 x 5,370 x 1,909 มม. ส่งผลให้มีพื้นที่ใช้สอยในส่วนของพื้นที่โดยสารและพื้นที่บรรทุกสัมภาระที่มากขึ้น มีความจุสัมภาระสูงสุด 1,410 ลิตร และความจุถังน้ำมัน 70 ลิตร

ผสานความพรีเมียมและความสปอร์ตด้วยการตกแต่งแบบ Avantgarde รอบคัน ล้ออัลลอย 5-Twin Spoke ขนาด 18 นิ้ว พร้อมไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System ปรับลำแสงตามสภาพแวดล้อมแบบอัตโนมัติ และ Daytime Running Light รวมถึงการติดตั้งระบบไฟฟ้าสำหรับประตูบานเลื่อนของผู้โดยสารตอนที่ 2 และประตูท้าย พร้อมด้วยระบบกันสะเทือนแบบ AGILITY CONTROL ช่วยซับแรงกระแทกและทำให้ช่วงล่างมีความนุ่มนวลยิ่งขึ้น

ภายในห้องโดยสารตกแต่งคอนโซลด้วยลวดลาย pinstripe effect สอดรับกับหน้าจอหลักบนคอนโซลกลางที่เป็นจอมัลติมีเดียขนาด 10.25 นิ้ว ใช้ระบบเชื่อมต่อแบบ Smart Phone Integration รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto รวมถึงระบบ MBUX ผสานการทำงานของระบบมัลติมีเดียเข้ากับเทคโนโลยีอัจฉริยะ AI เพื่อเรียนรู้และจดจำพฤติกรรมของผู้ขับขี่  พร้อมระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester และ Ambient Light แบบปรับเฉดสีได้ 3 สี

โดดเด่นนุ่มสบายด้วยเบาะหนัง Lugano สีดำ ผู้โดยสารตอนหน้าปรับไฟฟ้า สามารถตั้งค่าหน่วยความจำได้ด้านละ 3 ตำแหน่ง ผู้โดยสารตอนหลังแถวที่ 1 จะเป็นรูปแบบ Luxury captain seat แยกซ้าย-ขวา ปรับด้วยไฟฟ้าและหน่วยความจำ 2 ตำแหน่ง พร้อมระบบนวดหลัง ระบบระบายอากาศ และระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติแบบแยกโซน โดยมีระบบ THERMOTRONIC สำหรับผู้โดยสารตอนหน้า และระบบ TEMPMATIC สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 4 สูบ ขนาด 1,950 ซี.ซี. ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เจเนเรชันล่าสุดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่สามารถรีดพละกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 4,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร ที่ 1,350-2,400 นาที ทำความเร็วสูงสุดโดยประมาณที่ 205 กม./ชม. ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 9 จังหวะ โดดเด่นในการรักษาระดับการทำงานของรอบเครื่องยนต์ให้ต่ำ และช่วยให้จังหวะการเร่งเครื่องมีความต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น เหมาะกับการขับขี่ในทุกสภาพถนน

ครบครันด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานและระบบความปลอดภัยขั้นสูง รวมถึงอุปกรณ์ที่เสริมความปลอดภัย อาทิ ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติแบบแอกทีฟ (Active Brake Assist) ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ ATTENTION ASSIST ระบบเปิด-ปิด ไฟสูงอัตโนมัติ (Automatic headlight assist) เซ็นเซอร์ปัดน้ำฝน (Rain sensor) เซ็นเซอร์ช่วยในการนำรถเข้าจอด (PARKTRONIC) ถุงลมนิรภัยและม่านถุงลมนิรภัยรอบคัน พร้อมเทคโนโลยีกล้องแสดงภาพแบบรอบทิศทาง (360º Camera)

สำหรับ Mercedes-Benz V 250 d Exclusive มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีขาว (Crystal white) สีแดง (Hyacinth red metallic) สีเงิน (Brilliant silver metallic) สีดำ (Obsidian black metallic) สีเทา (Pebble grey) และสีเทาเข้ม (Dark graphite grey metallic) วางจำหน่ายในราคา 5,400,000 บาท

Previous Article

“ยามาฮ่า” หนุนกองทัพไทย จัดงานวันเด็กประจำปี 2566

Next Article

“มาสด้า” ขายทะลุ 3 หมื่น ลุยเต็มสูบ ล็อกเป้าโต 10%

0
Shares
  • 0
  • +
  • 0

Related articles More from author

  • ข่าวรถยนต์

    “เออร์ติก้า” ปลดล็อก “ส่วนลด” ดันยอด ย้ำความคุ้มค่า กระตุ้นการตัดสินใจ

    July 2, 2023
    By writer
  • ข่าวรถยนต์

    “เสี่ยวเผิง” เร่งแผนสยายปีก เตรียมต่อยอดรุ่นใหม่ “X9”

    April 23, 2024
    By writer
  • ข่าวรถยนต์

    “นิสสัน อี-พาวเวอร์ ชาเลนจ์” ส่งทีมผู้ชนะทะยานสู่รอบชิงฯ

    January 6, 2025
    By writer
  • ข่าวรถยนต์

    “เอ็มจี” ส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า ขยายฐาน EV สู่องค์กรภาครัฐ

    January 8, 2022
    By writer
  • ข่าวรถยนต์

    ‘โตโยต้า’ เสริมแกร่งธุรกิจ จัดแข่งทักษะ-การบริการ

    November 27, 2023
    By writer
  • ข่าวรถยนต์

    “Toyota Dream Car Art Contest” 3 เยาวชนไทย คว้ารางวัลใหญ่ระดับโลก

    September 16, 2024
    By writer

Copyright © ramindhra-uhu.com. All rights reserved.