“เน็กซ์-เจน ฟอร์ด” ฟีเวอร์ “แร็พเตอร์” นำทัพโกยยอด เขย่าตลาดรถกระบะ-รถอเนกประสงค์
ฟอร์ด ประเทศไทย ยิ้มรับกระแสนิยมของ เน็กซ์-เจน ฟอร์ด ที่มาพร้อมการตอบรับที่ยอดเยี่ยมจากผู้บริโภคชาวไทย หลังใช้เวทีมอเตอร์โชว์เปิดตัวและทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ครบครันทั้งไลน์อัปรถกระบะและรถอเนกประสงค์ พร้อมเดินหน้าเก็บเกี่ยวยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง นำทัพโดย เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ตอกย้ำความนิยมของกระบะไฮเอ็นด์ในประเทศไทย
หลังจากที่ค่ายฟอร์ด ได้เปิดตัวเจเนอเรชันล่าสุดของรถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ ในตลาดโลก ตามด้วยรถอเนกประสงค์ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ก่อนจะเปิดตัวพร้อมเปิดราคาขายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการภายในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ ที่ผ่านมา สร้างกระแส เน็กซ์-เจน ฟอร์ด ฟีเวอร์ ด้วยการตอบรับจากลูกค้าชาวไทยที่ให้ความสนใจ และจับจองเป็นเจ้าของภายในงาน
นำทัพโดยรถกระบะไฮเอ็นด์อย่าง ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ที่ครองสัดส่วนยอดจองของรถฟอร์ดเจนฯใหม่ภายในงานมากกว่า 40% รวมถึง ฟอร์ด เรนเจอร์ และ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ที่ยังคงได้รับความนิยมในสัดส่วนใกล้เคียงกัน ซึ่งมีส่วนสำคัญในการผลักดันให้ค่ายฟอร์ด คว้ายอดจองในงานมอเตอร์โชว์เกาะอยู่ในกลุ่มหัวแถว ตอกย้ำความนิยมของรถยนต์ฟอร์ดในประเทศไทย
สำหรับ ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ เป็นผลผลิตจากโรงงานออโต้ อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย (เอเอที) และโรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอร์ริ่ง (เอฟทีเอ็ม) ในจังหวัดระยอง ซึ่งฟอร์ด ได้ลงทุนเพิ่ม 2.8 หมื่นล้านบาท หรือ 900 ล้านเหรียญสหรัฐ นับเป็นมูลค่าลงทุนในประเทศไทยครั้งใหญ่ที่สุดของฟอร์ด เพื่อรองรับและยกระดับการผลิตให้ล้ำสมัย ขับเคลื่อนกลยุทธ์ฟอร์ด พลัส เพื่อสร้างการเติบโตให้กับบริษัท
ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ รุ่นที่สองได้รับการออกแบบและพัฒนาโดยทีมฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ ยกระดับสมรรถนะด้านออฟโรด อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ใหม่ภายใต้ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบคู่ 3.0 ลิตร EcoBoost V6 มอบพละกำลัง 397 แรงม้า แรงบิด 583 นิวตันเมตร เพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ทั้งบนทางเรียบและเส้นทางออฟโรด ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ที่ปรับจูนตามมาตรฐานของฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์
มาพร้อมระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งใหม่ด้วยโช้คอัพ FOX แบบไลฟ์ วาล์ว Internal Bypass ขนาด 2.5 นิ้ว ซึ่งล้ำสมัยที่สุดเท่าที่เคยใช้ในฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ด้วยความสามารถในการปรับการทํางานได้แบบเรียลไทม์ โดยใช้เซ็นเซอร์รอบคัน ทําให้โช้คปรับค่าความหน่วงจากจุดปะทะต่างๆ ได้มากถึง 500 ครั้งต่อวินาที เติมเต็มประสิทธิภาพการใช้งานด้วย 7 โหมดการขับขี่
ภายในห้องโดยสารตกแต่งรายละเอียดด้วยสีส้มโค้ด ออเรนจ์ ตามแบบฉบับของฟอร์ด เพอร์ฟอร์แมนซ์ บนแผงหน้าปัด การตัดขอบชิ้นส่วนหลักๆ ในห้องโดยสาร เบาะนั่งทั้งด้านหน้าและหลังได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องบินรบ F-22 Raptor มอบความกระชับและเพิ่มความสบายในการเดินทาง ทันสมัยด้วยระบบดิจิทัลทั้งหมด แผงหน้าปัดความละเอียดสูงขนาด 12.4 นิ้ว และหน้าจอแบบสัมผัสตรงกลางขนาด 12 นิ้ว แสดงผลการเชื่อมต่อและระบบความบันเทิงผ่านระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 4A®
ส่วน ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ โดดเด่นด้วยกระจังหน้าโฉมใหม่อันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และไฟหน้าใหม่รูปตัว C เสริมภาพความดุดัน และเป็นครั้งแรกที่ฟอร์ดมาพร้อมไฟหน้าแบบเมทริกซ์ แอลอีดี และบันไดเหยียบข้างกระบะท้ายบริเวณด้านหลังล้อหลัง ช่วยให้การขึ้นกระบะท้ายรถสามารถทำได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น บนฐานล้อที่มีความยาว และความกว้างเพิ่มขึ้นอีก 50 มิลลิเมตร
สำหรับลูกค้าในประเทศไทย ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ 2 ตัวเลือก ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบคู่ 2.0 ลิตร หรือเทอร์โบเดี่ยว 2.0 ลิตร ทำงานคู่กับเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และตัวเลือกเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ด้วย ทำให้ฟอร์ด เรนเจอร์ พร้อมพาคุณไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือตะลุยเส้นทางสุดสมบุกสมบัน
ภายในห้องโดยสารอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย และฟังก์ชันการใช้งานที่ดียิ่งขึ้น ตกแต่งด้วยวัสดุที่หรูหรา และพื้นที่จัดเก็บสัมภาระมากกว่าเดิม แผงหน้าปัดใหม่ช่วยให้ภายในห้องโดยสารดูกว้างขวาง มาพร้อมระบบเชื่อมต่อการสื่อสารที่ช่วยให้คุณควบคุมและใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านหน้าจอสัมผัสแนวตั้งขนาด 10.1 หรือ 12 นิ้ว ที่เชื่อมกับกล้อง 360 องศา รวมถึงระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 4A® และแผงหน้าปัดดิจิทัลใหม่ที่ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ด้วยการแสดงผลข้อมูลเกี่ยวกับรถอย่างเต็มรูปแบบตามความต้องการของผู้ใช้งาน
ขณะที่ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ มาพร้อมระยะฐานล้อที่กว้างขึ้น 50 มิลลิเมตร และระยะระหว่างล้อหน้าและหลังที่เพิ่มขึ้น สร้างรูปลักษณ์ที่ดูล้ำสมัยและบึกบึนกว่าเดิม และยังมอบการควบคุมบนทางเรียบได้ดียิ่งขึ้น ขณะที่การปรับแต่งโช้คอัพใหม่ช่วยเพิ่มความสนุกเร้าใจในการขับขี่และช่วยในเรื่องการควบคุมรถ มาพร้อมตัวเลือกเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว หรือเทอร์โบคู่ ทำงานร่วมกันกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด
ภายในห้องโดยสารของฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ ให้ความรู้สึกกว้างขวาง แผงหน้าปัดดิจิทัลและคอนโซลกลางวางเต็มความกว้างของพื้นที่ พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ แท่นชาร์จแบบไร้สาย และระบบเบรกมือไฟฟ้า เบาะนั่งแถวที่ 2 และ 3 ออกแบบมาให้พับได้ราบสนิทเพื่อการบรรทุกสัมภาระขนาดยาวได้อย่างปลอดภัย
เติมเต็มด้วยเทคโนโลยีใหม่ควบคุมการทำงานผ่านหน้าจอระบบสัมผัสแนวตั้งความละเอียดสูงขนาดใหญ่ 10.1 หรือ 12 นิ้ว พร้อมแผงหน้าปัดดิจิทัล 8 หรือ 12.4 นิ้ว ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ ยังมาพร้อมระบบเชื่อมต่อการสื่อสาร SYNC 4A® เวอร์ชันล่าสุดของฟอร์ด รวมถึงการติดตั้งโมเด็มมาจากโรงงาน ทำให้ลูกค้าเชื่อมต่อกับรถได้ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชันฟอร์ดพาส™
สำหรับ ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ เคาะราคาเริ่มต้นที่ 1,869,000 บาท ขณะที่ ฟอร์ด เรนเจอร์ เจเนอเรชันใหม่ มาพร้อม 2 รุ่นทางเลือก ได้แก่ ไวลด์แทรค ในราคาเริ่มต้นที่ 999,000 บาท และรุ่นสปอร์ต ในราคาเริ่มต้นที่ 929,000 บาท รวมถึง ฟอร์ด เอเวอเรสต์ เจเนอเรชันใหม่ มีให้เลือก 2 เกรดเช่นกัน ได้แก่ รุ่นสปอร์ต ในราคา 1,464,000 บาท
และรุ่นไทเทเนียมพลัส ในราคา 1,854,000 บาท