กระแสการเปิดตัวของ “เซเรน่า” ภายใต้ราคา 1.469 ล้านบาท นับว่าเป็นช่วงจังหวะที่ดีของค่าย นิสสัน หลังได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการมองหารถยนต์แนวครอบครัว ส่งยอดจอง มินิแวน เซเรน่า ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ดีเกินคาด ตั้งเป้าเตรียมขยับรุ่นใหม่ “อี-พาวเวอร์” นำเสนอ

            ภาพรวมตลาดรถยนต์ในปี 2567 มีทิศทางที่ชะลอตัวตั้งแต่ต้นปี จากหลายๆ ปัญหาที่รุมเร้า  ไม่ว่าจะเป็นภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างรุนแรง ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง  รวมถึงความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน และด้วยเหตุผลนี้ ทำให้บรรดาค่ายรถยนต์ต่างจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถึงช่วงเวลาโค้งสุดท้ายของปี

เฉกเช่นเดียวกับ นิสสัน ประเทศไทย ที่ล่าสุดได้ปรับแผนกลยุทธ์ใหม่ เพื่อให้สอดคล้อมกับแนวโน้มของตลาดที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ด้วยการนำรถยนต์มินิแวน อย่าง นิสสัน เซเรน่า มาเปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการ เป็นครั้งแรก ภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2024 พร้อมประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ 1,469,000 บาท เคียงคู่ไปกับโชว์ตัว นิสสัน เซเรน่า เจเนอเรชันใหม่ ภายใต้รหัส C28 ที่คาดว่าน่าจะเปิดตัวจำหน่ายในปี 2568 โดยรุ่นนี้มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่แบบ อี-พาวเวอร์

นิสสัน เซเร่า เป็นรถมินิแวนที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในหลายๆ ตลาดมายาวนาน และในไทยเอง ลูกค้าหลายคนก็แสดงความประสงค์อยากได้มาใช้งาน ด้วยความเป็นรถที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย เหมาะแก่การใช้งานในรูปแบบครอบครัว โดยก่อนหน้านี้ เซเรน่า มีเข้ามาจำหน่ายบ้างแล้วผ่านผู้นำเข้าอิสระรายย่อย โดย เซเรน่า  เปิดตัวครั้งแรกในปี 2534 และหลังจากนั้นก็ขยับขยายไปยังตลาดต่างประเทศ โดยนิสสันส่งออกไปทำตลาดทั่วตลาดเอเชีย และยุโรป รวมถึงเปิดสายการผลิตในหลายภูมิภาค

มร.โทชิฮิโระ ฟูจิคิ ประธานนิสสัน ประเทศไทย และนิสสัน อาเซียน กล่าวว่า “นิสสัน  ประเทศไทย ยังคงยึดมั่นจุดยืนในการทำสิ่งที่คนอื่นไม่กล้าทำ มุ่งมั่นที่จะยกระดับการใช้ชีวิตของผู้คน ตลอดระยะเวลา 71 ปี ที่เราดำเนินธุรกิจในไทย นิสสันเข้าใจดีว่าคนไทยให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ที่ดีกับคนใกล้ชิด และนิยมใช้เวลากับครอบครัว เพื่อนฝูง เราจึงได้นำรถที่ใช้งานได้อเนกประสงค์ เหมาะจะเป็นเพื่อนร่วมทางที่สร้างประสบการณ์ประทับใจในทุกเส้นทางเข้ามาทำตลาด”

สำหรับ นิสสัน เซเรน่า ใหม่ พัฒนาขึ้นด้วยคอนเซปต์ “Big. Easy. Fun.” โดยชูจุดเด่นในเรื่องของความกว้างขวางภายในห้องโดยสาร ความสะดวกสบาย การขึ้น-ลง รถทำได้ง่าย การปรับเบาะนั่งได้หลายรูปแบบ สามารถใช้งานได้อเนกประสงค์ เหมาะกับการเดินทางพร้อมกันหลายคน  เช่น ครอบครัว สำหรับการพักผ่อน หรือเดินทางเพื่อการทำงาน

งานดีไซน์ของ เซเรน่า ที่เน้นในเรื่องของความทันสมัยทั้งภายนอกและภายใน มาพร้อมกระจังหน้าแบบ V-Motion ให้ความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ สอดรับกับโลโก้นิสสันเวอร์ชันใหม่ มาพร้อมไฮไลต์ประตูสไลต์เปิด-ปิดแบบอัตโนมัติ  ภายในห้องโดยสารให้ความกว้างมากที่สุดในกลุ่มรถแบบเดียวกัน ด้วยที่นั่ง 3 แถว กว้างขวาง นั่งสบาย กระจกบานใหญ่รอบคัน ทั้งกระจกหน้าและหน้าต่างด้านข้าง ฝาท้ายอเนกประสงค์ (Dual Back Door) น้ำหนักเบา เปิดได้ง่ายทั้งแบบเต็มบาน หรือครึ่งบาน เพิ่มความสะดวกแก่ผู้โดยสารและผู้ขับขี่ ให้สามารถเปิดฝาท้ายได้แม้จอดชิดด้านหลัง

มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ที่เก็บของหลายจุด ที่วางแก้ว 14 จุด ช่องเสียบ USB 6 ช่อง (ที่นั่งแถวละ 2 จุด) ระบบแอร์แยกส่วนที่ผู้โดยสารสามารถปรับอุณหภูมิได้ตามความต้องการเฉพาะตัว โต๊ะเล็กอเนกประสงค์ในแถวที่ 2 สำหรับวางสิ่งของ จอทัชสกรีน HD ขนาดใหญ่ 10.1 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อทั้งแบบไร้สายและด้วยสาย สำหรับ Apple CarPlay และ Android Auto เพิ่มความบันเทิงในทุกรูปแบบ

ขุมพลังของ เซเรน่า ที่ให้ทั้งสมรรถนะและความประหยัด ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร กำลัง 150 แรงม้า (PS) แรงบิด 200 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ CVT เครื่องยนต์แบบ S-Hybrid (Mild Hybrid) ทำงานร่วมกับ ECO Motor มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน 360 องศา  Nissan Safety Shield ระบบ Advanced Driver Assistance System (ADAS) ช่วยให้การขับขี่และการโดยสารมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ด้วยจุดเด่นที่กล่าวมาทั้งหมด รวมถึงการเปิดราคาจำหน่ายที่ไม่แพงจนเกินไป ส่งผลให้รถยนต์ นิสสัน เซเรน่า เจเนอเรชันนี้ ได้การตอบรับที่ดีเกินคาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มลูกค้าที่ต้องการรถยนต์ที่ใช้งานในรูปแบบครอบครัว พร้อมผลักดันยอดจองสะสมขยับขึ้นเป็นอันดัหนึ่งของแบรนด์ ภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี คงต้องให้ระยะเวลาสักพักใหญ่ เพื่อให้คนไทยได้ทำความรู้จักกับเจ้านิสสัน เซเรน่า ให้มากยิ่งขึ้น ก่อนจะปูทางไปสู่แนวทางในการทำตลาดด้วยรุ่นใหม่ ซึ่งคาดการณ์ว่าน่าจะมาในรูปแบบเทคโนโลยีใหม่ อี-พาวเวอร์ ในปี 2568 ตอกย้ำแนวทางการทำตลาดของ “เซเรน่า” ที่นิสสันให้ความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดรถยนต์ประเทศไทย