‘เชอรี่’ ปักหมุดไทย ปั้นแบรนด์ ผุดศูนย์บริการ

CHERY แบรนด์อันดับหนึ่งในด้านการส่งออกรถยนต์นั่งส่วนบุคคลจากประเทศจีน เตรียมเปิดแบรนด์พร้อมรุกตลาดเต็มตัว เดินหน้าลงทุนสร้างฐานการผลิตในประเทศไทย ขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายทั่วประเทศ ภายในปีนี้
CHERY แบรนด์อันดับหนึ่งด้านการส่งออกรถยนต์นั่งส่วนบุคคลจากประเทศจีน เป็นเวลา 22 ปีติดต่อกัน เตรียมเปิดแบรนด์และรุกตลาดเต็มตัวในปีนี้ ภายใต้กลยุทธ์ To Be the Top Choice for Family-oriented consumers ประกาศวิสัยทัศน์ในงาน Next Era Mobility: TECH DAY by CHERY and OMODA & JAECOO เน้นเจาะกลุ่มครอบครัวทั่วโลก เผยแผนสร้างแบรนด์ในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย เตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ CHERY Tiggo 8, CHERY V23 (Icar v23), CHERY Tiggo Cross และ CHERY Tiggo 7 พร้อมเดินหน้าลงทุนสร้างฐานการผลิตที่ จ.ระยอง และเดินหน้าขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายทั่วประเทศไทย 30 แห่งภายในปีนี้
นายจิม ลี ผู้อำนวยการแบรนด์ เชอรี่ (ประเทศไทย) เผยว่า CHERY ตั้งเป้าวางจำหน่ายแบรนด์ผ่านคำสำคัญ คือ Conquer & Guard ซึ่งสื่อถึงปรัชญาการออกแบบรถยนต์ที่มอบทั้งสมรรถนะในการพิชิตทุกเส้นทางการเดินทาง พร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุม เพื่อความมั่นใจสูงสุดให้กับผู้ขับขี่และครอบครัว โดยแนวคิดนี้สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของ CHERY ในการพัฒนารถยนต์ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านประสิทธิภาพการขับขี่และการปกป้องผู้โดยสารในทุกการเดินทาง ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำจุดยืนของแบรนด์ในตลาดรถยนต์ที่มุ่งเน้นคุณภาพและความปลอดภัยเป็นหัวใจสำคัญ
CHERY เตรียมเจาะตลาดด้วยไลน์อัปรุ่น Tiggo ซึ่งเน้น Comfortable Space และ Safe and Reliable ด้วยการดึงจุดเด่นของห้องโดยสารอเนกประสงค์ สามารถรองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ รวมถึงการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยแบบเหนือมาตรฐาน ด้วยอุปกรณ์และระบบช่วยขับขี่ระดับสูง อีกทั้ง CHERY ยังเดินหน้าขับเคลื่อนรถยนต์พลังงานสะอาดอย่างต่อเนื่องด้วยการเผยโฉมแพลตฟอร์มไฮบริดภายใต้ชื่อ CHS (Chery Super Hybrid) ที่จะเป็นไฮไลต์ของการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าในประเทศไทย ด้วย 3 จุดขายหลัก ได้แก่ Endless Horizone ขับได้ไกลเกินกว่า 1,400 กม.ต่อน้ำมัน 1 ถัง, Pushing Battery แบตเตอรี่ที่ให้ความปลอดภัยแม้ถูกชน, Light Up the Beautiful Moments รถที่ใช้ได้ทั้งเพื่อการเดินทางและการใช้ชีวิต
ในส่วนของสมรรถนะการขับขี่ CHERY Tiggo 8 และ Tiggo 7 มาพร้อมระบบขับเคลื่อน CHERY Super Hybrid (CHS) ซึ่งเป็นระบบ Plug-in Hybrid ทำงานควบคู่ระหว่างเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเทอร์โบและมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร ขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วนได้ระยะทาง 90 กม. (มาตรฐาน WLTC) CHERY Tiggo Cross ระบบขับเคลื่อน Hybrid ทำงานควบคู่กันระหว่างเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรและมอเตอร์ไฟฟ้า เครื่องยนต์ให้กำลังสูงสุด 96 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 120 นิวตันเมตร ในส่วนของมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร และ CHERY V23 ที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ มาพร้อมกับการขับขี่ที่คล่องตัว ด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้าล้วนให้กำลังสูงสุด 292 นิวตันเมตร
นอกเหนือจากการเดินหน้าลงทุนสร้างฐานการผลิตที่ จ.ระยอง CHERY ยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคชาวไทย ด้วยการขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายและศูนย์บริการกว่า 30 แห่งทั่วประเทศ โดยกระจายตัวในทุกภูมิภาค ในภาคเหนือ 3 แห่ง, ภาคกลาง 4 แห่ง, ภาคใต้ 4 แห่ง, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 แห่ง, กรุงเทพฯและปริมลฑลอีก 15 แห่ง สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการดูแลลูกค้าตลอดเส้นทางการใช้งานอย่างมืออาชีพและทั่วถึง