Ramindhra UHU

Top Menu

  • หน้าหลัก

Main Menu

  • ข่าวรถยนต์
  • ข่าวมอเตอร์ไซค์
  • รามอินทรา
    • มิตรภาพผ่านเว็บไซต์
    • รามอินทรา ยกนิ้วให้
    • รามอินทรา จุ๊กจิ๊ก
    • รามอินทรา จอ จ่อ จ้อ
    • รามอินทรา แคะคน ค้นข่าว
  • เกียร์ 6
  • คนในกรอบ
  • คนในสังคม
  • โซ่หลุด
  • Test Drive
  • หน้าหลัก

Ramindhra UHU

Header Banner

Ramindhra UHU

  • ข่าวรถยนต์
  • ข่าวมอเตอร์ไซค์
  • รามอินทรา
    • มิตรภาพผ่านเว็บไซต์
    • รามอินทรา ยกนิ้วให้
    • รามอินทรา จุ๊กจิ๊ก
    • รามอินทรา จอ จ่อ จ้อ
    • รามอินทรา แคะคน ค้นข่าว
  • เกียร์ 6
  • คนในกรอบ
  • คนในสังคม
  • โซ่หลุด
  • Test Drive
  • ‘ดีแมคซ์-มิวเอ็กซ์’ ‘อีซูซุ’ หนึ่งเดียว สืบทอด ‘ดีเอ็นเอ’ ที่คนไทยเชื่อมั่น

  • มาสด้า จัดแข่งขันกอล์ฟเยาวชน พัฒนาศักยภาพเด็กไทยสู่เวทีโลก

  • ‘บีวายดี’ ส่งมอบคันที่ 100,000 ปลื้มยอดจด PHEV อันดับ 1

  • ‘นิสสัน’ ชูจิตวิญญาณญี่ปุ่น ธีมมังงะ งาน JMS 2025

  • ‘เกีย’ เปิดตัว ‘คาร์นิวัล’ เติมทางเลือกพลังไฮบริด

ข่าวรถยนต์
Home›ข่าวรถยนต์›‘เกีย’ เปิดตัว ‘คาร์นิวัล’ เติมทางเลือกพลังไฮบริด

‘เกีย’ เปิดตัว ‘คาร์นิวัล’ เติมทางเลือกพลังไฮบริด

By writer
October 30, 2025
22
0
Share:

เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) เปิดตัว เกีย คาร์นิวัล เอชอีวี 7-ซีตเตอร์ ปรับลุคด้านหน้า ล้อ ออปชัน ทั้ง 2 รุ่น พรีเมียม และลักชัวรี ประกาศราคาจำหน่าย 2,499,000 และ 2,699,000 บาท ด้านรุ่นดีเซลหน้าเดิม ยังขายปกติ

เกีย คาร์นิวัล เป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดในไทยของเกีย ตั้งแต่ยุคตัวแทนจำหน่ายคนไทย และยุคปัจจุบันที่เกียเข้ามาทำตลาดเอง เรียกได้ว่าชื่อของรถขายตัวเองได้ และได้รับการยอมรับในกลุ่มผู้ชื่นชอบรถเอ็มพีวี (MPV) ที่มีประโยชน์ใช้สอยตรงกับความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะลูกค้าเดิมของเกีย

อย่างไรก็ตาม เกีย ยังคงมีตลาดที่ไม่ใหญ่นักและปัจจุบันยังต้องได้รับผลกระทบจากการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด รวมถึงการเข้ามาของอีวี (EV) จากจีน ที่ทำราคาได้น่าตื่นเต้น แต่อย่างไรก็ตาม เกีย ยังคงเดินหน้าที่จะเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันในตลาดนี้

ล่าสุด เกีย เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า เปิดตัว คาร์นิวัล ไมเนอร์เชนจ์ และขุมพลังใหม่ ไฮบริด ในรุ่น 7 ที่นั่ง ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.6 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า/5,500 รอบต่อนาที ทำแรงบิดสูงสุด 265 นิวตันเมตร/1,500-4,500 รอบต่อนาที มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 54 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 304 นิวตันเมตร ซึ่งจากการทำงานผสมผสานกันระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะให้สมรรถนะโดยรวม กำลังสูงสุด 245 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 367 นิวตันเมตร อัตราสิ้นเปลืองตาม Eco Sticker 15.9 กิโลเมตร/ลิตร

ภายนอกมีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ให้มีความพรีเมียมและสปอร์ตมากขึ้น ประกอบด้วย กระจังหน้าแบบ Tiger nose โคมไฟหน้ารูปแบบใหม่ ไฟ LED ดีไซน์ดวงไฟทรงลูกบาศก์ โดยรุ่น Luxury กับ Premium แตกต่างกันตรงที่รุ่น Luxury ไฟเลี้ยวจะอยู่บนเป็นแนวยาวร่วมกับไฟขับขี่กลางวัน หรือ Daytime Running Light ขณะที่ Premium จะเป็นไฟทรงลูกบาศก์ดวงล่างสุด ด้านท้ายออกแบบใหม่ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 19 นิ้ว ติดตั้งแร็คหลังคาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่รองรับน้ำหนักได้ 100 กิโลกรัม

ภายในเสริมออปชันเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็น ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกบังลมหน้า (HUD) ขนาด 11 นิ้ว (รุ่น Luxury) กระจกมองหลังแบบดิจิทัล (รุ่น Luxury) มาพร้อมระบบความปลอดภัยด้วยการติดตั้งถุงลมระหว่างผู้ขับกับผู้โดยสารด้านหน้า (รวมทั้งหมด 8 ตำแหน่ง) เซ็นเซอร์ช่วยเหลือการเข้าจอดด้านข้าง ระบบป้องกันการชนด้านหลังขณะถอยจอด

ส่วนออปชันเด่นอื่นๆ ที่มีอยู่แล้ว เช่น ประตูสไลด์ไฟฟ้า ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้า พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติเมื่อเข้าใกล้ตัวรถโดยที่มีกุญแจ Smart Key อยู่ด้วย ซันรูฟ 2 ตำแหน่ง Dual Sunroof (รุ่น Luxury) จอโค้งแบบพาโนรามิก รวมจอแสดงข้อมูลขนาด 12.3 นิ้ว กับหน้าจออินโฟเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ไว้ด้วยกัน มีระบบเชื่อมต่อ Android Auto และ Apple CarPlay แบบไร้สาย และฟังก์ชันสั่งงานด้วยเสียง ระบบปรับอากาศด้านหน้าแบบอัตโนมัติ ปรับอุณหภูมิได้แบบแยกอิสระทั้งโซนด้านหน้าฝั่งซ้าย-ขวา และโซนด้านหลัง สวิตช์สลับการควบคุมระบบอินโฟเทนเมนต์และระบบปรับอากาศ พอร์ต USB-C มาตรฐาน รวม 6 พอร์ต ลำโพง BOSE รอบคัน 12 จุด (รุ่น Luxury) ไฟเรืองแสง Ambient Light 64 เฉดสี 5 ตำแหน่ง ครอบคลุมคอนโซลและประตู (รุ่น Luxury)

เบาะผู้ขับมาพร้อมระบบจดจำตำแหน่งและระบบ Welcome Seat สำหรับผู้ขับ (รุ่น Luxury) เบาะนั่งคู่หน้าและเบาะนั่งแถวที่ 2 ติดตั้งระบบระบายอากาศและระบบอุ่นเบาะ (รุ่น Luxury) เบาะผู้โดยสารแถวสองเป็นแบบ Relaxation Seat  เบาะรองขาแบบปรับไฟฟ้า มีโหมด One-touch Relaxation ที่สั่งงานด้วยการกดเพียงครั้งเดียว (รุ่น Luxury)

แต่รุ่น Premium จะได้เบาะนั่งแถว 2 แบบถอดได้ และติดตั้งกลับด้าน หันหน้าเข้าหาเบาะนั่งแถวที่ 3 ได้ ทั้ง 2 รุ่น สามารถเดินผ่านเบาะนั่งแถว 2 เข้าไปยังแถวที่ 3 ได้ หรือ Walkthrough access จุดยึดสําหรับติดตั้งเบาะนั่งสําหรับเด็ก (ISOFIX) 4 ตำแหน่ง โดยอยู่ที่เบาะแถวสอง 2 จุด และอีก 2 จุดบนเบาะแถวสาม

ราคาจำหน่าย KIA Carnival HEV Premium 7-Seater 2,499,000 บาท และ KIA Carnival HEV Luxury 7-Seater  2,699,000 บาท อย่างไรก็ตาม แม้ เกีย จะเปิดตัว คาร์นิวัล ไฮบริด แต่สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร โฉมเดิม ก็ยังทำตลาดควบคู่กันไป

Previous Article

‘โตโยต้า’ ชวนคนรุ่นใหม่ เปิดไอเดียประกวดแต่งรถ

Next Article

‘นิสสัน’ ชูจิตวิญญาณญี่ปุ่น ธีมมังงะ งาน JMS 2025

0
Shares
  • 0
  • +
  • 0

Related articles More from author

  • ข่าวรถยนต์

    “นาวารา” ร่วมดับไฟป่า เสริมแกร่งทัพเหยี่ยวไฟ

    March 7, 2023
    By writer
  • ข่าวรถยนต์

    “ฮอนด้า” เปิดเกม “บีอาร์-วี” นิวเจนฯ ขาย 2 รุ่น ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

    August 10, 2022
    By writer
  • ข่าวรถยนต์

    “เวลอซ” พร้อมลุย ชิงยอดมินิเอ็มพีวี ขาย 2 รุ่น ล็อกเป้าครองเจ้าตลาด

    February 27, 2022
    By writer
  • ข่าวรถยนต์

    “สแกนเนีย” เชื่อตลาดฟื้น ตั้งเป้าครองบัลลังก์ 8 ปีติด

    February 26, 2024
    By writer
  • ข่าวรถยนต์

    “เกีย อีวี5” เขย่าตลาด ขาย 4 รุ่น เริ่ม 1.249 ล้าน

    April 8, 2024
    By writer
  • ข่าวรถยนต์

    “เอ็มจี” ปลุกตลาดครึ่งปีหลัง เปิดตัวรถใหม่ บี-เซ็กเมนต์

    June 29, 2024
    By writer

Copyright © ramindhra-uhu.com. All rights reserved.