‘ฮอนด้า’ ล็อกเป้าปี 2050 ขับเคลื่อนสู่สังคม Net Zero
ฮอนด้าเผยกลยุทธ์ทิศทางการดำเนินธุรกิจตามเป้าหมายฮอนด้าปี พ.ศ. 2593 (Honda Target 2050) ภายใต้ 2 แกนหลัก พร้อมตั้งเป้าหมายเดินหน้าลดการปล่อยก๊าซ CO2 เป็นศูนย์ ทุกขั้นตอนการผลิต ส่งเสริมพลังงานสะอาด และการหมุนเวียนทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อเปลี่ยนผ่านสู่สังคมปลอดมลพิษอย่างยั่งยืน
มร.โนริยุกิ ทาคาคุระ ประธานกรรมการบริหาร และซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) ยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจควบคู่กับการดูแลสภาพแวดล้อมอย่างสมดุล เราให้ความสำคัญตั้งแต่ต้นน้ำ ไปถึงปลายน้ำ ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ วิจัย พัฒนา การผลิต ครอบคลุมถึงการขาย และบริการ โดยเน้น 3 ด้าน ได้แก่ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ ใช้พลังงานสะอาด และการหมุนเวียนทรัพยากร เพื่อใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งยังมีการนำเทคโนโลยีอันล้ำสมัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ในกระบวนการผลิต รวมถึงนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมเทคโนโลยีอันล้ำสมัย และยังคงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อย่างเทคโนโลยีการขับเคลื่อน E:HEV ระบบฟูลไฮบริดประสิทธิภาพสูง ที่มอบสมรรถนะการขับขี่ทรงพลัง ประหยัดน้ำมัน และมีอัตราการปล่อยมลพิษที่ต่ำ โดยติดตั้งอยู่ในยนตรกรรมหลากหลายรุ่น และมาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนซิ่ง ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยป้องกัน และลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุในท้องถนน โดยฮอนด้า จะยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจโดยตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง”
ที่โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้า ทั้งที่ จ.ปราจีนบุรี และ จ.พระนครศรีอยุธยา ในทุกขั้นตอนมีการเปลี่ยนทรัพยากรธรรรมชาติ และนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการผลิต เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมีการดำเนินงานบางส่วน ได้แก่ เปลี่ยนแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานที่ยั่งยืน ด้วยการติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคา ที่โรงงานที่อยุธยา และปราจีนบุรี ในเฟส 1 เพื่อนำกระแสไฟฟ้าที่ได้จากพลังงานสะอาดไปใช้ในกระบวนการผลิต รวมถึงใช้เป็นไฟส่องสว่างในช่วงกลางคืน แทนการใช้พลังงานไฟฟ้า สามารถลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 7,862 ตัน/ปี ทั้งนี้ ฮอนด้ายังมีแผนขยายการติดตั้งในเฟส 2 ให้ครอบคลุมการใช้ไฟฟ้าทั้ง 2 โรงงาน ภายในปี 2566 อีกด้วย
นอกจากนี้ ตัวโรงงานทั้ง 2 แห่ง ยังมีระบบบำบัดน้ำเสียที่ทันสมัย เพื่อให้น้ำที่ผ่านการบำบัดมีคุณภาพ พร้อมหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ เพื่อประโยชน์สูงสุด และที่สำคัญยิ่ง เรายังมีพนักงานในสายการผลิตที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ทำให้เป็นน้ำดีที่ผ่านการบำบัดแล้ว ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชน
ที่โรงงานฮอนด้า มีพนักงานในสายการผลิตที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และปฏิบัติงานภายใต้มาตรฐานอันเข้มงวดในเรื่องความปลอดภัยอย่างสูงสุด โดยได้นำเทคโนโลยีอันล้ำสมัยมาใช้ ทำให้การผลิตมีความรวดเร็ว แม่นยำ และมีประสิทธิภาพสูง อาทิ สายงานการพ่นสี Painting Line ใช้เทคโนโลยี Waterborne Paint ซึ่งใช้น้ำเป็นตัวทำละลายแทนการใช้ทินเนอร์ และใช้กระบวนการเคลือบสี 3 ชั้น อบสีให้แห้ง 2 ครั้ง ช่วยเพิ่มประ สิทธิภาพการพ่นสี ลดการปล่อยสารระเหยที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ และช่วยประหยัดพลังงาน สายงานการฉีดขึ้นรูปพลาสติก Polymer Injection ใช้เครื่องฉีดขึ้นรูป มีการใช้ระบบ Eco-Servo Pump ช่วยลดพลังงานไฟฟ้า และมีความแม่นยำในการฉีดขึ้นรูปชิ้นงาน สายงานการควบคุมการรับ-ส่งชิ้นส่วน Material Service Line มีการใช้ระบบ Digital Picking System ลำเลียงชิ้นส่วนสู่สายการผลิตอย่างรวดเร็ว แม่นยำ สายงานการประกอบรถยนต์ Assembly Line & Arc Line มีการนำแนวคิดการทำงานแบบ Kaizen มาประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ทำให้พนักงาน 1 คน สามารถประกอบได้หลายขั้นตอน ประหยัดเวลา ลดการเคลื่อนไหวที่สูญเปล่าในสายงานประกอบรถยนต์ สายงานการผลิตเครื่องยนต์ Engine Plant ยังมีระบบ Automated Guided Vehicles ช่วยลำเลียงเครื่องยนต์สำเร็จรูปสู่สายการประกอบอย่างรวดเร็ว
และนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งจากหลายสิ่งที่ฮอนด้าได้ลงมือทำ เพื่อดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงมุ่งมั่นในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มีการใช้พลังงานสะอาด และหมุนเวียนการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด พร้อมยึดมั่นในความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพราะ ฮอนด้าเชื่อว่า อนาคต คือ การเริ่มต้นทำทุกสิ่งในวันนี้ด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท เพื่อสิ่งที่ดีกว่าในวันข้างหน้าด้วยกัน และยั่งยืนตลอดไป
สำหรับฮอนด้า เรายังคงมุ่งมั่นรักษาสมดุลในการดำเนินธุรกิจเพื่อสังคม และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องในทุกขั้นตอนการผลิต เพื่อสร้างสรรค์ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไป