‘อีซูซุ’ พลิกเกม ‘ดีแมคซ์ อีวี’ ‘ไทย’ ต้นทางขับเคลื่อน
ด้วยกระแสความร้อนแรง อีวี และเทคโนโลยียานยนต์ในปัจจุบัน ส่งผลให้ อีซูซุ ประกาศพลิกเกมนำประเทศไทย ขับเคลื่อนนโยบายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน พร้อมโชว์รถกระบะต้นแบบ “ดีแมคซ์ อีวี” และประกาศแผนผลิตรถปิกอัพไฟฟ้า ณ โรงงานสำโรง ประเทศไทย ส่งออกไปขายยังตลาดยุโรปเป็นเป้าหมายแรก พร้อมตั้งศูนย์ R&D “The EARTH Lab” รวมเม็ดเงินลงทุน 240,000 ล้านบาท
อีซูซุมอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น และ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด แถลงนโยบายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน พร้อมเดินหน้าด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชันแบบครบวงจร ที่ไม่ใช่เพียงแต่รถไฟฟ้าแบตเตอรี่ หรือรถไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน แต่ยังรวมถึงพลังงานอื่นๆ เพื่อให้ตอบโจทย์กับความต้องการเฉพาะด้านที่แตกต่างกันของลูกค้าทั่วโลก
มร. ทาคาชิ โอไดระ กรรมการผู้จัดการ และรองประธานบริหารรับผิดชอบด้านวิศวกรรม และกลยุทธ์ความเป็นกลางทางคาร์บอน บริษัท อีซูซุมอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า อีซูซุได้ประกาศเป้าหมายว่าจะ “สร้างเสริมการขับเคลื่อนอย่างสร้างสรรค์ของโลก” (Creating the Movement of the Earth) เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ซึ่งขณะนี้ “แผนงานด้านสิ่งแวดล้อมปี 2573” กำลังดำเนินงานไปอย่างราบรื่น ซึ่งเป้าหมายของเราพร้อมที่จะนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าประเภทต่างๆ ทั้งรถบรรทุกขนาดกลางและขนาดใหญ่ รถปิกอัพ และรถบัสโดยสาร ภายในปี 2573”
อีซูซุ ยังทุ่มเงินลงทุนมูลค่า 1 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 240,000 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับการวิจัยและพัฒนาภายในปีงบประมาณ 2573 เพื่อดำเนินการเรื่องการปฏิรูปทางดิจิทัลเกี่ยวกับความเป็นการทางคาร์บอนและโลจิสติกส์ (CN and logistics DX) และสร้างศูนย์พัฒนาและทดสอบยานยนต์ไฟฟ้า ภายใต้ชื่อ “The EARTH Lab” ภายในปี 2569
ซึ่งเม็ดเงินในจำนวนนี้แบ่งเป็นเงินลงทุนสำหรับประเทศไทยคิดเป็นมูลค่า 32,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการเตรียมความพร้อมอาคาร เครื่องจักร และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อเตรียมผลิตรถปิกอัพไฟฟ้า “อีซูซุ ดีแมคซ์” และ “อีซูซุ ดีแมคซ์ ไฮ-แลนเดอร์ MHEV” 4 ประตู ในประเทศไทย
มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เปิดเผยว่า อีซูซุ พร้อมแล้วที่จะเดินหน้าสนับสนุนนโยบายรัฐบาลและประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของภูมิภาคอาเซียน เพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality Society) ในปี 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2608
โดยในงาน อีซูซุ ยังได้นำรถยนต์ 4 รุ่น มาโชว์ตัวอย่างเป็นทางการ ประกอบไปด้วย รถปิกอัพไฟฟ้าต้นแบบ “อีซูซุ ดีแมคซ์” (Isuzu D-Max EV Concept) ซึ่งเป็นรถปิกอัพ 4 ประตู ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full Time ใช้แพลตฟอร์มเดียวกันกับรถปิกอัพเครื่องยนต์ดีเซล ชุดมอเตอร์คู่และเฟืองท้ายภายใต้ “eAxle” ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ทำงานร่วมกันทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ผสานกับช่วงล่างด้านหลังใหม่หมดแบบ De-Dion ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัว แรงบิดรวมกัน 325 นิวตัน-เมตร มอเตอร์ไฟฟ้าคู่กำลังสูง การออกแบบโครงและตัวถังที่แข็งแกร่งช่วยเพิ่มความสามารถในการลากจูงได้ มีแผนจะเริ่มผลิตเพื่อส่งออกอย่างเป็นทางการจากฐานการผลิตประเทศไทยในปี 2568
รถปิกอัพ “อีซูซุ ดีแมคซ์ ไฮ-แลนเดอร์ MHEV” 4 ประตู ซึ่งเป็นระบบการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ กับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก โดยการติดตั้งแบตเตอรี่ 48 โวลต์ ทำหน้าที่เสริมกำลังขับเคลื่อนให้กับเครื่องยนต์ 1.9 Ddi Blue Power คันนี้เป็นรถทดลองประกอบเพื่อเป็นหนึ่งในทางเลือกให้กับลูกค้า ซึ่งเราอยู่ในระหว่างการสำรวจตลาดก่อนกำหนดแผนการจำหน่ายต่อไป
รถบรรทุกไฟฟ้า “อีซูซุ เอลฟ์ อีวี” (Isuzu Elf EV) ที่พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “Isuzu Modular Architecture and Component Standard : I-MACS” สำหรับรถบรรทุกขนาดกลางและขนาดใหญ่ในรูปแบบต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมการออกแบบ “Center Drive System EV” ซึ่งเป็นการออกแบบรถบรรทุกไฟฟ้าโดยเฉพาะ
รถบรรทุกไฟฟ้าขนาดกลางเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน (Isuzu Elf FCEV) การพัฒนาร่วมกันระหว่างพันธมิตรทางธุรกิจ ภายใต้โครงการ Commercial Japan Partnership Technologies Corporation (CJPT) เหมาะกับการใช้งานบรรทุกหนัก สามารถเติมเชื้อเพลิงได้รวดเร็ว และไม่ก่อให้เกิดมลพิษ ซึ่งปัจจุบันได้มีการวิ่งทดสอบแล้วจำนวน 4 คัน เมื่อเดือนกันยายน ถึงพฤศจิกายน 2566
โดยตลอดระยะเวลา 67 ปีของการดำเนินธุรกิจอีซูซุในประเทศไทย อีซูซุ ได้อยู่เคียงคู่กับสังคมไทยในฐานะนิติบุคคลที่ดีเสมอมาภายใต้ปรัชญาการดำเนินธุรกิจ “วิถีอีซูซุ” (Isuzu Spirit) ผู้ใช้สุขใจ เพิ่มพูนรายได้ ช่วยให้สังคมพัฒนา” ผ่านนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์ และพร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอนในประเทศไทยให้ไปสู่เป้าหมายตามเจตนารมณ์ที่ได้ตั้งใจไว้