“อีซูซุ” จัดเต็มคาราเบล “ดีแมคซ์” ตอกย้ำผู้นำ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ ขยับตัวย้ำบทบาทผู้นำตลาดรถกระบะด้วย อีซูซุ ดีแมคซ์ ไมเนอร์เชนจ์ มาพร้อมรูปโฉมที่โฉบเฉี่ยว ทันสมัย และดุดันยิ่งขึ้น ยกระดับความหรูและความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารภายใต้มิอุระดีไซน์ ตอบสนองการใช้งานที่ครบครันด้วยขุมพลังทางเลือก 2 พิกัด ที่ได้รับการอัปเกรดเพื่อรองรับมาตรฐานยูโรไฟว์ ปูพรมครบครันด้วย 36 รุ่นย่อย เคาะราคาจำหน่าย 540,000-1,264,000 บาท ไล่ล่ายอดขายโค้งสุดท้ายของปี
เจเนอเรชันที่ 3 ของรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ เปิดตัวอย่างเป็นทางการในตลาดประเทศไทย ช่วงปลายปี 2019 และยังคงไว้ซึ่งการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากผู้บริโภค ก่อนที่จะเพิ่มความสดใหม่ด้วยรุ่นปรับโฉมในช่วงปลายปี 2021 ตอกย้ำบทบาทผู้นำตลาดรถกระบะในประเทศไทย ตอบสนองการใช้งานภายใต้ความทันสมัยทั้งในเรื่องของรูปโฉม รวมถึงสมรรถนะการใช้งาน
ล่าสุด ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ เขย่าตลาดรถกระบะอีกครั้งด้วย อีซูซุ ดีแมคซ์ ไมเนอร์เชนจ์ ซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ 6 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดย มร.ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่า “อีซูซุส่งรถปิกอัพ อีซูซุ ดีแมคซ์ ใหม่ กระตุ้นตลาดปลายปี หวังสร้างยอดขายอย่างต่อเนื่อง ด้วยดีไซน์ใหม่ทั้งภายในและภายนอก เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนา ส่งมอบผลิตภัณฑ์อันดีเยี่ยม ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้ใช้รถอย่างแท้จริง”
สำหรับ อีซูซุ ดีแมคซ์ รุ่นปรับโฉม ตอบสนองการใช้งานที่ครบครันด้วยรุ่นย่อยที่หลากหลาย มาพร้อมรูปโฉมที่โฉบเฉี่ยวทันสมัยยิ่งขึ้น นำทัพด้วยรุ่นวี-ครอส ยกระดับความแข็งแกร่งและดุดันด้วยชุดแต่ง ISUZU V-Cross Package โดดเด่นด้วยไฟหน้าดีไซน์ใหม่ โฉบเฉี่ยวด้วย ISUZU Vision Bi-LED พร้อม Multifunctional Daylight ทำหน้าที่ทั้ง Daylight ไฟหรี่ และไฟเลี้ยว
รวมถึงกระจังหน้าแบบ 3-Dimension สีเทาดำ และ Black Chrome พร้อมด้วย Air Curtain ที่กันชนหน้า นวัตกรรม Aerodynamic ลดแรงต้านอากาศ แบบฉบับรถสปอร์ตหรู เติมเต็มด้วยไฟท้ายแบบ Triple-Armour LED สัญลักษณ์ใหม่แห่งความโดดเด่น และล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์แบบ Rugged & Wild สี Matte Black เท่ แกร่ง ดุดัน ลุยน้ำได้ลึกสุด 800 มม.
ภายในห้องโดยสาร ยกระดับความสะดวกสบายสไตล์พรีเมียม เพิ่มความโดดเด่นด้วยมิอุระ ดีไซน์ หรูหรามีมิติ ภายใต้แนวคิด High-Class & Sophisticated เน้นสีทูโทน ดำ-น้ำตาล แผงคอนโซลหน้า Sharp Horizontal Layers เพื่อการใช้งานที่สะดวกสบาย เบาะดีไซน์ใหม่ พร้อมเทคโนโลยี COOLMAX ช่วยลดการสะสมความร้อน ระบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
Charging Socket แบบ USB-C ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone ควบคุมอุณหภูมิอิสระซ้าย-ขวา สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กได้ถึงระดับ PM 2.5
เติมเต็มความสะดวกและปลอดภัย ด้วยระบบช่วยเตือนขณะถอยรถยนต์ RCTA พร้อมระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย RCTB รวมถึงระบบ Rough Terrain Mode ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ทั้ง 2 และ 4 ล้อ ด้วยการควบคุมการกระจายกำลังทุกช่วงความเร็ว และระบบแสดงองศามุมปีนไต่ ลาดเอียง และทิศทางการเลี้ยวของล้อ ที่หน้าจอ Integrated MID และ Infotainment Display ช่วยให้สามารถลุยได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์อีซูซุ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว VGS Turbo พละกำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร รองรับน้ำมันสูงสุด ดีเซล B20 ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ แบบ Sequential Shift มาพร้อม 4 รุ่นทางเลือก เคาะราคาจำหน่าย 917,000-1,264,000 บาท มาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ด้วย 3D Imaging Stereo Camera ที่กว้างขึ้นและแม่นยำขึ้น
ขณะที่ อีซูซุ ไฮ-แลนเดอร์ ภายใต้บอดี้ 4 ประตู มีให้เลือกใช้มากถึง 9 รุ่นย่อย มาภายใต้รูปโฉมที่ได้รับการยกระดับความโฉบเฉี่ยว ดุดัน และทันสมัยยิ่งขึ้น ไล่เลียงจากฝากระโปรงหน้าไปจนถึงด้านท้ายรถ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งยังตอบสนองการใช้งานที่ครบครันยิ่งขึ้น ภายใต้เครื่องยนต์ 2 พิกัดให้เลือกใช้ ทั้งเครื่องยนต์อีซูซุ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ กำลังสูงสุด 190 แรงม้า และเครื่องยนต์อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ เจน 2 กำลังสูงสุด 150 แรงม้า เคาะราคาจำหน่าย 865,000-1,151,000 บาท
ส่วน อีซูซุ ไฮ-แลนเดอร์ รุ่น 2 ประตู สอดรับกับทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น ผสานสมรรถนะความทนทาน และความประหยัดน้ำมัน มีให้เลือกใช้ทั้งเครื่องยนต์อีซูซุ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ กำลังสูงสุด 190 แรงม้า และเครื่องยนต์อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ เจน 2 พละกำลังสูงสุด 150 แรงม้า มีให้เลือกใช้ 5 รุ่นย่อย เคาะราคาจำหน่าย 758,000-935,000 บาท
ขณะที่ อีซูซุ ดีแมคซ์ แค็บโฟร์ มาพร้อมเครื่องยนต์อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ยกระดับรูปโฉมภายนอกด้วยล้ออัลลอย ขนาด 16 นิ้ว ดีไซน์โฉบเฉี่ยวทันสมัย รวมถึงกระจังหน้าและชุดไฟส่องสว่างที่ดุดันทันสมัยยิ่งขึ้น พร้อมด้วยภายในห้องโดยสารที่ได้รับการออกแบบสำหรับการใช้งานที่หลากหลายสะดวกสบาย ตามหลัก Usability Design มาพร้อมราคาจำหน่ายตั้งแต่ 731,000-882,000 บาท
ปิดท้ายด้วย อีซูซุ ดีแมคซ์ สเปซแค็บ ที่ตอบสนองการใช้งานภายใต้ขุมพลังอีซูซุ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ และ เครื่องยนต์อีซูซุ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ เจน 2 ชูสมรรถนะที่โดดเด่นและประหยัดน้ำมัน ภายใต้ราคาจำหน่าย 650,000-760,000 บาท ขณะที่ อีซูซุ ดีแมคซ์ สปาร์ค พร้อมลุยทุกงานบรรทุกหนัก ภายใต้ขุมพลัง 2 พิกัดเช่นกัน มีให้เลือกทั้งรุ่น 4×2 และรุ่น 4×4 ซึ่งได้เพิ่มระบบ Rough Terrain Mode มาในรุ่น 4×4 ด้วย ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 540,000-727,000 บาท