“อัลติส” ยกระดับ เติมทางเลือกเอชอีวี

ค่ายโตโยต้า เร่งเครื่องโค้งสุดท้าย เปิดตัวรถใหม่ต่อเนื่อง ล่าสุดถึงคิวของ โคโรลล่า อัลติส โฉมปี 2024 เติมความสดใหม่ ออปชันครบครัน พร้อมส่งรุ่น “เอชอีวี จีอาร์ สปอร์ต” ต่อยอดกระแสความฮอตในตลาด xEV ดีไซน์ใหม่ทั้งภายใน-ภายนอก พร้อมยกระดับความสปอร์ตไปอีกขั้น โดย อัลติส ใหม่ จะทำตลาด 4 รุ่นย่อย เริ่มต้น 894,000–1,129,000 บาท
โตโยต้า ยังคงเป็นหนึ่งในค่ายรถยนต์ที่สร้างความคึกคักให้กับตลาดรถยนต์ในไทยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เปิดตัวรถยนต์นั่งรุ่นใหม่ อย่าง โคโรลล่า อัลติส โฉมใหม่ ปี 2024 พร้อมสานต่อความนิยมในตลาด xEV ชูไฮไลต์รุ่นย่อย “เอชอีวี จีอาร์ สปอร์ต” ย้ำบทบาทผู้นำด้านรถยนต์ไฮบริด ภายใต้แนวคิด “TOYOTA TRUSTED HEV” ที่ผสานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์อย่างลงตัว
โตโยต้าถือเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกตลาดยานยนต์ไฟฟ้า xEV รายแรกๆ ในประเทศไทย โดยเริ่มผลิตและแนะนำ โตโยต้า คัมรี่ ไฮบริด เป็นครั้งแรก ในปี 2552 จากนั้น ได้ยกระดับและเปิดตัวรถไฮบริดตามมาอีกหลายรุ่นในหลายเซ็กเมนต์และระดับราคา ซึ่งล่าสุดได้ถึงคิวของ โคโรลล่า อัลติส เอชอีวี จีอาร์ สปอร์ต ที่พร้อมมอบจิตวิญญาณความสปอร์ต ภายใต้ขุมพลังเครื่องยนต์ไฮบริด 1.8 ลิตร ผสมผสานกลิ่นอายของมอเตอร์สปอร์ตผ่านดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ GR มาพร้อมแบตเตอรี่ไฮบริดแบบ Lithium-ion พร้อมการปรับแต่งสมรรถนะสำหรับรุ่นนี้โดยเฉพาะ ทั้งพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้าและพาร์ทช่วงล่าง พร้อมทางเลือกสีภายนอกใหม่ 2 สี
นอกจากนี้ โตโยต้า ยังเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าในกลุ่มไฮบริดอีกรุ่น คือ เอชอีวี พรีเมียม มั่นใจสูงสุดด้วยเครื่องยนต์ไฮบริด 1.8 ลิตรจากโตโยต้า ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม ระบบส่งกำลังอัตโนมัติ E-CVT ทำงานร่วมกับช่วงล่าง TNGA จุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทรงตัวและเข้าโค้งได้ดียิ่งขึ้น ช่วงล่างหลังอิสระแบบ Double Wishbone ให้ความนุ่มนวลในการขับขี่ เกาะถนนดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีและสิ่งอำนวยความสะดวกแบบจัดเต็ม และระบบความปลอดภัยระดับโลก Toyota Safety Sense พร้อมสีภายนอกใหม่ สีเทา Cement Gray Metallic ใหม่ แบตเตอรี่แบบ Lithium-ion
โดยรุ่นในกลุ่มเอชอีวี มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยครบครัน เริ่มตั้งแต่ สัญลักษณ์ TOYOTA HEV, ไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED Light Guiding, จอแสดงผลข้อมูลผู้ขับขี่ TFT ขนาด 12.3 นิ้ว, หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย, หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้ารถ HUD (Head Up Display) อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แบบปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา, nanoeX ระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสารช่วยขจัดกลิ่นและยับยั้งเชื้อโรค, Smart Entry ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ สำหรับผู้ขับ ผู้โดยสารตอนหน้า และห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ, เทคโนโลยีความปลอดภัย Toyota Safety Sense, ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM (Blind Spot Monitor)
ทั้งนี้ โตโยต้า ยังให้ความสำคัญกับตลาดในกลุ่มเครื่องยนต์สันดาป ด้วยการแนะนำ อัลติส ใหม่ ในกลุ่มรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน สำหรับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร ให้กำลังส่งสูงถึง 140 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที ให้แรงบิดสูงสุด 177 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 7 สปีด พร้อม Sequential Shift ทำงานร่วมกับช่วงล่าง TNGA ที่มาพร้อมกับจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ช่วงล่างหลังอิสระแบบ Double Wishbone ตอบสนองได้อย่างแม่นยำ ควบคุมง่าย ระบบความปลอดภัยระดับโลก Toyota Safety Sense และตัวเลือกสีภายนอกใหม่ สีเทา Cement Gray Metallic
ไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED Light Guiding, กระจังหน้าดีไซน์ Polygon และไฟตัดหมอกหน้า LED พร้อมคิ้วโครเมียม, ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว, หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย, ระบบควบคุมและปรับความเร็วอัตโนมัติ ได้ถึง 0 กม./ชม. (All Speed Dynamic Radar Cruise Control) ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ และระบบเบรกมือไฟฟ้า, ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า USB ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง ในกล่องเก็บของคอนโซลกลาง 1 ตำแหน่งและด้านหลัง 2 ตำแหน่ง, เบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์, เบาะนั่งด้านคนขับ ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อม Lumbar Support แบบไฟฟ้า, เบาะนั่งด้านหลังแบบแยกพับได้ 60:40 พร้อมที่วางแขน และที่วางแก้วน้ำ
รุ่นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.6 ลิตรให้กำลัง 125 แรงม้า 156 นิวตันเมตร รองรับน้ำมันสูงสุด E85หน้า จอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย เบาะนั่งสะดวกสบาย กว้างขวาง เพิ่มความยืดหยุ่นของพื้นที่เก็บสัมภาระด้วยเบาะนั่งด้านหลังพับได้แบบ 60:40 พร้อมที่วางแขน และที่วางแก้วน้ำ และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศตอนหลัง พร้อมสัญญาณเตือนกะระยะ และจอมองภาพขณะถอยหลัง
มาพร้อมตัวเลือกสีภายนอกใหม่สีเทา Cement Gray Metallic และสเป็กที่คุ้มค่า เป็นเจ้าของได้ในราคาที่เข้าถึงง่าย,กระจังหน้าสีดำสไตล์สปอร์ต, ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว, หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย, ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า USB ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง ในกล่องเก็บของคอนโซลกลาง 1 ตำแหน่ง และด้านหลัง 2 ตำแหน่ง
ราคาจำหน่ายของ โตโยต้า โคโรล่า อัลติส ประกอบไปด้วย รุ่น HEV GR SPORT ราคา 1,129,000 บาท, รุ่น HEV PREMIUM ราคา 1,009,000 บาท, รุ่น 1.8 SPORT ราคา 979,000 บาท และรุ่น 1.6G ราคา 894,000 บาท