ส่องกล้อง New Toyota bZ4X เอสยูวีไฟฟ้ามาดพรีเมียม

โตโยต้าเดินเกมรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยผลิตภัณฑ์ bZ4X ภายใต้มาตรฐานคุณภาพระดับโลก ฉบับนี้ “หนังสือพิมพ์ยวดยาน” จะพาไปส่องกล้องกับ New bZ4X 2025 เอสยูวีไฟฟ้าใหม่ สเปกไทย พวงมาลัยขวา นำเข้ามาจากญี่ปุ่น มีให้เลือก 2 รุ่น FWD และ AWD ชาร์จไฟวิ่งไกลสุด 600 กม. มาพร้อมความพรีเมียมยิ่งขึ้น ด้วยราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1.529-1.649 ล้านบาท
New bZ4X 2025 ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ถูกยกระดับขึ้นไปอีกขั้น ด้วยดีไซน์การออกแบบที่สะดุดตาและน่าดึงดูด ใช้เวลาในการชาร์จเร็วขึ้น และที่สำคัญ ในรุ่นระบบขับเคลื่อนล้อหน้าที่เพิ่มเข้ามาใหม่ ยังสามารถทำระยะการขับขี่ได้ถึง 600 กม./ชาร์จ มาตรฐาน NEDC ทั้งยังปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น และติดตั้งระบบความปลอดภัยเต็มรูปแบบตามมาตรฐานโตโยต้า ญี่ปุ่น โดยเน้นเพิ่มเสถียรภาพ (stability) ความรู้สึกในการควบคุมพวงมาลัย (steering feel) ความนุ่มนวล (riding comfort) และประสิทธิภาพการเบรกที่ดีกว่ารถระดับเดียวกัน
ดีไซน์ภายนอกสะท้อนความโดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบ Hammerhead ทรงหัวค้อน ซึ่งทำให้ตัวรถดูกว้างขวางและแข็งแกร่งขึ้น มาพร้อมกับไฟ Center Lamp ที่มีการเพิ่มไฟตรงกลางระหว่างไฟหน้าเข้ามา ทำให้ดูเป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นสะดุดตายิ่งขึ้น ไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED ชุดไฟหน้าและไฟท้ายดีไซน์เพรียวบางแบบ LED ให้ความสว่างและสวยงาม และล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว และซุ้มล้อสีดำเงา

ขยับมาที่ภายใน เน้นการออกแบบที่ให้ความสปอร์ตหรูหรา พร้อมฟีลลิ่งพรีเมียมในห้องโดยสาร กว้างขวาง สะดวกสบาย ด้วยหลักการออกแบบ Open & Relax บริเวณที่นั่งผู้ขับขี่ออกแบบสไตล์ Cockpit ช่วยลดการละสายตา มอบทัศนวิสัยดีเยี่ยม มาพร้อมหลังคา Panoramic Moonroof พร้อมม่านบังแดดปรับไฟฟ้า และไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร ปรับได้ถึง64 เฉดสี (บริเวณคอนโซลหน้าและบริเวณมือจับประตูด้านใน) มาพร้อมเทคโนโลยีภายในห้องโดยสารที่ดีเยี่ยม จัดเต็มทุกฟังก์ชันการใช้งาน จอสัมผัสขนาดใหญ่ 14 นิ้ว, ชาร์จไร้สาย 2 จุด, รองรับ Apple CarPlay/Android Auto, ไฟ Ambient Light และเครื่องเสียง JBL
ด้านสมรรถนะและการขับขี่ รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังรวมสูงสุดถึง 343 แรงม้า โดยรุ่นนี้มาพร้อมกับระบบควบคุมการขับขี่แบบออฟโรดที่เรียกว่า X-MODE ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนในสภาพพื้นผิวที่ท้าทาย การจัดการพลังงานมีระบบ Boost Drive ที่ช่วยให้การขับขี่แบบคันเร่งเดียว (Single Pedal Driving) สะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยอาศัยการชดเชยพลังงานจากเบรกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

ช่วงล่างมาพร้อมแพลตฟอร์ม e-TNGA ที่ออกแบบมาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ทำให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ เพิ่มความมั่นคงในการขับขี่ ทั้งนี้ ในส่วนของช่วงล่างในรุ่นใหม่นี้ได้มีการปรับจูนให้แข็งและหนึบขึ้น เพื่อให้เหมาะกับสภาพอากาศและการใช้งานในประเทศไทย มาพร้อมโครงสร้างแชสซีที่เข็งแกร่ง คอยช่วยปกป้องแบตเตอรี่ที่ติดตั้งอยู่ใต้พื้นรถ ลดความเสี่ยงจากแรงกระแทก ความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรด ในรุ่น AWD ที่พัฒนาร่วมกับซูบารุ มาพร้อมระบบ X-MODE และ Grip Control ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่บนสภาพถนนที่ท้าทาย เช่น หิมะ, โคลน, หรือเส้นทางขึ้น-ลงเขา ได้ดียิ่งขึ้น
จัดเต็มด้วยระบบความปลอดภัยขั้นสูง Toyota Safety Sense เช่น ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบช่วยเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมหน่วงพวงมาลัยกลับ, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน กล้อง 360 องศา (Panoramic View Monitor) ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSM) และระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ (RCTA) ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู (Safe Exit Assist) ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ

โตโยต้ายังสร้างความเชื่อมั่นด้วยการบริการหลังการขาย รับประกันแบตเตอรี่นานสูงสุด 10 ปี หรือ 1 ล้านกิโลเมตร ระบบซอฟต์แวร์สามารถอัปเดตแบบ Over-the-Air (OTA) ได้ โดยไม่จำเป็นต้องนำรถเข้าศูนย์บริการ และลูกค้ายังสามารถนำรถเข้ารับบริการได้ที่ศูนย์บริการมาตรฐานของโตโยต้าได้ทั่วประเทศ
บทสรุป New Toyota bZ4X ถือเป็นก้าวสำคัญของโตโยต้าในการเข้าสู่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยการนำเสนอรถยนต์ที่เน้นความเชื่อมั่นในด้านคุณภาพ เทคโนโลยี และความปลอดภัยมาตรฐาน Toyota Safety Sense รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นด้วยแคมเปญบริการหลังการขาย รวมถึงชิ้นส่วนอะไหล่ที่ครอบคลุม พร้อมมอบความอุ่นใจสูงสุดให้กับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าจากโตโยต้ามากขึ้น
















