ส่องกล้อง By The Great FORD RANGER WILDTRAK 2.0L Bi-Turbo 4×4 10AT สมรรถนะโดนเด่น “เบสต์ อิน คลาส”

ค่ายฟอร์ด ตอกย้ำแนวทางการทำตลาดด้วยการปูพรมรถใหม่พร้อมกันทั้งไลน์อัพรถกระบะ และรถอเนกประสงค์ ตอบสนองความต้องการแฟนฟอร์ดด้วยรุ่นย่อยที่ครบครัน ส่งผลให้เดินหน้าเก็บเกี่ยวยอดขายสร้างการเติบโตได้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในตลาดรถกระบะที่สามารถขยับแชร์ได้เพิ่มขึ้นเป็นลำดับด้วยเช่นกัน
โดย FORD RANGER WILDTRAK เป็นหนึ่งในรุ่นยอดนิยมด้วยออปชันและรูปโฉมที่โดดเด่นและเป็นตัวเอง ซึ่งเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ สำหรับลูกค้าที่ไม่สามารถก้าวขึ้นไปสู่กระบะสูงสมรรถนะอย่าง เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ทว่าสมรรถนะของรุ่นท็อปอย่าง FORD RANGER WILDTRAK 2.0L Bi-Turbo 4×4 10AT ก็มีความน่าสนใจและเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจภายใต้ราคา 1,299,000 บาท
ความบึกบึนสไตล์อเมริกันยังคงเป็นจุดเด่นของค่ายฟอร์ด ทว่าในเจนฯล่าสุดมาพร้อมความทันสมัยและโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น โดดเด่นดุดันด้วยกระจังหน้าลายตาข่ายสีดำพร้อมเส้นคาดกลาง สอดรับกับไฟหน้า MATRIX LED ดีไซน์ใหม่รูปทรงซีแคลมป์ พร้อมไฟเดย์ไทม์ เสริมความแข็งแกร่งด้วยชายกันชนหน้าสีเงินพร้อมช่องเกี่ยวหูลากรถด้านซ้าย-ขวา เติมเต็มการใช้งานด้วยไฟตัดหมอก LED ที่มุมซ้าย-ขวา
ขยับมาด้านข้างตัวรถมาพร้อมบันไดข้างและราวหลังคาในสไตล์ออฟโรด รวมถึงสปอร์ตบาร์และราวยึดอุปกรณ์บริเวณกระบะท้าย เพิ่มความสะดวกสบายให้กับการใช้งานด้วยบันไดข้างสำหรับเหยียบขึ้นกระบะ ดุดันด้วยล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว ขณะที่ซุ้มล้อมาพร้อมคิ้วกันกระแทกสีดำ ด้านท้ายรถเพิ่มความบึกบึนด้วยสันมุม ผสานความทันสมัยด้วยไฟท้ายดีไซน์ใหม่พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 เหนือมือเปิดฝาท้ายที่ใช้งานได้สะดวกด้วยระบบช่วยผ่อนแรง
ภายในห้องโดยสารมาในโทนเข้มให้อารมณ์สปอร์ตด้วยเบาะหุ้มหนังผสมหนังสังเคราะห์ แสดงความเป็นตัวตนด้วยการเดินด้ายสีส้มไล่เลียงจากคอนโซลหน้า พวงมาลัย ด้านข้างประตู เบาะนั่งคู่หน้าและหลัง กล่องพักแขนกลางและถุงเกียร์ รวมถึงตัวหนังสือ WILDTRAK สีส้มที่เบาะคู่หน้า และคอนโซลหน้าฝั่งผู้โดยสาร
ขณะที่ระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ทันสมัยด้วยมาตรวัดดิจิทัลขนาด 8 นิ้ว รวมถึงจออินโฟเทนเมนต์แบบสัมผัส Multi-Touch ขนาดใหญ่ 12 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto ที่ใช้งานได้สะดวกยิ่งขึ้น รวมถึงช่องเชื่อมต่อ USB 4 จุด และช่องจ่ายกระแสไฟ ขนาด 12V จำนวน 1 ช่อง และ 230V จำนวน 1 ช่อง ตามยุคสมัยด้วยไวร์เลสชาร์จเจอร์
ตองสนองการใช้งานด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว เทอร์โบชาร์จเจอร์คู่ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ขนาดความจุ 1,996 ซี.ซี. รีดพละกำลังสูงสุด 210 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที สร้างแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,000 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัต 10 จังหวะ รองรับการสั่นสะเทือนด้วยระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง รวมถึงโช้คอัพแบบโมโนทูบ ส่วนด้านหลังแบบแหนบซ้อน พร้อมโช้คอัพแบบโมโนทูบ เช่นกัน
ด้วยความโดดเด่นในเรื่องของรูปโฉมเป็นทุนเดิมที่สร้างความน่าสนใจให้กับรถค่ายฟอร์ด บวกกับความโดดเด่นเป็นตัวตนของรุ่น WILDTRAK กระตุ้นความอยากเป็นเจ้าของขึ้นไปอีกระดับ ทั้งยังมาพร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ทั้งในรูปแบบออนโรดรวมถึงออฟโรดที่ลุยได้ดี ทั้งยังครบครันด้วยเทคโนโลยีเสริมการใช้งานต่างๆ ที่เพิ่มความสะดวกสบายละความปลอดภัยในกับยานยนต์ในยุคปัจจุบัน
อย่างที่เกริ่นไปในช่วงต้นว่า ด้วยค่าตัวกว่า 1.3 ล้านบาท ซึ่งก็ไม่น้อยเมื่อเทียบกับคู่แข่งในคลาสเดียวกัน ทว่าโดยส่วนตัวที่ชื่นชอบฟีลลิ่งการขับขี่ของฟอร์ดก็ยังมองว่า WILDTRAK เป็นทางเลือกที่น่าสนใจและเพียงพอต่อการใช้งานในกลุ่มรถกระบะพรีเมียม แต่ถ้าพร้อมควักเงินจ่ายอีกกว่าครึ่งล้านเพื่อแลกกับที่สุดของรถกระบะอย่าง RAPTOR ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
รายละเอียดทางเทคนิค
ชื่อรุ่น FORD RANGER WILDTRAK 2.0L Bi-Turbo 4×4 10AT
มิติตัวรถ ยาว x กว้าง x สูง (มิลลิเมตร) 5,370 x 1,918x 1,884
ระยะฐานล้อ (มิลลิเมตร) 3,270
ระยะต่ำสุดจากพื้น (มิลลิเมตร) 235
ความสามารถในการลุยน้ำ (มิลลิเมตร) 800
เครื่องยนต์ ดีเซล 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว เทอร์โบชาร์จเจอร์คู่ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์
ปริมาตรกระบอกสูบ (ซี.ซี.) 1,996
แรงม้าสูงสุด (รอบ/นาที) 210/3,750
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร) 500/1,750-2,000
ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ พร้อมปุ่มเปลี่ยนเกียร์ที่หัวเกียร์
ความจุเชื้อเพลิง (ลิตร) 80
ระบบบังคับเลี้ยว เพาเวอร์แบบช่วยผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมดิฟล็อกหลังแบบไฟฟ้า
ระบบช่วงล่าง หน้า อิสระปีกนก 2 ชั้น คอยล์สปริง เหล็กกันโคลง พร้อมโช้คอัพโมโนทูบ
หลัง แหนบซ้อน พร้อมโช้คอัพโมโนทูบ
ระบบเบรก หน้า/หลัง ดิสก์เบรก พร้อมครีบระบายความร้อน
ล้อ หน้า/หลัง ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว
ยาง หน้า/หลัง CONTINENTAL EcoContact 6 ขนาด 205/55 R17
ราคาจำหน่าย 1,299,000 บาท