ส่องกล้อง By Oil HONDA ACCORD e:HEV RS ซีดานเรียบหรู ฟีลลิ่งสปอร์ต

เจเนอเรชันที่ 11 ของฮอนด้า แอคคอร์ด หนึ่งในโกลบอลโมเดลยอดนิยมค่ายฮอนด้า เผยโฉมเป็นครั้งแรกในช่วงปลายปีก่อนหน้านี้ ส่วนในประเทศไทยเปิดตัวและพร้อมทำตลาดอย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคภายใต้ 3 รุ่นทางเลือก เคาะราคาจำหน่าย 1,529,000 บาท ในรุ่นเริ่มต้น ไล่เรียงไปจนถึง 1,799,000 บาท ในรุ่นท็อปอย่าง e:HEV RS ตัวเลือกที่ “หนังสือพิมพ์ยวดยาน” ส่องกล้องถึงในฉบับนี้
ไล่เรียงจากรูปโฉมภายนอกที่เน้นความหรูหรา สง่างาม ให้ฟีลของรถยนต์ในฝั่งตะวันตก ซึ่ง ฮอนด้า ต้องการสื่อถึงภาพลักษณ์ที่เป็นทางการ ลงตัวด้วยความเป็นสากลและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เน้นโครงสร้างตัวถังในคอนเซปต์ Low & Wide มาพร้อมตัวถังที่มีความยาวเพิ่มขึ้น 68 มม. รวมถึงสันฝากระโปรงหน้าที่ลาดเอียงและยาวขึ้น ทั้งยังออกแบบให้ด้านท้ายลาดลง ส่งผลให้ดีไซน์โดยรวมดูปราดเปรียว สปอร์ตโฉบเฉี่ยว
เป็นครั้งแรกของ ฮอนด้า แอคคอร์ด ที่มาภายใต้รหัส RS แสดงความเป็นตัวตนด้วยสัญลักษณ์ RS บนกระจังหน้าและด้านท้าย รวมถึงหลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา ไฟเลี้ยวด้านหน้าและด้านหลังแบบ LED Sequential ไฟส่องมือจับเปิดประตูด้านนอก กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อมพับเก็บอัตโนมัติสีดำแบบสปอร์ต และช่องระบายอากาศด้านข้างสีเงิน
โดดเด่นด้วยกระจังหน้าดีไซน์สปอร์ต ทันยุคสมัยด้วยไฟหน้าและไฟท้ายแบบ LED รวมถึงไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED มาพร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ เติมความสปอร์ตด้วยเสาอากาศครีบฉลาม และล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ดีไซน์สปอร์ตสีดำแบบแมตต์
ภายในห้องโดยสารเน้นความกว้างขวาง สะดวกสบาย แผงด้านหน้าและแผงประตูเชื่อมต่อกันในแนวนอน จัดวางฟังก์ชันการใช้งานที่ยืดหยุ่น มาพร้อมเบาะหนังแท้และวัสดุหนังสังเคราะห์ ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง และชุดตกแต่งภายในสีเงิน Metallic ลาย 3 มิติ และสีดำ Piano Black
เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลัง 4 ทิศทาง ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ พร้อมเลื่อนอัตโนมัติเวลาขึ้น-ลงรถ ขณะที่เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ปุ่มปรับเบาะไฟฟ้าข้างพนักพิงเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า มาพร้อมระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสาร Plasmacluster และช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
มาพร้อม Experience Selection Dial ที่สามารถหมุนเพื่อเลือกและบันทึกฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ โดยสามารถปรับเลือกระบบปรับอากาศ ระบบเครื่องเสียง และไฟสร้างบรรยากาศภายในรถยนต์ได้ ซึ่งจะแสดงผลบนระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ทั้งสามารถตั้งค่าผู้ใช้งานได้จำนวนสูงสุดถึง 8 แบบ รวมถึงไฟสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารแบบปรับเฉดสีได้ ที่ได้รับการติดตั้งใน ฮอนด้า แอคคอร์ด อี:เอชอีวี เป็นครั้งแรก
ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังฟูลไฮบริด e:HEV ให้การตอบสนองที่ทันใจและทรงพลัง ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ใหม่ขนาด 2.0 ลิตร Direct Injection Atkinson-Cycle DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัว ในระบบเกียร์ E-CVT ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) มอบแรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนประสิทธิภาพสูง ซึ่ง ฮอนด้า เคลมอัตราการประหยัดน้ำมันที่ 25 กิโลเมตร/ลิตร รวมถึงอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 96 กรัม/กิโลเมตร
หลังทดลองขับ ฮอนด้า แอคคอร์ด เจนฯล่าสุดในรุ่นท็อปอย่าง RS โดยภาพรวมถือว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในตลาดดี-เซ็กเมนต์ หรือมิดไซซ์คาร์ ไล่เรียงจากรูปโฉมที่ดูดีขึ้นทั้งภายนอกและภายใน รวมถึงสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ทั้งในเรื่องความคมของพวงมาลัย และพละกำลังของเครื่องยนต์ไฮบริด ที่เติมเต็มความมั่นใจให้กับการขับขี่ได้เป็นอย่างดี รวมถึงช่วงล่างที่หนึบแน่นแต่ไม่กระด้าง จะติดก็เพียงแค่ราคาค่าตัวที่ค่อนข้างสูง ท่ามกลางทางเลือกที่หลากหลายในตลาดปัจจุบัน อาจจะเป็นตัวชะลอการตัดสินใจถ้าคุณไม่ใช่แฟนฮอนด้า














