ส่องกล้อง ‘รถหรู’ จัดทัพ ‘รุ่นใหม่’ ตอบสนองหลากหลาย ล่ายอดปลายปี

ค่ายพรีเมียมคาร์เรียงคิวเติมความเข้มข้นให้กับตลาดรถยนต์ ภายใต้ผลิตภัณฑ์ที่สดใหม่ ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศที่เป็นปัจจัยสำคัญในการจับจ่ายใช้สอย เพื่อร่วมกันก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ไล่ล่าความสำเร็จในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2568
ตลาดพรีเมียมคาร์ที่ต้องเจอกับสถานการณ์ที่ยากลำบากนับตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ภาพรวมทางเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบ ไล่เรียงจากผู้บริโภค ไปจนถึงเจ้าของธุรกิจหรือผู้ประกอบการที่เป็นกลุ่มลูกค้าของตลาดรถหรู ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญในการชะลอการตัดสินใจซื้อนับตั้งแต่ช่วงต้นปี
โดยในปี 2567 ยอดขาย เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลดลง 30% บีเอ็มดับเบิลยู (ไม่นับรวม มินิ) ตกไป 13% จนกระทั่งปีนี้ผ่านมา 8 เดือน สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น จากสภาพเศรษฐกิจ และผู้คนมีเงินแต่ไม่มีอารมณ์จับจ่ายใช้สอย ในส่วนบีเอ็มดับเบิลยู มียอดจดทะเบียนเดือนมกราคม-สิงหาคม 2568 ประมาณ 7,700 คัน ลดลง 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีแล้ว แม้ที่ผ่านมาจะกระหน่ำโปรโมชัน พร้อมจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง
ย้อนกลับมาดูที่ค่ายวอลโว่ ถึงแม้ว่ายอดขายรถยนต์ของบริษัทในปี 2567 จะมีอัตราการเติบโตขึ้น 1% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยสัดส่วนยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 80% ของยอดขายรวม หรือเติบโตกว่า 24% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
แต่ในปีนี้สถานการณ์ภาพรวมตลาดรถยนต์รวมและตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยปี 2568 ยังไม่มีปัจจัยที่ส่งผลดีต่อตลาดที่ดีขึ้น เมื่อเทียบกับปี 2567 โดยวอลโว่ตั้งเป้ายอดขายในปี 2568 เติบโต 5% เมื่อเทียบกับปี 2567 ซึ่งมีแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่มากกว่า 2 รุ่น ซึ่งแบ่งเป็น รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นใหม่ 2 รุ่น รวมถึงรถในกลุ่ม PHEV และอื่นๆ
จากทิศทางดังกล่าว ส่งผลให้แต่ละค่ายต้องขยับตัว เสริมทัพด้วยรถรุ่นใหม่ๆ ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ภายใต้ราคาที่จับต้องได้ง่ายยิ่งขึ้น ในช่วงเวลาที่สงครามราคาของค่ายผู้ผลิตสัญชาติจีนขับเคี่ยวกันอย่างหนัก เป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่สร้างความลังเลใจให้กับผู้บริโภค
การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศไทย รวมถึงในภูมิภาค เป็นหนึ่งในแนวทางที่หลายค่ายเลือกใช้ ส่งผลให้สามารถทำราคาได้ดียิ่งขึ้น กระตุ้นการตัดสินใจจับจองเป็นเจ้าของจากผู้บริโภค สร้างโอกาสเก็บเกี่ยวยอดขายในช่วงครึ่งปีหลัง
อย่างไรก็ดี ยังขึ้นอยู่กับทิศทางของเศรษฐกิจ ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค ในช่วงเวลาที่หลายฝ่ายมองว่าน่าจะเป็นอีกปีที่ยากลำบากของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และคาดว่าจะลดตัวลงในทุกเซ็กเมนต์ รวมถึงตลาดพรีเมียมคาร์ด้วยเช่นกัน
ส่วนทิศทางของตลาดรถหรูในปีนี้ คาดว่าจะเป็นไปอย่างเข้มข้น ด้วยการขยับตัวของค่ายยานยนต์ที่พร้อมเดินหน้าเสริมทัพด้วยรถรุ่นใหม่ๆ สานต่อทิศทางที่ดี นับตั้งแต่ในบรรยากาศของงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ซึ่งปูพรมด้วยทางเลือกที่หลากหลาย ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
พร้อมนำเสนอยานยนต์ทางเลือกที่มีให้จับจองเป็นเจ้าของ ทั้งภายใต้เครื่องยนต์สันดาปภายใน รวมถึงขุมพลังไฮบริด ไล่เรียงไปจนถึงยานยนต์พลังงานไฟฟ้า และซูเปอร์ลักชัวรีคาร์ ที่ยังคงมาพร้อมการตอบรับที่ยอดเยี่ยมจากลูกค้าในประเทศไทย ซึ่งแต่ละแบรนด์ยังคงมีฐานแฟนที่แข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตาม ทิศทางของเศรษฐกิจยังคงเป็นตัวแปรที่สำคัญในการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อจากลูกค้า ที่ได้ไล่เรียงไปก่อนหน้านี้แล้วว่า ส่วนใหญ่เป็นเจ้าของธุรกิจและผู้ประกอบการ รวมถึงลูกค้ารายใหม่ๆ ที่อาจจะขยับขึ้นเป็นลูกค้าพรีเมียมคาร์ หากสภาพเศรษฐกิจเดินไปในทิศทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับ
โดยคาดว่าในปี 2025 ตลาดพรีเมียมคาร์น่าจะมีความคึกคักขึ้นเป็นลำดับ โดยมี 3 ค่ายท็อปทรีอย่าง บีเอ็มดับเบิลยู, เมอร์เซเดส-เบนซ์ และวอลโว่ เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ รวมถึงเพื่อนร่วมตลาดค่ายอื่นๆ ที่พร้อมเติมเต็มความคึกคัก และสร้างสีสันด้วยรถรุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเช่นกัน