ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) เดินหน้าสานต่อความนิยม ซูซูกิ สวิฟท์ ด้วย NEW SUZUKI SWIFT GL PLUS ยกระดับความสปอร์ตด้วยชุดแต่งดีไซน์ใหม่รอบคัน ตอกย้ำความเป็นตัวตนด้วยชุดสติกเกอร์ GL PLUS ลายใหม่ เคาะราคาขาย 572,000 บาท พร้อมโปรโมชันกระตุ้นการตัดสินใจ สร้างโอกาสเป็นเจ้าของได้ง่ายยิ่งขึ้น

                  ซูซูกิ สวิฟท์ เป็นกำลังหลักและมีส่วนสำคัญต่อความเติบโตของแบรนด์ซูซูกิในตลาดประเทศไทย เนื่องด้วยดีไซน์ตัวรถที่เป็นเอกลักษณ์ มีความสวยงามและโดดเด่น ผสานสมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจ รวมถึงช่วงล่างที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี มอบทั้งความสนุกเร้าใจและความปลอดภัยในการขับขี่ พร้อมกับสมรรถนะความประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยม และมียอดขายสะสมมากกว่า 148,000 คัน

ล่าสุด ซูซูกิ ได้เปิดตัว NEW SUZUKI SWIFT GL PLUS ออกสู่ตลาดด้วยการพัฒนาสินค้าให้ตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบรถที่ออกแบบตกแต่งด้วยชุดแต่งพิเศษจากโรงงาน ตอกย้ำความเป็นสปอร์ตแฮตช์แบ็กคาร์ที่มีความโดดเด่น ในราคาที่เข้าถึงง่าย และเพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กในช่วงกลางปีให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

มร.มิโนรุ อามาโนะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่อยู่ในใจของลูกค้าชาวไทย สิ่งหนึ่งที่เราให้ความสำคัญคือ การพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้สอดรับกับความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง การแนะนำ NEW SUZUKI SWIFT GL PLUS  ซึ่งจะเป็นรุ่นพิเศษ อัปเกรดความสปอร์ตให้มากขึ้นกว่าเดิม”

“พร้อมทั้งสานต่อความสำเร็จของ SUZUKI SWIFT GL PLUS ที่แนะนำไปในปี 2564  ที่ผ่านมา ซึ่งได้การตอบรับอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าที่นิยมรถแต่งที่เป็นไปได้มากกว่ารถยนต์ทั่วไป และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเข้ามาเป็นตัวช่วยเสริมทัพของซูซูกิให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในปีนี้”

สำหรับ NEW SUZUKI SWIFT GL PLUS รุ่นตกแต่งพิเศษ มาภายใต้แนวคิด Limitless Edition พัฒนามาจากรุ่น SUZUKI SWIFT GL ด้วยชุดแต่งดีไซน์ใหม่ ชุดสเกิร์ตรอบคันพร้อมด้วยสปอยเลอร์หลังเติมเต็มความสปอร์ตให้มากขึ้น เสาอากาศครีบฉลาม ซุ้มล้อสีดำ บ่งบอกถึงความพิเศษและเป็นเอกลักษณ์ด้วยชุดสติกเกอร์ GL PLUS ลายใหม่ ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์อันโดดเด่น สปอร์ต ปราดเปรียว ด้วยกระจังหน้าสีดำตกแต่งลายเส้นโครเมียม ไฟหน้าแบบแบบฮาโลเจนมัลติรีเฟลกเตอร์ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED บริเวณกันชนหน้ารถ พร้อมไล่ฝ้ากระจกหลัง

ภายในตัวรถทันสมัย ตกแต่งด้วยวัสดุสีเงินสไตล์สปอร์ต กว้างสบายรองรับการใช้งานได้หลากหลาย พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรง D-Shape เพิ่มพื้นที่วางขาและปรับระดับได้ 4 ทิศทาง เบาะนั่งโอบกระชับสรีระผู้ขับขี่ให้รู้สึกสบายตลอดการเดินทาง ที่นั่งคู่หน้าปรับตำแหน่งสูง-ต่ำบริเวณคนขับ พร้อมพนักพิงศีรษะแยกส่วน สำหรับที่นั่งด้านหลังสามารถปรับพับแบบ 60:40 พร้อมพนักพิงศีรษะแบบแยกส่วน 3 ตำแหน่ง รองรับทุกไลฟ์สไตล์ด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระขนาด 265 ลิตร

ตอบสนองการใช้งานด้วยเครื่องยนต์รหัส K12M แบบเบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร หัวฉีดคู่หรือ DUALJET ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ด้วยกำลังสูงสุด 83 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมรองรับน้ำมันเชื้อเพลิงประเภท E20 ประหยัดเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยกว่า 23 กิโลเมตร/ลิตร

ระบบความปลอดภัยมาตรฐานด้วยแพลตฟอร์ม HEARTECT ที่เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของซูซูกิเพื่อช่วยเสริมให้รถมีน้ำหนักน้อยลงแต่คงความแข็งแกร่งและประหยัดน้ำมันมากขึ้น รวมถึงโครงสร้างตัวถังแบบ TECT ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของตัวรถ พร้อมระบบ NVH ช่วยกันการสั่นสะเทือน และลดเสียงรบกวนจากภายนอก

พร้อมระบบ TCS ช่วยในการควบคุมรถขณะขับขี่บนถนนลื่นหรือในทางโค้ง พร้อมระบบเบรก ABS และ EBD ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP และยังเหมาะกับการขับในเมืองด้วยระบบ Idling Stop ที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันขณะรถหยุดนิ่ง ขับขี่อย่างมั่นใจในทุกเส้นทางด้วยระบบ Hill Hold Control ที่ช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน ปลอดภัยมากขึ้นด้วยถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้าพร้อมคานกันกระแทกด้านข้าง อีกทั้งระบบล็อกนิรภัยป้องกันเด็กเปิดประตูหลัง และจุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก 2 ตำแหน่ง

โดยมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีแดง Ablaze Red Pearl, สีน้ำเงิน Speedy Blue Metallic, สีเทา Star Silver Metallic, สีเทา Mineral Gray Metallic, สีดำ Super Black Pearl จำหน่ายในราคา 572,000 บาท และสีขาว Pure White Pearl จำหน่ายในราคา 577,000 บาท

มาพร้อมข้อเสนอผ่อนเริ่มต้นเดือน การเลือกรับข้อเสนอดอกเบี้ยพิเศษ 0.33% หรือเลือกรับผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 3,333 บาท พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่าสูงสุด 30,000 บาท หรือเลือกรับ ซูซูกิช่วยผ่อนสูงสุด 10 เดือน เดือนละ 3,000 บาท ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรก และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 3 ปี โดยลูกค้าที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิกว่า 127 แห่งทั่วประเทศ