‘ลามิน่า’ สร้างมาตรฐานตลาดฟิล์ม ปั้นแคมเปญการสื่อสารที่เป็นจริง

‘ลามิน่าฟิล์ม’ หวั่นผู้บริโภคสับสนจากการให้ข้อมูลบิดเบือนเรื่องการกันความร้อน ยืนยันต้องใช้ค่าประสิทธิภาพการลดความร้อนจากแสงแดดรวม (TSER) ที่ 90 องศาเท่านั้น ล่าสุดออกแคมเปญการสื่อสารใหม่ เพื่อสร้างมาตรฐานให้กับตลาดฟิล์มกรองแสงในประเทศไทย
ลามิน่าฟิล์ม ผู้นำตลาดฟิล์มกรองแสงระดับพรีเมียม อันดับหนึ่งในประเทศไทย กว่า 30 ปี ชี้ตลาดฟิล์มกรองแสงถูกบิดเบือนข้อมูลจากผู้ประกอบการหลายราย ที่ชูการกันความร้อนจากการทดสอบด้วยหลอดอินฟราเรด (IR) แทนที่จะเป็นการใช้ค่า TSER (Total Solar Energy Rejection) ซึ่งเป็นค่าที่ถูกต้องตามมาตรฐานสากลที่ใช้วัดประสิทธิภาพการลดความร้อนจากแสงแดดรวม

นางสาวจันทร์นภา สายสมร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงรถยนต์และอาคาร “ลามิน่า” ฟิล์มกลุ่มพิเศษคุณภาพสูงและฟิล์มกันสะเก็ดหิน “ลูมาร์” โดยอีสท์แมน เพอร์ฟอร์แมนซ์ฟิล์ม สหรัฐอเมริกา แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เผยว่า “การบิดเบือนข้อมูลเรื่องค่ากันร้อนของฟิล์มกรองแสงสำหรับรถยนต์เริ่มกลับมาถูกใช้ในการบิดเบือนข้อมูลไปถึงผู้บริโภคอีกครั้ง โดยผู้ประกอบการหลายรายเริ่มกลับมาอ้างค่าการกันความร้อนของฟิล์มกรองแสง ด้วยการใช้ตัวเลขการกันความร้อนจากหลอดอินฟราเรดมาใช้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ผิดพลาดและไม่ได้รับการยอมรับในระดับสากล เหมือนกับค่าประสิทธิภาพการลดความร้อนจากแสงแดดรวม ซึ่งทางลามิน่าฟิล์มและอีสท์แมน เพอร์ฟอร์แมนซ์ฟิล์ม ผู้ผลิตฟิล์มคุณภาพสูงระดับโลก ที่มีความเชี่ยวชาญกว่า 70 ปี ยึดถือในหลักเกณฑ์นี้มาตลอด”
โดยล่าสุด ลามิน่าได้เปิดแคมเปญการสื่อสารที่มาพร้อมแนวคิด ‘ลามิน่า… ฟิล์มที่อยู่คู่คนทุกเจน…ด้วยความจริง’ เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดฟิล์มกรองแสงในประเทศไทย ด้วยการสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้อง เป็นความจริง ตรวจสอบได้ และยืนหยัดในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคอย่างแท้จริง พร้อมกับการยกระดับคุณภาพสินค้าและการให้บริการอย่างครบวงจร
สำหรับการสื่อสารดังกล่าวจะประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่ หนึ่ง การยืนหยัดที่จะใช้ค่า TSER ในการตรวจสอบค่ากันความร้อนของฟิล์มกรองแสงที่จำหน่าย ซึ่งมาตรฐานดังกล่าวถือเป็นมาตรฐานสากลที่ถูกต้อง กำหนดโดย AIMCAL (Association of International Metallizers, Coaters, and Laminators) และ NFRC (National Fenestration Rating Council Certification) เพื่อใช้วัดการลดความร้อนจากแสงแดดรวม ประกอบด้วย แสงสว่าง 44% อินฟราเรด 53% รังสียูวี 3% รวมกัน เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและเที่ยงตรงที่สุด

สอง คุณภาพของสินค้าที่เหมาะสมกับตลาดรถยนต์ที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะเทคโนโลยี Lamina DigitalBoost® ที่ออกแบบเพื่อรองรับระบบสัญญาณดิจิทัลภายในรถยุคใหม่ อัปเกรดเพิ่มนอกเหนือจากสัญญาณพื้นฐาน สามารถใช้งานได้ทั้งระบบ OTA, ADAS และ Infotainment Streaming ซึ่งฟิล์มลามิน่าทุกรุ่นถูกพัฒนาให้ทำงานร่วมกับระบบดิจิทัลในรถยนต์ยุคใหม่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เร็ว แรง 100%
และ สาม ความเชี่ยวชาญของบริษัทในการเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องฟิล์มกรองแสงระดับพรีเมียม ด้วยประสบการณ์ในการนำเข้าและจำหน่ายมากกว่า 30 ปี จากโรงงานอีสท์แมน เพอร์ฟอร์แมนซ์ฟิล์ม สหรัฐอเมริกา (Eastman Performance Films, LLC. USA) โรงงานผลิตฟิล์มกรองแสงอันดับ 1 ที่มีความเชี่ยวชาญมากกว่า 70 ปี และเป็นฟิล์มกรองแสงรายแรกในประเทศไทย ที่กล้ารับประกันคุณภาพนาน 7 ปี
ลามิน่ามีความมั่นใจกับคุณภาพของสินค้าทุกรุ่นที่ทำตลาด รวมถึงการบริการที่ส่งต่อให้ลูกค้ามากว่า 30 ปี และยังเป็นผู้ประกอบการรายแรกในประเทศไทย ที่แนะนำฟิล์มเซรามิกสู่ตลาดเมืองไทย และกล้ารับประกันคุณภาพผลิตภัณฑ์นานถึง 7 ปี หลังการติดตั้ง ด้วยมาตรฐานการติดตั้งที่เทียบเท่ามาตรฐานสากล ผ่านเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการอบรมกว่า 800 แห่งทั่วประเทศ โดยมีผู้ใช้งานฟิล์มกรองแสงลามิน่าในประเทศไทยแล้ว มากกว่า 10 ล้านคนทั่วไทย





