Ramindhra UHU

Top Menu

  • หน้าหลัก

Main Menu

  • ข่าวรถยนต์
  • ข่าวมอเตอร์ไซค์
  • รามอินทรา
    • มิตรภาพผ่านเว็บไซต์
    • รามอินทรา ยกนิ้วให้
    • รามอินทรา จุ๊กจิ๊ก
    • รามอินทรา จอ จ่อ จ้อ
    • รามอินทรา แคะคน ค้นข่าว
  • เกียร์ 6
  • คนในกรอบ
  • คนในสังคม
  • โซ่หลุด
  • Test Drive
  • หน้าหลัก

Ramindhra UHU

Header Banner

Ramindhra UHU

  • ข่าวรถยนต์
  • ข่าวมอเตอร์ไซค์
  • รามอินทรา
    • มิตรภาพผ่านเว็บไซต์
    • รามอินทรา ยกนิ้วให้
    • รามอินทรา จุ๊กจิ๊ก
    • รามอินทรา จอ จ่อ จ้อ
    • รามอินทรา แคะคน ค้นข่าว
  • เกียร์ 6
  • คนในกรอบ
  • คนในสังคม
  • โซ่หลุด
  • Test Drive
  • ฮอนด้า ชู 4 รุ่น ต้นแบบ สะท้อนพลังงานสะอาด

  • ยามาฮ่า ฉลอง 70 ปี อวดโฉม 16 โมเดลสุดล้ำ

  • บริดจสโตน เปิดตัวผลิตภัณฑ์ ยางสปอร์ตพรีเมียมรุ่นใหม่

  • ศุภรางศุ์ อนุชปรีดา ความสุขแบบ “เกรท วอลล์”

  • เกียร์ 6 ฉบับ 1,155 มร.โคจิ อิวานามิ ความสำเร็จที่ยั่งยืนของ “ฮอนด้า”

Test Drive
Home›Test Drive›ลองขับ By Oil New MG VS HEV เอสยูวีของคนรุ่นใหม่

ลองขับ By Oil New MG VS HEV เอสยูวีของคนรุ่นใหม่

By writer
August 28, 2022
1081
0
Share:

หากเอ่ยถึงรถยนต์อเนกประสงค์ที่มีในตลาดบ้านเรา ก็ถือว่ามีเยอะอยู่มาก ซึ่งบรรดาค่ายรถชั้นนำต่างๆ ต่างก็มีผลิตภัณฑ์รถเอสยูวีรุ่นใหม่ๆ ป้อนออกสู่ตลาดกันอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รถยนต์ในกลุ่มนี้มีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่แบบครอสโอเวอร์ ที่เป็นรถยนต์ที่ประกอบขึ้นชิ้นเดียวทั้งคัน ดูคล้ายกับรถเก๋งยกสูง รูปร่างหน้าตาสวย ทันสมัย อีกทั้งยังมีฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ได้อย่างครอบคลุมมากกว่ารถยนต์นั่งปกติ

มาวันนี้เราจะพูดถึงผู้นำในตลาดอย่าง เอ็มจี ที่ครองกระแสความร้อนแรงของรถยนต์อเนกประสงค์ ล่าสุดได้เปิดตัว เอสยูวีครอสโอเวอร์รุ่นใหม่ อย่าง New MG VS HEV ที่มาพร้อมคำนิยามว่า “ABSOLUTE” เพื่อสะท้อนให้เห็นถึง “ความสมบูรณ์แบบ” ทั้งรูปลักษณ์ ดีไซน์การออกแบบ และอีกหนึ่งไฮไลต์ของรถยนต์รุ่นนี้คือการอัดฟังก์ชันการใช้งานสมัยใหม่เข้ามาใส่ในรถรุ่นนี้อย่างครบครัน มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนแบบฟูลไฮบริด ที่ใช้มอเตอร์บูสเตอร์ ผสานการทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ให้พละกำลังและสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย

เริ่มต้นมาเราเกริ่นถึงรูปลักษณ์ภายนอกของตัวรถกันคร่าวๆ จะเห็นได้ถึงการดีไซน์สมัยใหม่ กับกระจังหน้า Electrified Matrix Grille Design ไฟ LED ทั้งด้านหน้าและหลัง มาพร้อมระบบเปิด-ปิด อัตโนมัติ และไฟส่องสว่าง Day Time แทรกด้วยสีฟ้าบ่งบอกถึงความเป็นรถไฮบริด ล้อแม็ก 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/55/17 มี AERO WHEEL COVER ฝาครอบพลาสติกเพิ่มความลู่ลม สามารถถอดออกได้ ตัวรถด้านข้างให้อารมณ์สปอร์ต ตัดกับหลังคาทูโทนสีดำ มาพร้อมพาโนรามิคซันรูฟ ขณะที่ด้านท้ายของตัวรถดูจะไม่ค่อยแตกต่างจากรุ่นพี่อย่าง ZS สักเท่าไหร่

โดยรถรุ่นนี้ใช้พื้นฐานของ MG ZS เป็นตัวออกแบบ มิติตัวถังมีขนาดความยาว 4,370 มิลลิเมตร กว้าง 1,809 มิลลิเมตร สูง 1,653 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,585 มิลลิเมตร ความกว้างล้อหน้า/หลัง 1,526 / 1,539 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุด 145 มิลลิเมตร น้ำหนักประมาณ 1,450 กิโลกรัม

และถึงแม้ว่าตัวรถจะดูมีความคล้ายกับรุ่นพี่อยู่บ้าง แต่ภายในนั้น New MG VS มีความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ด้วยหน้าจอ Dual Widescreen Cockpit ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว 2 จอ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของรถกลุ่ม B-SUV ที่มีการออกแบบในลักษณะนี้ หน้าจอแสดงผลแบบ HD แบ่งเป็นมาตรวัด Full Virtual Dashboard ขนาด 12.3 นิ้ว และจอที่คอนโซลกลางขนาด 12.3 นิ้ว ควบคุมด้วยระบบสัมผัส และ Illuminated Touch Panel มาตรวัดปรับเปลี่ยนการแสดงผลได้หลายรูปแบบ ภาพกราฟิกสวยสบายตาและเข้าใจง่าย ส่วนจอที่คอนโซลกลางใช้ระบบสัมผัส ตอบสนองได้ทันใจพอสมควร แสดงผลคมชัดเช่นกัน ที่ได้ใช้ตลอดการเดินทางคือระบบนำทางผ่าน 2 ระบบ ทั้ง AppleCarPlay และ Andriod Auto

พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชันให้การควบคุมในสไตล์รถยุโรป ก้านฝั่งซ้ายเป็นไฟเลี้ยว และระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟ ส่วนฝั่งขวาเป็นระบบควบคุมที่ปัดน้ำฝน ระบบเกียร์เป็นแบบไฟฟ้า คอนโซลกลางดีไซน์แบบ 2 ชั้น Double Layer เพิ่มพื้นที่ใช้สอย ด้านบนเป็นที่ชาร์จไร้สายแบบ Fast Charge สามารถชาร์จสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ๆ ได้ มีแผ่นกันลื่นที่ช่วยล็อกอุปกรณ์ให้อยู่กับที่ ด้านล่างของคอนโซลกลางมีช่องจ่ายไฟฟ้าและช่อง USB-A สำหรับเชื่อมต่อ และ USB-C สำหรับชาร์จ ในส่วนของช่องแอร์จะอยู่ด้านล่างสุด เหนือปุ่มควบคุมแบบระบบสัมผัส ด้านหลังมีช่องแอร์พร้อมช่องเสียบ USB-A ไว้ให้สำหรับผู้โดยสารตอนหลังด้วย

อีกหนึ่งจุดเด่นก็คือขนาดของห้องโดยสารที่ดูไม่แคบมาก และไม่รู้สึกอึดอัด เบาะคนขับปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง ขณะที่เบาะคนนั่งปรับเอนหน้าหลัง เลื่อนเบาะได้ แต่ไม่สามารถปรับความสูง-ต่ำได้ พนักพิงเบาะหลังแยกพับได้ ใต้ที่นั่งฝั่งซ้ายมีช่องดูดอากาศเย็นในห้องโดยสารไประบายความร้อนแบตเตอรี่ไฮบริดที่อยู่ใต้พื้นห้องเก็บสัมภาระด้านท้าย พื้นที่เก็บของเพียงพอต่อการใช้งาน

อีกหนึ่งสิ่งที่คงจะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ ระบบปฏิบัติการ i-SMART ที่เชื่อมต่อผู้ขับเข้ากับฟังก์ชันอันเป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์เอ็มจี พร้อม Digital Key Technology รับ-ส่งกุญแจดิจิทัลผ่านสมาร์ตโฟนได้ ระบบ Navigation ที่สามรถทำงานได้ผ่านหน้าจอฝั่งคนขับ รวมถึงแสดงผลได้ทั้ง 2 จอ Dual Widescreen เติมเต็มอรรถรสในการฟังเพลงด้วยแอปพลิเคชัน JOOX ที่ใส่มาให้ในรถยนต์รุ่นนี้ด้วย

ขยับมาที่ขุมพลัง รุ่นนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว VTi-TECH ผสานขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า ให้พละกำลังรวมสูงสุดที่ 177 แรงม้า แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ความจุ 2.13 กิโลวัตต์ชั่วโมง ถังน้ำมันจุ 48 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ E-CVT เลือกโหมดการขับได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ Eco, Comfort และ Sport และมีระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) ปรับการชาร์จไฟฟ้ากลับได้ 3 ระดับ

พละกำลังเหลือล้น คือจุดเด่นของรถยนต์รุ่นนี้ ซึ่งจากบททดสอบในสนามแข่งปทุมธานี สปีดเวย์ ในเรื่องของอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่เอ็มจีเคลมไว้ 9 วินาที และลองประสิทธิภาพของช่วงล่างด้วยการขับแบบ Mini Circuit, Slalom และ LaneChange เริ่มจากลองอัตราเร่ง 2 ครั้ง สามารถทำตัวเลขประมาณ 8.4-9.2 วินาที ถือว่าสมรรถนะในเรื่องของอัตราเร่งทำได้อย่างน่าชื่นชม ในส่วนของ Handing การควบคุมตัวรถในการเข้าโค้งด้วยความเร็วเฉลี่ย 50-60 กม./ชม. ก็ถือว่าทำได้เนียน ด้วยระบบกันสะเทือนหน้า อิสระแม็กเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชั่นบีม รองรับการขับแบบรุนแรงกว่าการใช้งานจริงได้สบาย

และอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้ผู้ขับไม่รู้สึกตื่นกลัวก็คือ ระบบความปลอดภัยที่ให้มา ทั้งระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System) ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System) ระบบเบรกดิสก์ 4 ล้อ ด้านหน้ามีครีบระบายความร้อน ก็ทำหน้าที่ได้ดี สร้างแรงเบรกได้เหมาะสมกับกำลังของเครื่องยนต์ และควบคุมแรงเบรกได้ง่าย ทั้งการเบรกแบบฉุกเฉิน หรือการเบรกอย่างนุ่มนวล มาพร้อมระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake) ระบบป้องกันการไหลของรถ AVH (Auto Vehicle Hold) ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS (Anti-lock Brake System) ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution) และระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)

โดยรวมของ New MG VS HEV คันนี้ ถือว่าให้ความคุ้มค่าในทุกๆ ด้าน อย่างเหมาะสมกับราคาที่ทางเอ็มจีตั้งไว้ในราคา 859,000- 919,000 บาท ไม่ว่าจะเป็น ตัวรถที่มีดีไซน์ล้ำสมัย มาพร้อมเทคโลยี และฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งานของคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี มีให้เลือกด้วยกันถึง 2 รุ่น D และรุ่นท็อปสุด X

 

 

Previous Article

รามอินทรา จุ๊กจิ๊ก 509

Next Article

อุทัย เรืองศักดิ์ แรงขับเคลื่อน “มาสด้า”

0
Shares
  • 0
  • +
  • 0

Related articles More from author

  • Test Drive

    ลองขับ By The Great MAZDA CX-8 XDL EXCLUSIVE รถครอบครัวยุคใหม่ ขับสนุก นั่งสบาย

    September 5, 2022
    By writer
  • Test Drive

    ลองขับ By OIL VOLVO EX30 รถไฟฟ้ารักษ์โลก ตอบโจทย์คนใช้อีวี

    April 2, 2024
    By writer
  • Test Drive

    ลองขับ By The Great NISSAN ALMERA VL ครบครัน ทันสมัย ยิ่งขึ้น

    June 18, 2023
    By writer
  • Test Drive

    ส่องกล้อง By The Great Mercedes-AMG G 63 G manufaktur คลาสสิกเอสยูวี โดดเด่น ดุดัน

    March 5, 2024
    By writer
  • Test Drive

    ส่องกล้อง By The Great BMW 330e M Sport รูปโฉมเข้าตา สมรรถนะน่าใช้

    June 10, 2023
    By writer
  • Test Drive

    ลองขับ By The Great HONDA CIVIC e:HEV RS สปอร์ตโดดเด่น ขับสนุก ดุดัน

    September 12, 2022
    By writer

Copyright © ramindhra-uhu.com. All rights reserved.