ลองขับ by Oil MITSUBISHI TRITON ATHLETE 4WD บทพิสูจน์ที่มากกว่าคำว่า “กระบะ”

หลังจากการเปิดตัวในตลาดประเทศไทยของ ออล นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน เมื่อปีที่ผ่านมา ภายใต้รูปลักษณ์ใหม่ เทคโนโลยีใหม่ ทั้งขุมพลัง ช่วงล่าง ระบบความปลอดภัย ซึ่งครั้งนี้เราจะพามาพิสูจน์สมรรถนะกับกระบะรุ่นท็อปของค่ายมิตซูบิชิ ที่เพิ่งเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนที่ผ่านมา ว่าจะมีความโดดเด่นในเรื่องใดบ้าง ไปติดตามกันได้ในคอลัมน์ลองขับฉบับนี้กันได้เลยครับ
สำหรับ MITSUBISHI TRITON ATHLETE 4WD ที่เราได้ไปลองขับไกลกันถึงเชียงใหม่ สิ่งแรกที่ต้องเหลือบสายตาไปมองก็คือในเรื่องของการดีไซน์ตัวรถที่สะท้อนความเป็นจิตวิญญาณของมิตซูบิชิ ภายใต้การออกแบบ บีสต์ โหมด เน้นความใหญ่ของตัวถังผสานความแข็งแกร่งของเมกา เฟรม มีการตกแต่งด้วยวัสดุสีดำรอบคัน ตั้งแต่กระจังหน้า ด้านข้าง ราวแร็คหลังคา มือจับขอบประตู และกันชนด้านท้าย เสริมลุคให้มีความพรีเมียมสปอร์ตและดุดันมากขึ้น
เติมความเฉียบคมด้านหน้าด้วยไฟหน้า LED มาพร้อมไฟ DRL ด้านล่างมาพร้อมไฟตัดหมอก มีระบบ Automatic Headlight คอยควบคุมการเปิด/ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ ดีไซน์ล้อแบบสปอร์ตสีดำ ใส่ยาง Bridgestone Dueler H/T ขนาด 265/60 R18
เขยิบมาที่ตัวห้องโดยสารให้อารมณ์เหมือนนั่งอยู่ในรถ Passenger Car การออกแบบเน้นสีทูโทน ดำ-ส้ม หุ้มด้วยวัสดุซอฟต์ทัช ให้ความรู้สึกนุ่มสบาย สวิตช์ปุ่มควบคุมต่างๆ ถูกจัดวางให้ใช้งานอย่างสะดวก มาพร้อมหน้าจอกลางขนาด 9 นิ้ว แบบทัช รองรับทุกการเชื่อมต่อทุกความบันเทิง มีไวเลจ ชาร์จเจอร์ มาตรวัดหน้าจอแบบ LCD ขนาด 7 นิ้ว บนคอนโซลผู้ขับ พวงมาลัยไฟฟ้าปรับได้ 8 ทิศทาง มีระบบสั่งการฟังก์ชันต่างๆ บนพวงมาลัย เบาะที่นั่งออกแบบเน้นลวดลายรังผึ้งหุ้มหนังสลับกับผ้า เหมาะกับการใช้งานเวลาขับขี่ทางออฟโรด
ขุมพลังใหม่ ไฮเปอร์ พาวเวอร์ เอ็กซ์ทู ผสานการทำงานร่วมกับเทอร์โบ 2 สเตจ ความจุ 2.4 ลิตร ให้กำลัง 204 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิด 470 นิวตันเมตร จุดเด่นของเครื่องยนต์อยู่ที่วัสดุที่ใช้ในการผลิตเป็นอะลูมินัมอัลลอย ทั้งเสื้อสูบ และฝาสูบ มีน้ำหนักเบา ทนทาน และระบายความร้อนได้ดี ส่วนระบบเทอร์โบแบบแปรผัน VG Turbo เน้นการสร้างแรงดันอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ระบบปั๊มหัวฉีดน้ำมันดีเซล คอมมอนเรลรุ่นใหม่ ช่วยสร้างแรงดันน้ำมันได้สูงกว่า และฉีดจ่ายน้ำมันได้ละเอียดกว่า ส่งผลให้เผาไหม้ได้หมดจด และช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ทำงานผสานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
อีกหนึ่งความโดดเด่นของ ไทรทัน แอทลีท รุ่นนี้คือ ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ ปีกนก 2 ชั้น คอยล์สปริง และโช้คอัพ ด้านหลังแบบแหนบแผ่นซ้อน ให้ความนุ่มสบายในสไตล์รถยนต์นั่ง มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD II มีโหมดให้เลือกปรับใช้ตั้งแต่ 2H สำหรับขับขี่บนถนนปกติ, 4H ถนนเปียกลื่น และต้องการใช้ความเร็ว, 4HLC เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบถ่ายทอดกำลังเครื่องยนต์ไปยังล้อทั้ง 4 ด้วยระบบ Center Differential Lock เหมาะสำหรับเส้นทางวิบากที่ยังใช้ความเร็วในการขับขี่ และ 4LLC ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบถ่ายทอดกำลังเครื่องยนต์ไปยังล้อทั้ง 4 ด้วยระบบ Center Differential และเพิ่มระบบล็อกเฟืองท้ายเข้ามาช่วย เหมาะสำหรับใช้งานในเส้นทางวิบาก
มาพร้อมโหมดการขับขี่ที่สามารถปรับได้ถึง 7 รูปแบบ อาทิ โหมด Normal, Eco, Gravel, Snow, Mud, Sand และ Rock และยังติดตั้งระบบ AYC (Active Yaw Control) ปรับความสมดุลและรักษาเสถียรภาพในการเข้าโค้ง เสริมความปลอดภัย ด้วยระบบไดมอนด์ เซนส์ ตรวจสอบความเคลื่อนไหวและสภาพแวดล้อมรอบตัวรถ ด้วยเซ็นเซอร์และเรดาร์ที่ละเอียด แม่นยำ ตัวรถยังติดตั้งระบบมิตซูบิชิ คอนเนค ที่สามารถสั่งการตัวรถแบบไร้สายได้จากระยะไกล ตรวจสอบข้อมูลต่างๆ บริการช่วยเหลือบนถนน (Roadside Assistance) การแจ้งอัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ การช่วยเหลือเมื่อรถถูกโจรกรรม (Stolen Vehicle Assistance) และอุ่นใจตลอดเส้นทางด้วยระบบขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน SOS ผ่านตัวรถ (e-call)
ครั้งนี้ได้ลองขับในเส้นทางจากตัวเมืองเชียงใหม่-ไปยังดอยแม่สลอง จ.เชียงราย โดยช่วงแรกที่ต้องพบเจอกับสภาพการจราจรที่ติดขัดในเมือง การเร่งแซงในพื้นที่คับขันถือว่าทำได้ดี การตอบสนองของคันเร่งทำได้รวดเร็ว ฉับไว้ด้วยพละกำลังของเครื่องยนต์ที่ผสานการทำงานร่วมกับเทอร์โบ 2 ลูก ช่วยส่งกำลังให้กับเครื่องยนต์ได้ในทุกย่านความเร็วทั้งรอบต่ำและสูง
ในส่วนที่ชื่นชอบเป็นพิเศษคือ ตัวห้องโดยสารที่ค่อนข้างเงียบ เสียงรบกวนต่างๆหรือแม้กระทั่งจากเครื่องยนต์ที่คำรามเข้ามาในห้องโดยสารแทบจะน้อยมากๆ ฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ ถูกจัดวางไว้อย่างเรียบง่าย มีการต่อท่อแอร์ไปยังผู้โดยสารตอนหลัง มีช่องเสียบ USB ให้ผู้โดยสารแถวหลัง สะดวกสบายในการชาร์จแบตไม่ต้องไปแย่งกับด้านหน้า
ในส่วนสมรรถนะการขับขี่บนเนินเขาสูงชัน ทำได้อย่างเนียนตา การเข้าโค้งทำได้แม่นยำ ด้วยระบบตัวช่วย AYC ที่คอยปรับสมดุลการและรักษาเสถียรภาพ เรียกว่าเข้าโค้งด้วยความเร็วทำได้อยู่หมัด ช่วงล่างให้ความนุ่มนวล ไม่ดีดเด้ง อาการสะเทือนเมื่อเจอกับรอยต่อถนนทำได้ค่อนข้างดี คันเร่งก็ให้การตอบสนองที่ฉับไว พวงมาลัยควบคุมง่าย ให้วงเลี้ยวที่แคบกว่ารถกระบะเจ้าอื่นๆ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ในโหมด 4H ของไทรทัน แอทลีท 4WD ถือว่าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ความมั่นใจในการขึ้นดอย-ลงดอย และในสภาพทางที่มีฝุ่นปกคลุม หรือถนนเปียกชื้นได้อย่างสบายๆ
โดยรวมของ ไทรทัน แอทลีท 4WD ถือว่าเป็นรถกระอีกหนึ่งรุ่นที่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ตอบโจทย์การเดินทางได้ทั้งใกล้และไกล ห้องโดยสารให้อารมรณ์ความรู้สึกเหมือนรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ขับขี่ง่าย พวงมาลัยไม่หนักมือ ผู้หญิงก็ขับได้ ยังไงก็อยากเชิญชวนผู้ที่สนใจลองไปสัมผัสและลองขับกันได้ที่โชว์รูมมิตซูบิชิ ทั่วประเทศ กับราคาค่าตัวเพียง 1,298,000 บาท
นี่แหละ! บทพิสูจน์ของ มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท “กระบะ ที่เป็นมากกว่า กระบะ”