“รามอินทรา” ยกนิ้วให้ 595 นับถอยหลังสู่งาน บางกอก มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 ยกนิ้วให้…ทุกค่ายทุกคน
ไม่รู้เป็นเพราะ “รามอินทรา” มีความผูกพันกับงานบางกอก มอเตอร์โชว์ มานานถึงนานมากหรือปล่าววว ก้อ…ตั้งแต่ครั้งยังจัดงานอยู่ที่สวนอัมพร ไปไบเทค ก่อนจะปักหลักอยู่ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี สิ่งหนึ่งที่รู้สึกตื่นเต้นด้วยทุกครั้ง น่าจะเป็นความคึกคักแห่งค่ายยานยนต์นี่แหละ เพราะงานบางกอก มอเตอร์โชว์ เป็นอีกความแตกต่างที่ชัดเจนยิ่ง ไม่ได้แค่โชว์รถแต่ยังมีการจอดรถอีกด้วย ด้วยเหตุนี้…การเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ ของแต่ละค่ายจึงมีความหมายสำคัญ เหมือนเป็นต้นทุนของความสำเร็จ ยอดจองแต่ละปีสามารถไปต่อยอดได้ ทำให้การเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ จึงต้องเน้นกินเป็นพิเศษ อาจกล่าวได้ว่า…เป็นงานมอเตอร์โชว์ หนึ่งเดียวที่แตกต่าง เป็นเอกลักษณ์ที่ชัดเจน จะได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนาน
ด้วยเหตุนี้…การเริ่มต้นนับถอยหลัง ก็เหมือนการเริ่มต้นของแต่ละค่าย ที่ต้องมีการเตรียมการเปิดตัว ซึ่งบางครั้งก็ไม่ค่อยยอมเปิดเผยกันล่วงหน้า เป็นอีกสีสันที่เหมือนเป็นปี่กลองแห่งมอเตอร์โชว์อีกด้วย ปีนี้… “รามอินทรา” พยายามจับอาการของค่ายยานยนต์ ด้วยสถานการณ์น่าจะเอื้ออำนวยพอสมควร เมื่อผ่านวิกฤติมาจนทำให้แต่ละค่าย ต้องพร้อมที่จะเปิดตัวเพื่อจะให้เป็นตัวเลือกของคนที่รอจะเป็นเจ้าของรถรุ่นใหม่สักคัน “รามอินทรา” เชื่ออีกด้วยว่า…ปีนี้จะคึกคักทั้งค่ายรถและคนดู ที่มีทั้งรถไฟฟ้าและรถน้ำมัน มาแย่ง “ยอดจอง” กัน แม้ “รถไฟฟ้า” จะร้อนแรง แต่ก็เชื่อว่ารถน้ำมัน คงไม่ยอมให้แย่งพื้นที่ง่ายๆ เพราะเริ่มเห็นการเปิดตัวของฟากฝั่งรถน้ำมัน เพิ่มขึ้นเป็นระยะๆ อยู่แค่จะน่าสนใจหรือไม่เท่านั้นเอง
แต่ที่น่าเสียดาย น่าจะเป็นเรื่องของรถจักรยานยนต์นั่นแหละ เมื่อรถหลักที่คึกคักจริงๆ ยังแลเห็นแค่ 2 ค่ายเท่านั้น ทั้งไทยยามาฮ่า และไทยฮอนด้า ต่างก็เปิดแผนเปิดตัวกันไปแล้ว รวมถึงยังแอบเห็นความคึกคัก ที่จะนำไปโชว์กันในงานมอเตอร์โชว์ น่าจะเป็นอีกพื้นที่ที่เป็นสีสันอยู่ที่ท้ายซอยนั่นแหละ ทั้งการเปิดตัวทั้งการจัดกิจกรรม ล้วนสร้างความคึกคักมาทุกปี ส่วนอีก 2 ค่ายทั้ง ซูซูกิ และ คาวาซากิ ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของงาน แต่น่าเสียดายที่ระยะหลังความคึกคัก ค่อนข้างจะเงียบเหงาลงไป ก็ยังไม่รู้ว่าปีนี้จะเป็นเยี่ยงไร? เพราะยังไม่เห็นร่องรอยความคึกคัก รวมถึง…รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า หลากหลายยี่ห้อที่เข้ามางาน ถือเป็นสีสันเล็กๆ ที่มีความวูบวาบให้ได้เห็น ทั้งยังสามารถเรียกคนเข้าบูธได้ไม่น้อยเชียวล่ะ
เป็นบรรยากาศก่อนเข้าสู่วังวนแห่งสีสัน และเสียงปี่กลองที่ตื่นเต้นเร้าใจ เป็นการเช็คความพร้อมของค่ายยานยนต์ เท่าที่จับอาการได้ ที่น่าสนใจอยากบอก ปีนี้คึกคักเติมพิกัด ก้อ…ขนาด “เจ้านาย” ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ต้องเพิ่มพื้นที่จัดแสดง “รามอินทรา” ยกนิ้วให้กับทุกการขับเคลื่อน เพราะนี่เป็นอีกความชัดเจนแห่งสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทย หลังผ่านวิกฤติของประเทศไทย หลังผ่านวิกฤติโควิด-19 ที่ครอบงำมากว่า 4 ปี ขอให้ปีนี้…เป็นปีที่งานบางกอก มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 เป็นต้นทุนให้กับทุกค่ายยานยนต์สามารถเก็บเกี่ยวความสำเร็จได้ตามเป้าหมาย
เอาใจช่วยให้มีรอยยิ้มทุกค่ายนะครับ
มากกว่าขอบคุณ
“รามอินทรา”
บ้านชินเขต
14 กุมภาพันธ์ 2567