รามอินทรา จุ๊กจิ๊ก 675
สัปดาห์ที่ 675 กับการเขียนเรื่องราวของ “เด็กยานยนต์” ในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ “รามอินทรา” ที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน สัปดาห์นี้ 4 คน 4 สไตล์ จะเป็นใครบ้าง? น่าสนใจหรือไม่? อยากให้ติดตามอ่านกันครับ…***
- “เบียร์ ยาม่า” อัญชลี ศรีพิทักษ์
ต้องบอก…เป็นห้วงเวลาที่ภารกิจรัดตัวจริงๆ เพราะถือเป็นช่วงเวลาสำคัญ กับภารกิจของ “ไทยยามาฮ่า” ที่มีทั้งภาคปฏิบัติ และภาคทฤษฎี ด้วยเพราะวันนี้…โลกของการแข่งขันหมุนเร็วมาก ไม่มีใครแก่เกินเรียน ตราบใดที่ยังต้องเป็น “คนเงินเดือน” ยังไงก็ต้องสู้
ก้อ…เป็นอีกก้าวย่างของ “เบียร์” ที่ไม่เพียงแต่บทบาทของ “คนไทยยามาฮ่า” เท่านั้น หากในบทบาทของ “คนเป็นแม่” ก็อยู่ในห้วงเวลาสำคัญ เมื่อลูกสาวเติบโตขึ้น ความผูกพันความใกล้ชิด ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญของ “คนเป็นแม่” แต่ไม่ว่าจะเป็นงานไหน เชื่อว่า… “เบียร์” คงมีความสุขกับทุกการขับเคลื่อน
“รามอินทรา” จุ๊กจิ๊กถึง “เบียร์ ยาม่า” ก้อ…เมื่อเป็นความสุขของชีวิต ยังไงก็คงเหนื่อยไม่เป็น เพราะภารกิจล้วนแล้วแต่มีความสำคัญ ยังไงก็ขอให้ดูแลสุขภาพเป็นสำคัญ ถ้าตราบใดสุขภาพไร้ปัญหา เรื่องภารกิจก็ไม่ใช่ปัญหา ขอแค่มีแรงทำและมีแรงเชียร์ จากทุกคนใกล้ชิด โอเคที่สุดแล้วล่ะ
- “ฝน เบนซ์” ศิริพร สุวรรณศรี
ถือเป็นอีกช่วงเวลาแห่งความเข้มข้น เพราะสถานการณ์ที่ผ่านมานั้น ไม่ว่ารถยนต์ประเภทไหนก็เหนื่อยด้วยกันทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้…เวลาที่เหลือของปี 68 ที่มีแค่ไม่ถึง 2 เดือน ยังไงก็ต้องเปิดเกมบ้างไม่มากก็น้อย รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ นั้นปกติใครก็อยากเป็นเจ้าของ แต่…วันนี้เมื่อไม่ปกติ เลยต้องเหนื่อยนิดนึง
แต่…ก็ยังเชื่อในวิถีแห่งความเป็นดวงดาว ยังไงคงก็ยังอยากเป็นเจ้าของ อาจลำบากนิด แต่ก็คงไม่ใช่ปัญหา ทุกอย่างเป็นไปตามกลไกของสภาพเศรษฐกิจ “ฝน” อาจเหนื่อยขึ้นบ้าง แต่ยังเชื่อในประสบการณ์ รวมถึงความเป็นเมอร์เซเดส-เบนซ์ รถยนต์คนมีตังค์ ขอแค่ใช่เดี๋ยวก็มีคนอยากเป็นเจ้าของเองแหละ
“รามอินทรา” จุ๊กจิ๊กถึง “ฝน เบนซ์” วันนี้…เรื่องงานยังไงก็ยังไร้ปัญหา เพราะเหนื่อยแค่ไหน พอคิดถึง “ลูกชาย” ที่กำลังเติบโต โอ๊ย! ทำไม “แม่ฝน” ถึงหายเหนื่อยและมีรอยยิ้ม แหม่…ชีวิตที่มีความสุขนั้น นอกจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ แล้ว ก็เป็น “ลูกชาย” นี่แหละ เหนื่อยแค่ไหนก็ไม่เหนื่อย จริงมั้ยครับ “คุณฝน”
- “นู๋แข” สุชญา เชียรแกล้วกล้า
เชื่อว่า…ถึงวันนี้ “นู๋แข” น่าจะสบายใจขึ้นบ้าง เมื่อรถยนต์โตโยต้า สามารถเปิดเกม “รถไฮบริด” จะสามารถสร้างความสำเร็จได้แบบทะลุเป้าหมาย ถือเป็นรถยนต์คันที่ใช่ของคนไทย ที่สามารถเปิดเกมสู้กับรถไฟฟ้าได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย โดยเฉพาะ…โตโยต้า ยาริส เอทีฟ ที่กลายเป็นรถเก๋งเล็กยอดนิยม
เพียงแต่…วันนี้ของรถยนต์โตโยต้า นั้น แตกต่างจากวันวานเป็นอย่างยิ่ง ด้วยอาจเป็นเพราะวิถีของแวดวงยานยนต์ไทยที่แปรเปลี่ยนไป ทำให้รู้สึกเหมือนจะห่างเหินกันไป ยอมรับว่า…แทบจะไม่ได้เจอตัวเป็นๆของ “นู๋แข” เลยอย่างมากก็แค่กริ๊งกร๊างคุยกัน แต่…ก็ยังรู้สึกผูกพันเหมือนเดิมแหละ
“รามอินทรา” จุ๊กจิ๊กถึง “นู๋แข” ก้อ…แค่อยากให้วิถีแห่งความผูกพัน ย้อนเวลากลับมาเหมือนวันวาน ยังอยากเจอกันบ้าง อยากให้ “โตโยต้า” ยังคงดูแล “คนสื่อ” บ้าง ก้อ…เป็นแค่แนวคิด เพราะชีวิตที่เปลี่ยนไปยังไง “รามอินทรา” ก็ยังโชคดีที่ “นู๋แข” ยังคงกริ๊งกร๊างคุยกันได้ แม้จะไม่บ่อยครั้ง ก็ยังถือว่าโอเคอยู่นะครับ
- “ญี่ปุ่น ฟอร์ด” วรรวนัช ตันเรืองวงษ์
ต้องบอก…ระยะหลังแทบไม่ได้เจอะเจอกับ “คนฟอร์ด” รวมถึงคนสื่อ “ญี่ปุ่น” อีกด้วย อาจเป็นเพราะ “รามอินทรา” ก็ไม่ค่อยได้ออกงาน หรือ “ฟอร์ด” เองก็ไม่ค่อยจะมีงาน แต่…ก็ไม่มีอะไรในกอไผ่ เพราะถึงอยากเจออยากกริ๊งกร๊างไปหาก็คงเป็นเรื่องยาก เมื่อไม่มีเบอร์จะโทรได้ยังไง จริงมั้ย?
หรือจะเป็นเพราะว่า…ห้วงเวลานี้รถยนต์ฟอร์ดก็ไม่มีรถรุ่นใหม่มานำเสนอ จะมีก็เป็นเพียงแค่การปรับโน่นปรับนี่ แล้วก็เชิญ “คนสื่อ” ไปทำกิจกรรมร่วมกันบ้าง ถ้าเป็นเยี่ยงนี้…คนยิ่งเจอะเจอกันยาก เพราะ “ยวดยาน” หรือ “รามอินทรา” ไม่ถนัดในงานแบบนี้ และต้องปิดต้นฉบับทุกวันจันทร์และอังคารอีกด้วย
“รามอินทรา” จุ๊กจิ๊กถึง “ญี่ปุ่น” ก้อ…แค่หาเรื่องมาเขียนถึง ทั้งๆที่ไม่มีอะไร แค่คิดถึงงและไม่ค่อยได้เจอะเจอกันเท่านั้นเองแหละ ส่วนที่ไม่มีกริ๊งกร๊างคุยกันเป็นเพราะไม่มีแบอร์ เลยติดต่อไม่ได้ แต่ก็ยังยืนยันนะครับ กับ “คนฟอร์ด” กับ “ญี่ปุ่น” นั้น สำหรับ “รามอินทรา” และ “ยวดยาน” บอกตรงๆ ไร้ปัญหา โอเคเหมือนเดิมครับ
ครบถ้วน 4 คน 4 สไตล์ จะเป็นใครบ้าง? น่าใจหรือไม่ ยังไงก็อยากให้ติดตามอ่านกันนะครับ
มากกว่าขอบคุณ
“รามอินทรา”
บ้านชินเขต
29 ตุลาคม 2568
