รามอินทรา จอ…จ่อ…จ้อ…620 วิถีชีวิต…ที่เปลี่ยนแปลง สุขภาพ…ที่แข็งแรงขึ้น ชีวิต…ที่มีความสุข

วันนี้…เจอใครต่างก็มีความรู้สึกเหมือนกันว่า เวลาผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน ตัวเองก็รู้สึกยังงั้นเหมือนกัน แต่…ก็มีคนให้ความเห็นอีกเหมือนกันว่า…เวลานั้นยังคงเคลื่อนที่เหมือนเดิม แต่…เรื่องรอบตัวต่างหากที่เปลี่ยนไปและทำให้รู้สึกว่า…เวลาเปลี่ยนไปรวดเร็วจริงๆ เรื่องรอบตัวเป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลงในวิถีการดำรงชีวิต ไม่ว่าจะเป็นของโซเชียล ที่มีจอสี่เหลี่ยมมาเป็นเพื่อน ทุกคนสามารถอยู่กับตัวเองได้ มีเรื่องมากมายในจอสี่เหลี่ยม ที่ทำให้รู้สึกเวลาเปลี่ยนไปรวดเร็วจริงๆ หน้าจอสี่เหลี่ยมทำให้เวลาเคลื่อนที่ไปแบบไม่รู้ตัว เผลอแป๊บเดียวชั่วโมงหนึ่ง เผลออีกแป๊บ 2 ชั่วโมงแล้ว เดี๋ยวอีกแป๊บเวลาก็ผ่านไปหนึ่งวันแล้ว ก้อ…เลยไม่แปลกใจทำไมปีนึงถึงได้รู้สึกว่า…แป๊บเดียวทั้งๆที่ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม เวลายังคงเดินทางเหมือนเดิม
ก้อ…เลยนึกถึงวิถีชีวิตของตัวเอง วันนี้…นอกจากยังคงเป็น “คนทำงาน” ยังคงมาทำงานทุกวันจันทร์-ศุกร์ เพียงแต่กลับบ้านเร็วขึ้น แค่บ่าย 2 โมงก็กลับแล้ว เพราะเกษียณแล้วทำงานเสร็จก็ถือว่าโอเค กลับบ้านช่วย “คุณย่า” เลี้ยง “หลายมิรา” แบบคั่นโฆษณา ได้กินข้าวเร็วขึ้นประมาณ 5 โมง – 6 โมง กินเสร็จเรียบร้อย ได้พักผ่อนแล้ว อ้อ…ลืมบอกไป วันนี้ “รามอินทรา” กินข้าวแค่ 2 มื้อเป็น มื้อเช้ากับมื้อเย็น บอกใครก็ถูกถาม…ทำไมต้องกินเย็น เหตุผลง่ายๆช่วงเช้ากว่าจะกินข้าวก็ประมาณ 9 โมงแล้ว จะกินข้าวก็แป๊บเดียวเที่ยงอีกแล้ว เลยยกยอดไปกินเย็นดีกว่า ได้กินเร็วด้วย ไม่เกิน 6 โมงจบข่าว ทำให้วันนี้ไม่ค่อยได้กินแบบยืดเยื้อเหมือนเมื่อก่อน ที่กว่าจะกินบางครั้งทุ่ม 2 ทุ่ม ก้อ…เป็นอีกวิถีที่เปลี่ยนไปและทำให้ชีวิตตัวเองโอเคขึ้นเยอะเลย
อีกเรื่องหนึ่งที่เปลี่ยนไป “รามอินทรา” เคยมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น จากที่น้ำหนัก 81 – 82 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นทุกวันจนขยับไปถึง 89 กิโลกรัม กางเกงทุกตัวคับหมด จะต้องถามตัวเองว่า…โอเคมั้ย? ถ้าน้ำหนักจะขยับไปถึง 100 กิโลกรัม แล้วต้องซื้อกางเกงใหม่ยกชุด อาจจะอุ้ยอ้ายขึ้น ถ้าขืนยังไม่ดูแลตัวเอง ยังสนุกปากยังงี้ มื้อเช้ายังไงก็ได้ ส่วนมื้อเย็นซีเรียสนิดนึง ไม่ไหวก็รวบทิ้งไปเลย ไม่มีการเสียดาย ก็ได้ผลทันตา เพราะน้ำหนักเริ่มลดลงเรื่อยๆ จากเกือบ 90 กิโลกรัม วันนี้เหลือเพียง 75 – 76 กิโลกรัม สุขภาพก็โอเคขึ้นโดยไม่ได้ไปออกกำลังกาย แค่ใช้วิธีทำงานบ้านแทน ถูบ้านถูโรงรถ รดน้ำต้นไม้ แล้วก็อาบน้ำแต่งตัวมาทำงาน หรือบางวันก็มีที่ไปเดินซื้ออาหารตามตลาดแถวบ้าน ได้เดินบ้างตามสถานการณ์
เป็นอีกวิถีทางที่ “รามอินทรา” เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงการดูแลตัวเองเยอะขึ้น แต่ร่างกายดูดีขึ้น เดินเหินได้สะดวกสบายขึ้น เป็นอีกวิถีแห่งการดูแลตัวเองที่เชื่อว่า ใครก็สามารถนำไปปฎิบัติได้ หรือไม่ก็แค่ดูแลตัวเองให้อยู่ในเส้นทางแห่งความสุข เลยหยิบมา จอ…จ่อ…จ้อ ให้อ่านกัน
จะลอกเลียนแบบบ้าง ก็ไม่ว่ากันนะครับ
ด้วยรักและผูกพัน
มากกว่าขอบคุณ
“รามอินทรา”
บ้านชินเขต
3 ตุลาคม 2568