“ยานยนต์ไทย” ห้วงปี 68 หลายฝ่ายคาดฟื้นตัวช้า

ตลาดรถยนต์ไทยปี 2567 ที่ผ่านมา หดตัวอย่างรุนแรง จากปัจจัยลบหลายอย่างที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กัน โดยมี 572,675 คัน ลดลง 26.2% ส่วนปีนี้แนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปี 2568 คาดว่าจะยังคงอยู่ในสภาวะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปพร้อมกับการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจโดยรวม
จากรายงานยอดคาดการณ์ตลาดรถยนต์ในปี 2568 โดย โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย มองว่า ตลาดรถยนต์จะยังคงอยู่ในช่วงสภาวะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป เช่นเดียวกับการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจโดยรวม โดยมีแรงหนุนด้านอุปสงค์จากกิจกรรมในภาคธุรกิจและการลงทุนที่จะกระเตื้องขึ้น โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตดีขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นความต้องการรถยนต์ให้สูงขึ้น
นโยบายของภาครัฐที่จะสนับสนุนการใช้จ่าย การขยายตัวของการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมภายในประเทศและโครงสร้างพื้นฐาน การผลักดันมาตรการสนับสนุนของภาครัฐที่มีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ ตลอดจนกลยุทธ์การส่งเสริมการขายและสงครามราคาจากผู้ผลิตรถยนต์แบรนด์ต่างๆ ที่คงจะทวีความเข้มข้นยิ่งขึ้น
เบื้องต้นคาดว่า ยอดขายรถยนต์ปี 2568 จะอยู่ที่ 600,000 คัน เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แบ่งเป็น รถยนต์นั่ง จำนวน 235,900 คัน โต 5% รถเพื่อการพาณิชย์ จำนวน 364,100 คัน โต 4%
แต่ทั้งนี้ยังต้องจับตามองปัจจัยหลากหลายด้านที่ส่งผลกระทบต่อทิศทางของตลาดในปีที่ผ่านมาจะส่งผลต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นกำลังซื้อที่ลดลงตามสถานการณ์ปัจจุบันของเศรษฐกิจ รวมถึงค่าครองชีพ อัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อที่ทรงตัวสูง ตลอดจนความเข้มงวดของมาตรฐานในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาดรถยนต์ภายในประเทศยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่
ขณะที่ มาสด้า ได้ประเมินสถานการณ์ตลาดรถยนต์ไทยในปีนี้ว่า “เราเชื่อว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมีศักยภาพมากกว่าตัวเลขที่ประเมิน เพียงแต่ยังมีปัจจัยนอกเหนือการควบคุม ทั้งความเข้มงวดของสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อ และอัตราหนี้ครัวเรือนสูงที่ต้องจับตา”
ด้านฟากฝั่งรถแบรนด์พรีเมียม อย่าง วอลโว่ ได้กล่าวถึงสถานการณ์ภาพรวมตลาดรถยนต์รวมและตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ปี 2568 พบว่ายังไม่มีปัจจัยที่ส่งผลดีต่อตลาดที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2567 โดย วอลโว่ ตั้งเป้ายอดขายในปี 2568 เติบโต 5% โดยปัจจัยหลักที่ยังคงเป็นตัวปัญหา ก็ยังอยู่ที่ในเรื่องของเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ที่กระทบกันเป็นห่วงโซ่อุปทาน จะยังคงทำให้ตลาดรถยนต์ในปีนี้ยังคงเดินหน้าไปอย่างช้าๆ ตามสถานการณ์