“บี-เอสยูวี” ฮิต “ครอสโอเวอร์” ฮอต เติมความร้อนแรงรถอเนกประสงค์

ด้วยสมรรถนะที่ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย ส่งผลให้ตลาดรถยนต์อเนกประสงค์เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะครอสโอเวอร์ และบี-เอสยูวี ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค เติมความเข้มข้นให้กับตลาดด้วยตัวเลือกของแต่ละค่ายที่ส่งลงชิงยอดขาย ร่วมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ในรอบปีที่ผ่านมา
รถอเนกประสงค์เป็นหนึ่งในทางเลือกอันดับต้นๆ ของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน เนื่องด้วยสมรรถนะการใช้งานที่หลากหลาย ตอบโจทย์การใช้งานของครอบครัวขนาดย่อม ทั้งในบทบาทวิถีคนเมืองและออกทริปเดินทาง ส่งผลให้จำนวนผู้เล่นในตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน
โดยเฉพาะในเซ็กเมนต์ บี-เอสยูวี และครอสโอเวอร์ ที่แต่ละค่ายต่างขยับตัวเสริมไลน์อัปสร้างโอกาสเก็บเกี่ยวยอดขาย ทั้งผู้เล่นหน้าเก่าและหน้าใหม่ มาพร้อมความโดดเด่นและสมรรถนะการใช้งานที่แตกต่างกันไป สร้างการเติบโตให้กับตลาดกลุ่มดังกล่าว ด้วยยอดขายสะสมมากกกว่า 60,000 คัน ในปีที่ผ่านมา
ไล่เลียงจากเจ้าตลาดอย่าง โตโยต้า โคโรลล่า ครอส ที่เปิดตัวและทำตลาดนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2563 มาพร้อมการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค ภายใต้ขุมพลัง 2 ทางเลือก ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน และลูกผสมอย่างไฮบริด ส่งผลให้ยอดขายของรุ่นดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็นลำดับและเก็บเกี่ยวไปได้กว่า 19,000 คัน ในปีที่ผ่านมา ครองส่วนแบ่งกว่า 1 ใน 3 ของตลาด
รองลงมาเป็นตัวเลือกจากค่ายฮอนด้า หลังเปิดตัว ฮอนด้า เอชอาร์-วี รุ่นที่ 2 ในประเทศไทย ซึ่งเป็นเจเนอเรชันที่ 3 ของรถรุ่นดังกล่าว ด้วยรูปโฉมที่โฉบเฉี่ยวทันสมัยโดนใจแฟนฮอนด้า มาพร้อมขุมพลังไฮบริดที่ตอบโจทย์การใช้งานตามสมัยนิยม ผลักดันให้ฮอนด้า ครองอันดับ 2 ในตลาด ด้วยยอดขายสะสมมากกว่า 16,000 คัน
ทิ้งห่าง เอ็มจี แซดเอส รถอเนกประสงค์ยอดนิยมแบรนด์เอ็มจี ที่ร่วมก่อร่างสร้างตัวนับตั้งแต่เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ก่อนจะต่อยอดความสำเร็จด้วยรถรุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ไล่เลียงมาจนถึงรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ภายใต้บอดี้ดังกล่าวที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน อย่างไรก็ดี รถเครื่องยนต์สันดาปภายใน ยังสามารถสร้างยอดขายไปได้กว่า 6,000 คันในปีที่ผ่านมา
ใกล้เคียงกับ มาสด้า ซีเอ็กซ์-30 หนึ่งในรถยอดนิยมจากค่ายมาสด้า ที่เข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับแบรนด์รวมถึงตลาด ด้วยรูปโฉมที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ บวกกับสมรรถนะการใช้งานที่ยอดเยี่ยม สร้างความนิยมให้กับรถรุ่นดังกล่าวนับตั้งแต่เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ และเก็บเกี่ยวยอดขายให้กับต้นสังกัดไปได้ราว 6,000 คัน
รวมถึงเพื่อนร่วมค่ายอย่าง มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 ทางเลือกอันดับต้นๆ จากแบรนด์มาสด้า หลังเดินหน้าทำตลาดภายใต้รหัสซีเอ็กซ์ ซีรี่ส์ ซึ่งมีตัวเลือกมากถึง 4 รุ่นในปัจจุบัน ถึงแม้จะมีช่วงอายุในตลาดมากกว่า ซีเอ็กซ์-30 ที่สดใหม่มากกว่า ทว่าความนิยมจากผู้บริโภคยังคงเดินหน้าไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยอดขายมากกว่า 4,000 คัน มีส่วนสำคัญในการผลักดันยอดขายให้กับต้นสังกัดในรอบปีที่ผ่านมา
นิสสัน คิกส์ คือรถรุ่นแรกภายใต้ขุมพลัง อี-พาวเวอร์ ในตลาดประเทศไทย หลังเดินหน้าทำตลาดด้วยรถรุ่นอื่นๆในประเทศญี่ปุ่นมาอย่างต่อเนื่อง ทว่าในประเทศไทยยอดขายไม่เปรี้ยงปร้างเท่าที่ควร ก่อนที่ค่ายนิสสัน จะขยับตัวอีกครั้งด้วยรุ่นอัปเกรด ที่ยกระดับในเรื่องสมรรถนะการใช้งาน รวมถึงราคาที่จับต้องได้ง่ายยิ่งขึ้น กระตุ้นยอดขายให้เดินหน้าไปแล้วกว่า 4,000 คัน
ขณะที่ทางเลือกจากค่ายกำแพงเมืองจีนอย่าง ฮาวาล โจไลออน หนึ่งในแบรนด์ลูกสำหรับการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ถึงแม้ยอดขายจะไม่หวือหวา ทว่ายังคงสามารถเกาะอยู่กลุ่มกลางตารางในเซ็กเมนต์ดังกล่าว ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยซึ่งเป็นจุดขายที่ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ชูธงว่าเหนือคู่แข่ง ส่งผลให้ปีที่ผ่านมาเก็บเกี่ยวยอดขายไปได้มากกว่า 2,600 คัน
ถัดมาได้แก่ โตโยต้า ซี-เอชอาร์ อีกหนึ่งทางเลือกจากเจ้าตลาดรถยนต์ในบ้านเรา เดินหน้าทำตลาดมาแล้วมากกว่า ก่อนที่จะยกเลิกทำตลาดรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายใน และเดินหน้าผลักดันขุมพลังไฮบริดนับตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา สามารถสร้างยอดขายให้กับค่ายโตโยต้า ได้มากกว่า 1,300 คัน และจะเริ่มลดลงเรื่อยๆ ตามทิศทางของตลาด เนื่องจากถูกทดแทนด้วยรถรุ่นใหม่ๆ
ด้านน้องใหม่อย่าง เอ็มจี วีเอส ที่เพิ่งเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการช่วงปลายปีที่ผ่านมา ทว่าสามารถเรียกความนิยมจากผู้บริโภค ด้วยรูปโฉมที่โดดเด่นทันสมัย ทั้งยังครบครันด้วยเทคโนโลยีเสริมการใช้งาน ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดขายของรถรุ่นดังกล่าว ตอกย้ำทิศทางอันยอดเยี่ยมด้วยยอดขายกว่า 900 คัน ในช่วงเวลาสั้นๆ นับตั้งแต่ถูกส่งลงทำตลาด
ปิดท้ายด้วย 3 แบรนด์ทางเลือกอย่าง ซูบารุ รวมถึง ฮุนได และเปอโยต์ ที่ส่งผู้เล่นลงชิงยอดขายในตลาดดังกล่าวด้วยเช่นกัน ทว่าด้วยแนวทางการทำตลาดรวมถึงตัวผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้ได้รับความนิยมในระดับท้ายๆ โดย ซูบารุ เอ็กซ์วี มียอดขายมากกว่า 300 คัน ขณะที่ ฮุนได เครต้า และเปอโยต์ 2008 เก็บเกี่ยวไปได้กว่า 300 คัน
ด้วยทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ บวกกับความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อรถในเซ็กเมนต์บี-เอสยูวี และ ครอสโอเวอร์ จะขับเคลื่อนให้บรรดาค่ายผู้ผลิตเดินหน้าเสริมความแข็งแกร่ง เพื่อสร้างโอกาสเก็บเกี่ยวยอดขายในตลาดดังกล่าว ซึ่งจะยังคงเป็นหนึ่งในทางเลือกอันดับต้นๆ ของผู้บริโภค