“บีโอไอ” ชงรัฐบาลใหม่ ต่ออายุมาตรการหนุนอีวี

บีโอไอเตรียมเสนอรัฐบาลชุดใหม่ มาตรการอีวี 3.5 ต่ออายุมาตรการนำเข้ารถอีวี ออกไปถึงปี 68 ภายในเดือน พ.ย.นี้ เพื่อรักษาโมเมนตัมดีมานด์อีวีในประเทศอย่างต่อเนื่อง จากที่มาตรการเดิมจะหมดอายุสิ้นปี หนุนยอดขายอีวีแตะ 50,000 คันต่อปี
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า มาตรการอุดหนุนยานยนต์ไฟฟ้า EV3.5 มีความสำคัญในการรักษาโมเมนตัมในการเติบโตของอุตสาหกรรมอีวีต่อเนื่อง จากมาตรการอีวี3 ที่มีการลดภาษีนำเข้าและอุดหนุนผู้ซื้ออีวีและรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นหนึ่งในกลไกหลักที่กระตุ้นให้เกิดดีมานด์ตลาดในประเทศ ด้วยเงื่อนไขให้มีการผลิตชดเชยประเทศตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในเดือน ธ.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานต่างๆ ได้หารือร่วมกันและเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) ให้มีการขยายเวลาการนำเข้ารถอีวีทั้งคัน (CBU) ได้ตั้งแต่ปี 2567-2568 และให้มีการผลิตชดเชยการนำเข้าในปี 2569-2570
“โดยบีโอไอเตรียมนำเสนอมาตรการดังกล่าวต่อบอร์ดอีวีพิจารณาเห็นชอบอีกครั้งหนึ่ง ก่อนเสนอรัฐบาลชุดใหม่ภายในเดือน พ.ย.-ธ.ค.นี้ ให้พร้อมที่จะเริ่มใช้ได้ในเดือน ม.ค. 2567”
นายกฤษฎา อุตตโมทย์ นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย (EVAT) กล่าวว่า ยอดการจดทะเบียนรถอีวีในช่วง 7 เดือน ปีนี้อยู่ที่ 37,000 คัน แซงตัวเลขปีที่แล้วทั้งปี ซึ่งมีรถอีวีจดทะเบียน 9,600 คัน ดังนั้น ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เชื่อว่าจะยังมีแรงซื้ออีก ด้วยปัจจัยหนุนเรื่องมาตรการอีวี3 ที่อุดหนุนราคาผู้ซื้อและลดภาษีนำเข้า รวมทั้งแนวโน้มราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น และความเข้าใจอีวีที่เพิ่มมากขึ้น
รายงานจากบีโอไอ ระบุว่า แนวโน้มการลงทุนในอุตสาหกรมยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) มีความคึกคักอย่างมาก จากการดำเนินนโยบายส่งเสริมการลงทุนในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าปัจจุบันมีผู้เล่นรายใหม่ที่เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มมากขึ้น อาทิ บีวายดี, เกรท วอลล์ มอเตอร์, เนต้า ซึ่งยังมีอีกหลายบริษัทที่อยู่ระหว่างการเจรจาและเตรียมยื่นส่งเสริมการลงทุนในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ไปจนถึงต้นปีหน้า
“จะเห็นได้ว่าค่ายรถยนต์ใหญ่ๆ ได้ตัดสินใจเข้ามาลงทุนในไทยแล้วหลายราย รวมทั้งมีค่ายรถยนต์เดิมในประเทศที่เริ่มผลิตและประกอบรถยนต์ประเภทแบตเตอรี่ไฟฟ้า (บีอีวี) ในไทยแล้ว เช่น เบนซ์ อีคิวเอส ขณะที่ยังมีอีกหลายรายที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงงาน ติดตั้งเครื่องจักร และเตรียมพร้อมที่จะเริ่มการผลิตและส่งออกรถอีวีตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป โดยหลายบริษัทที่ตัดสินใจลงทุนผลิตอีวีในไทย จะมุ่งผลิตเพื่อป้อนตลาดในประเทศ รวมทั้งใช้ไทยเป็นฐานผลิตเพื่อส่งออกรถอีวีพวงมาลัยขวาในการส่งออกไปทั่วโลก”