“บีเอ็มดับเบิลยู” XM ดุดัน เขย่าตลาดเอสยูวี
บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย สานต่อความนิยม ตอกย้ำบทบาทผู้นำพรีเมียมคาร์ ขยับตัวต้นปีด้วย บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์เอ็ม รถอเนกประสงค์สูงสมรรถนะ ที่มาพร้อมขุมพลังปลั๊ก-อิน ไฮบริด ผสานความสปอร์ตและหรูหรา ชูการขับขี่ที่สนุกสนานเร้าใจภายใต้รหัสเอ็ม พร้อมเปิดให้จับจองผ่านช่องทางออนไลน์
ตลาดรถหรูในปีที่ผ่านมายังคงมีความคึกคัก ด้วยจำนวนผู้เล่นและตัวเลือกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดจดทะเบียนในปีที่ผ่านมามีตัวเลขมากกว่า 34,000 คัน โดย บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงครองสัดส่วนในตลาดมากที่สุด เป็นปีที่ 3 เฉือนเอาชนะ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ราว 400 กว่าคัน
ล่าสุดได้ขยับตัวสานความนิยมด้วย บีเอ็มดับเบิลยู XM ใหม่ ในบทบาทของรถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์ สมรรถนะสูงรุ่นแรกที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนปลั๊ก-อิน ไฮบริด และเป็นรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูตระกูล M รุ่นที่สองต่อจากบีเอ็มดับเบิลยู M1 เขย่าตลาดรถสปอร์ตอเนกประสงค์ในเซ็กเมนต์รถยนต์สมรรถนะสูง
มร.อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “บีเอ็มดับเบิลยู XM นำเสนอแนวคิดใหม่ของกลุ่มรถยนต์สมรรถนะสูง ตอกย้ำถึงศักยภาพของบีเอ็มดับเบิลยู M ในการท้าทายแนวคิดดั้งเดิมและความกล้าที่จะก้าวข้ามข้อจำกัดต่างๆ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าให้เหล่าสาวกบีเอ็มดับเบิลยู ผสมผสานสมรรถนะ ความยั่งยืน และความหรูหราไว้อย่างลงตัว”
“บีเอ็มดับเบิลยู XM ยังตีความรถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์แบบใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมมอบความรู้สึกของการขับขี่ที่เร้าใจสไตล์ M ที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหนให้กับกลุ่มลูกค้าชาวไทย บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย จะยังคงให้ความสำคัญกับอนาคตแห่งการขับเคลื่อนและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องอย่างที่เคยเป็นเสมอมา เพื่อส่งมอบโซลูชันการขับขี่ที่ยั่งยืนและล้ำสมัยให้กับลูกค้าชาวไทยต่อไป”
สำหรับ บีเอ็มดับเบิลยู XM ใหม่ โดดเด่นด้วยการออกแบบที่โฉบเฉี่ยวและยังคงไว้ซึ่งความหรูหรา มาพร้อมสัดส่วนที่ปราดเปรียวและรูปลักษณ์ที่โดดเด่น เค้าโครงทันสมัยของรถยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์สะดุดตาด้วยองค์ประกอบการออกแบบสไตล์ M ที่มอบความรู้สึกแข็งแกร่งดุดัน ด้านหน้าโดดเด่นด้วยกระจังหน้าทรงไตคู่ที่มาพร้อมไฟส่องสว่างแบบต่อเนื่อง ไฟหน้า Adaptive LED
เติมความเป็นตัวตนด้วยแถบสีด้านข้างตัวรถเช่นเดียวกับ บีเอ็มดับเบิลยู M1 นอกจากนี้การออกแบบของบีเอ็มดับเบิลยู XM ยังรวมเอาคุณลักษณะต่างๆ ที่เป็นตัวตนของบีเอ็มดับเบิลยู อาทิ โลโกบีเอ็มดับเบิลยูที่กระจกหลังหรือไฟท้ายทรงเรียว เพิ่มความโดดเด่นสะดุดตาให้กับรูปโฉมภายนอกด้วยล้ออัลลอย M น้ำหนักเบา ขนาด 23 นิ้ว ลาย star spoke แบบสลับสี
ภายในห้องโดยสารสปอร์ตหรูด้วยเบาะนั่งตอนหน้าแบบ M Multifunctional บริเวณที่นั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า ตกแต่งดีไซน์ M ด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ คอนโซลด้านบนยังบุด้วยหนังแบบ BMW Individual พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์ M และเข็มขัดนิรภัยดีไซน์ M มาพร้อมผ้าบุหลังคาลวดลายปริซึม และเมื่อเปิดหลังคาก็จะพบกับหลอดไฟ LED กว่า 100 ดวงบนหลังคาที่ส่องสว่างอย่างงดงามยามค่ำคืน
ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 8 สูบ ขนาด 4.4 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี BMW M TwinPower Turbo ล้ำสมัย ระบบขับเคลื่อน M HYBRID ให้กําลังรวมสูงสุดถึง 653 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 800 นิวตันเมตร ด้านเครื่องยนต์สันดาปให้พละกำลังสูงสุด 489 แรงม้า ที่ 5,400-7,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร ที่ 1,600-5,000 รอบ/นาที ในขณะที่ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าให้กำลังมอเตอร์ 197 แรงม้า แรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้า 280 นิวตันเมตร
ทั้งยังสามารถเลือกกดปุ่ม M Hybrid ที่คอนโซลกลางเพื่อเข้าโหมดใดโหมดหนึ่งจากทั้งหมด 3 โหมด รวมถึงโหมดการทำงานด้วยระบบไฟฟ้า 100% สำหรับการขับขี่ที่ปลอดมลพิษด้วยความเร็วสูงสุด 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง บนระยะทาง 82-88 กิโลเมตร อ้างอิงตามมาตรฐานการทดสอบ WLTP โดยใช้พลังงานจากลิเธียม-ไอออนแบตเตอรี่ขนาด 25.7 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ที่ติดตั้งอยู่ด้านใต้ท้องรถ เร่งความเร็วจากหยุดนิ่งถึง 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลาเพียง 4.3 วินาที สู่ความเร็วสูงสุดที่ 270 กิโลเมตร/ชั่วโมง
บีเอ็มดับดับเบิลยู XM ใหม่ มีสีภายนอกให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 7 สี ได้แก่ สีดำ Black Sapphire, สีเขียว Cape York Green, สีดำ Carbon Black, สีเทา Dravit Grey, สีฟ้า Marina Bay Blue, สีขาว Mineral White และสีแดง Toronto Red และมีสีภายในกับหนัง BMW Individual ‘Merino’ ให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน Deep Lagoon, สีขาว Silverstone, สีดำ Black และสีส้ม Sakhir Orange มาพร้อมกับแถบตกแต่งด้านข้างรถทั้งหมด 2 ตัวเลือกคือ สีทองและสีดำซึ่งพาดผ่านกรอบประตูและล้อรถ โดยจะเปิดให้จับจองเป็นเจ้าของผ่านช่องทางออนไลน์เพียงเท่านั้น