“บีอีวี” ยังแรงต่อเนื่อง 9 เดือน จดทะลุ 5 หมื่น
รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% (บีอีวี) ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังการเดินหน้าทำตลาดจากหลากหลายค่าย ส่งผลให้มียอดจดทะเบียนหลังผ่านไตรมาสที่ 3 มีทั้งสิ้น 50,347 คัน คิดเป็น 10% ของยอดจดทะเบียนรถยนต์นั่งส่วนบุคคล โดย บีวายดี อัตโต้ทรี ยังคงมียอดจดทะเบียนมากที่สุด ครองสัดส่วนมากกว่า 31%
จากทิศทางของตลาดที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บรรดาค่ายผู้ผลิตยานยนต์ เดินหน้าเสริมทัพตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในเซ็กเมนต์รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% อย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งเป็นแรงผลักดันที่ร่วมขับเคลื่อนให้ตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเติบโตแบบก้าวกระโดด ทั้งยังสร้างแรงจูงใจให้ผู้เล่นหน้าใหม่ก้าวเข้าสู่ตลาดด้วยเช่นกัน
โดยเฉพาะค่ายผู้ผลิตสัญชาติจีน ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่การเปิดตลาดของทัพหน้าอย่าง เอ็มจี ที่มีส่วนสำคัญในการสร้างการรับรู้ ตามด้วย เกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่เข้ามาเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค พร้อมทั้งสร้างกระแสบีอีวีฟีเวอร์ สร้างแรงกระตุ้นดึงเพื่อนร่วมชาติอย่าง บีวายดี และ เนต้า เข้ามาร่วมสร้างความร้อนแรงให้กับตลาดในช่วงรอบปีที่ผ่านมา ซึ่งขยายตัวเป็นทวีคูณจากปีก่อนหน้าหลังผ่านไตรมาสที่ 3 ของปี
สำหรับยอดจดทะเบียนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 10 อันดับแรกในเดือนกันยายนที่ผ่านมา เป็นทางด้าน บีวายดี ดอลฟิน ที่มียอดจดทะเบียนมากที่สุดจำนวนทั้งสิ้น 1,621 คัน เหนือกว่า บีวายดี อัตโต้ทรี ที่รั้งอันดับ 2 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,610 คัน รองลงมาได้แก่ เนต้า วี จำนวนทั้งสิ้น 854 คัน ตามด้วย โอร่า กู๊ด แคท ในอันดับ 4 จำนวนทั้งสิ้น 650 คัน ส่วนอันดับ 5 ได้แก่ เอ็มจี อีพี มีจำนวนทั้งสิ้น 513 คัน
ตามด้วย เอ็มจีโฟร์ อิเล็กทริค ในอันดับ 6 มียอดจดทะเบียน 380 คัน ขณะที่ เทสล่า โมเดลวาย รั้งอยู่ในอันดับ 7 จำนวนทั้งสิ้น 250 คัน รองลงมาได้แก่ เอ็มจี แม็กซัสไนน์ ในอันดับ 8 มีจำนวนทั้งสิ้น 137 คัน ปิดท้ายด้วย เทสล่า โมเดลทรี ในอันดับ 9 จำนวนทั้งสิ้น 125 คัน และ เอ็มจี อีเอส ในอันดับ 10 มีจำนวนทั้งสิ้น 115 คัน
จากทิศทางของตลาดที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% มียอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 50,347 คัน นับตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน 2566 คิดเป็น 10.05 % จากจำนวนยอดจดทะเบียนรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ที่มีจำนวนทั้งสิ้น 500,942 คัน หลังผ่าน 9 เดือนของปีนี้
โดยอันดับ 1 ยังคงเป็น บีวายดี อัตโต้ทรี มีจำนวนทั้งสิ้น 15,924 คัน ครองสัดส่วน 31.63% ตามด้วย เนต้า วี ในอันดับ 2 มีจำนวนทั้งสิ้น 9,294 คัน คิดเป็น 18.46% รองลงมาได้แก่ เทสล่า โมเดลวาย ในอันดับ 3 มีจำนวนทั้งสิ้น 4,753 คัน ครองสัดส่วน 9.44% ตามด้วย โอร่า กู๊ด แคท ในอันดับ 4 จำนวนทั้งสิ้น 4,346 คัน คิดเป็น 8.66% และเอ็มจี อีพี ในอันดับ 5 ครองสัดส่วน 6.18% ด้วยจำนวนทั้งสิ้น 3,110 คัน
ขณะที่เพื่อนร่วมค่ายอย่าง เอ็มจีโฟร์ อิเล็กทริค รั้งอยู่ในอันดับ 6 มียอดจดทะเบียน 2,860 คัน ครองสัดส่วน 5.68% เหนือกว่าน้องใหม่อย่าง บีวายดี ดอลฟิน ที่ไต่ขึ้นมารั้งอันดับ 7 ด้วยยอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 2,103 คัน คิดเป็น 4.18% ถัดมาได้แก่ เทสล่า โมเดลวาย ในอันดับ 8 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,843 คัน ครองสัดส่วน 3.66% รองลงมาได้แก่ เอ็มจี แซดเอส อีวี ในอันดับ 9 มีจำนวน 1,389 คัน คิดเป็น 2.76 คัน และวอลโว่ เอ็กซี40 อีวี ในอันดับ 10 มีจำนวนทั้งสิ้น 858 คัน ครองสัดส่วน 1.70%
ด้าน บีเอ็มดับเบิลยู ไอเอ็กซ์ทรี คือรุ่นที่มียอดจดทะเบียนมากที่สุดของค่ายบีเอ็มดับเบิลยู มีจำนวนทั้งสิ้น 506 คัน คิดเป็น 1.01% รั้งอยู่ในอันดับ 13 ขณะที่ ปอร์เช่ ไทคานน์ นำทัพค่ายปอร์เช่ ด้วยจำนวนทั้งสิ้น 187 คัน รั้งอยู่ในอันดับ 17 ตามด้วยตัวแทนจากค่ายมินิอย่าง คูเปอร์ เอสอี ในอันดับ 18 มีจำนวนทั้งสิ้น 171 คัน ขณะที่ค่ายเมอร์เซเดส ได้แก่ เมอร์เซเดส อีคิวเอส ที่รั้งอยู่ในอันดับ 21 ด้วยจำนวนทั้งสิ้น 50 คัน
ด้วยภาพรวมของตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เดินไปในทิศทางบวกอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะส่งผลให้สัดส่วนของรถในเซ็กเมนต์ดังกล่าวขยายตัวเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นผลจากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง บวกกับผู้เล่นรายใหม่จากประเทศจีนที่เข้าคิวเตรียมเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยช่วงปลายปีนี้