นิสสัน ปรับแผนก้าวสำคัญบนเส้นทางตลาดรถยนต์เมืองไทย พร้อมแท็กทีมรถยนต์ในสังกัดอย่าง นิสสัน อัลเมร่า, นิสสัน คิกส์ อีพาวเวอร์ รวมถึง รถกระบะ นาวารา ใหม่ ที่กำลังจะเปิดตัวในเร็ววันนี้ ผนึกกำลังสร้างความโดดเด่นในตลาด เดินหน้าเก็บเกี่ยวยอดขายในช่วงเวลาที่เหลือ ตั้งเป้าขอขยับครองมาร์เก็ตแชร์ขึ้น 3% พร้อมเสริมศักยภาพตัวแทนผู้จำหน่ายและยกระดับคุณภาพงานบริการให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ นิสสัน ยังคงเป็นหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ที่ครองใจผู้บริโภคชาวไทยอย่างต่อเนื่อง

            นับตั้งแต่ค่ายรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทย อุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยก็ปรับตัวเข้าสู่ทิศทางที่ดีขึ้น โดยช่วงแรกในปี 2554-2555 จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายรถคันแรก ทำให้ยอดขายรถยนต์ในช่วงนั้นทะยานสู่ 1.3-1.4 ล้านคันต่อปี และอีกช่วงในปี 2560-2562 ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องหลังการปลดล็อกเงื่อนไขการครอบครองรถคันแรก ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์แตะที่ 1.1 ล้านคันต่อปี เทียบกับปีก่อนหน้า 7.8 แสนคัน

อย่างไรก็ดี แม้จะผ่านพ้นช่วงวิกฤตโควิด-19 และปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนจากอุปทานชะงักงันทั่วโลก แต่สถานการณ์ตลาดรถยนต์ในประเทศกลับยังฟื้นตัวได้ค่อนข้างช้า โดยล่าสุดยอดขายรถยนต์ 5 เดือนแรกของปี 2567 หดตัวอย่างหนักถึง 23.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีแนวโน้มที่ยอดขายรถยนต์ทั้งปี 2567 จะมีการหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง

ซึ่งจากปัญหาดังกล่าวนี้เอง ทำให้บรรดาแบรนด์รถยนต์ต่างๆ ที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น จำเป็นต้องปรับตัวรับกับสถานการณ์ ด้วยการปรับแผนโครงสร้างในการทำธุรกิจ รวมไปถึงการเฟ้นหากลยุทธ์ใหม่ๆ ในการทำตลาดที่มีแนวโน้มเปลี่ยนไปตามยุคสมัยของเทรนด์ยานยนต์

ล่าสุด ประธานนิสสันคนใหม่  “มร.โทชิฮิโระ ฟูจิกิ” ได้เปิดเผยถึงแผนงานในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย โดยมุ่งให้ความสำคัญและวิสัยทัศน์ใน 4 เรื่องหลัก คือ 1.การสร้างแบรนด์ 2.การสร้างผลิตภัณฑ์ที่น่าตื่นเต้น 3.การสร้างเครือข่ายผู้จำหน่ายที่แข็งแกร่ง 4.การเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้า

สำหรับผลิตภัณฑ์รถยนต์ในประเทศไทย นิสสัน ได้มีทางเลือกที่หลากหลายให้กับลูกค้าเลือกอย่างครบถ้วนทุกเซ็กเมนต์ เริ่มไปตั้งแต่รถยนต์นั่งคอมแพ็คซีดานยอดนิยม อย่าง นิสสัน อัลเมร่า, เอสยูวี นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์, รถยนต์อเนกประสงค์พีพีวี นิสสัน เทอร์ร่า รวมถึงรถกระบะอย่าง นิสสัน นาวารา

สำหรับ นิสสัน อัลเมร่า ถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่สร้างความสำเร็จให้ค่ายรถยนต์นิสสันเป็นอย่างมาก ด้วยยอดขายสะสมมากกว่า 230,000 คัน นับตั้งแต่เปิดตัวรุ่นแรก และ อัลเมร่า ยังเป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จด้านการผลิตของนิสสัน ประเทศไทย โดยส่งออกไปสู่ 13 ประเทศ รวมทั้งประเทศญี่ปุ่น

โดยตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา การปรากฏตัวของ นิสสัน อัลเมร่า บนท้องถนนเมืองไทย สามารถเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของค่ายรถยนต์นิสสันได้อย่างเต็มปาก ด้วยความสมบูรณ์แบบทั้งในแง่ของการออกแบบ การใช้งานที่คุ้มค่า และยังโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย

ปัจจุบันตัวผลิตภัณฑ์ นิสสัน อัลเมร่า ยังคงเดินหน้าสร้างยอดขายให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี ล่าสุด ได้มีการยกระดับขึ้นอีกครั้ง ด้วยการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น ด้วยคอนเซปต์  “ดีจริง…อย่าลบหลู่” “แรงจริง…อย่าลบหลู่” และ “ล้ำจริง…อย่าลบหลู่” ที่บ่งบอกถึงความดีพร้อมรอบด้าน ทั้งเรื่องความสะดวกสบาย ความครบครันของเทคโนโลยี และระบบความปลอดภัย รวมถึงสมรรถนะการขับขี่ดีเยี่ยม

สำหรับ นิสสัน คิกส์ ก็ถือว่าเป็นรถยนต์อีกหนึ่งรุ่นที่ นิสสัน เดินเกมมาถูกทางเช่นกัน หลังจากเปิดตัวรุ่นปรับโฉมใหม่ เมื่อปีที่ผ่านมา ภายใต้เทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ เจเนอเรชัน 2 ที่สามารถรับประสบการณ์การขับขี่เสมือนรถยนต์ไฟฟ้า 100% เต็มรูปแบบโดยไม่ต้องพึ่งพาการชาร์จไฟฟ้าสู่แบตเตอรี่จากภายนอก ถือเป็นจุดเด่นของรถยนต์ นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ซึ่งนับตั้งแต่เปิดตัว นิสสัน คิกส์ รุ่นใหม่ ในปี 2022 จนถึงปัจจุบัน รถยนต์รุ่นนี้สามารถทำยอดขายได้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

และเร็วๆ นี้ นิสสัน ยังได้เตรียมปรับโฉมครั้งใหม่ของ นิสสัน นาวารา โดยคาดว่าจะมาพร้อมกับการตกแต่งภายในที่มีความหรูหรา และทันสมัยมากขึ้น ที่สำคัญคือ ยังคงไว้ซึ่งดีเอ็นเอของความทนทานพร้อมลุยทุกสถานการณ์เช่นเดิม นาวารา ตัวอัปเกรดนี้ จะมีความสปอร์ตทั้งในรุ่น PRO-4X และ PRO-2X

นอกจากความสำเร็จในด้านตัวผลิตภัณฑ์แล้ว นิสสัน ยังให้ความสำคัญในเรื่องการสร้างความแข็งแรงให้เครือข่ายผู้จำหน่าย ซึ่งปัจจุบัน นิสสัน มีจุดแข็งในเรื่องของ UIO (Unit in Operation) ที่แข็งแกร่งเพื่อสนับสนุนบริการหลังการขายซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับผู้จำหน่ายมากกว่าการขายรถยนต์ และนิสสัน ยังมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับผู้จำหน่ายอีกด้วย

ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ นิสสัน ยังได้ตั้งเป้าหลังการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ป้อนเข้าสู่ตลาดในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ จะทำให้ นิสสัน กลับมามียอดขายที่มากขึ้น และยังผลักดันให้ นิสสัน กลับมามีส่วนแบ่งทางการตลาดขึ้น 3% จากปัจจุบันมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 2.2%

“เราก็หวังว่าหลังจากที่มีการแนะนำโมเดลใหม่สู่ตลาด และหวังว่ายอดขายของนิสสันจะค่อยๆ ปรับตัวขึ้น และนี่ก็เป็นงานหินของเรา ท่ามกลางสภาพตลาดที่มีความผันผวนสูง” มร.โทชิฮิโระ ฟูจิกิ กล่าว