ตลาดรถ ก.ย. โต 23.8% ‘โตโยต้า’ ยืนหัวแถว

ตลาดรถยนต์ไทยก้าวสู่สัญญาณบวกอย่างต่อเนื่อง จากยอดขายเดือนกันยายน ทำได้ 48,350 คัน เพิ่มขึ้น 23.8% กลุ่มรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย 19,671 คัน เพิ่มขึ้น 25.5% แบรนด์โตโยต้า ยังครองแชมป์ยอดขายอันดับหนึ่ง ด้วยส่วนแบ่งตลาดเก้าเดือนแรกที่ 37.5%
ทิศทางตลาดรถยนต์ไทยเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีจากยอดขายในเดือนสิงหาคม มียอดรวมทั้งสิ้น 47,622 คัน เพิ่มขึ้น 5.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน ก่อนจะถูกส่งต่อมายังยอดขายในกันยายน 2568 มียอดขาย 48,350 คัน ยังคงมีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้น 23.8% กลุ่มตลาดรถยนต์นั่ง ยอดขาย 19,671 คัน เพิ่มขึ้น 25.5% จากปีที่ผ่านมา
ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ปรับตัวดีขึ้น ด้วยยอดขาย 28,679 คัน เพิ่มขึ้น 24.4% และตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขาย 14,354 คัน เพิ่มขึ้น 2.7% รถยนต์ในกลุ่ม HEV มียอดขาย 12,756 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 73.45% และมียอดขายสะสมเก้าเดือนแรกถึง 102,372 คัน คิดเป็นส่วนแบ่ง 51% ของตลาด xEV ทั้งหมด
ส่วนยอดขายรถยนต์สะสม 9 เดือน (มกราคม–กันยายน) ของปี 2568 มียอดขายสะสมอยู่ที่ 477,969 คัน เพิ่มขึ้น 2.12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรถยนต์นั่งมีจำนวน 288,391 คัน หรือคิดเป็น 64.44% ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้น 9.87% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยแบ่งเป็นรถยนต์นั่งสันดาปภายใน (ICE) มีจำนวนอยู่ที่ 97,287 คัน หรือคิดเป็น 21.72% ของยอดขายทั้งหมด ลดลง 17.47% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า, รถยนต์นั่งพลังงานไฟฟ้า (BEV) มีจำนวนอยู่ที่ 81,351 คัน หรือคิดเป็น 18.16% ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้น 55.79% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

รถยนต์นั่งปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV) มีจำนวนอยู่ที่ 6,803 คัน หรือคิดเป็น 1.52% ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้น 311.55% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า, รถยนต์นั่ง REEV (Range-Extended Electric Vehicle) มีจำนวนอยู่ที่ 580 คัน หรือคิดเป็น 0.19% ของยอดขายทั้งหมด เพิ่มขึ้น 100% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า, รถยนต์นั่งไฮบริด (HEV) มีจำนวนอยู่ที่ 102,370 คัน หรือคิดเป็น 22.85% ของยอดขายรถยนต์นั่ง เพิ่มขึ้น 12.82% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ส่วนรถกระบะ มีจำนวนอยู่ที่ 106,603 คัน ลดลง 15.77% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า รถกระบะไฟฟ้า (BEV) มีจำนวน 534 คัน ปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย รถกระบะ REEV มีจำนวน 13 คัน ปีที่แล้วไม่มียอดจำหน่าย รถ PPV มีจำนวน 31,360 คัน เพิ่มขึ้น 16.39% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
โดยแบรนด์โตโยต้า ยังคงครองอันดับหนึ่งตลาดรถยนต์ ด้วยยอดขายสะสมเก้าเดือนแรกถึง 167,800 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดที่ 37.5% นำโดย ยาริส เอทีฟ 40,202 คัน และไฮลักซ์ รีโว 13,165 คัน
ส่วนการคาดการณ์ยอดขายในเดือนตุลาคม ยังคงมีแนวโน้มทรงตัว เนื่องจากผู้บริโภครอแคมเปญใหญ่ปลายปีอย่าง มอเตอร์ เอ็กซ์โป ทำให้การตัดสินใจซื้อชะลอตัว ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันที่ผันผวน และอัตราการปฏิเสธสินเชื่อยังอยู่ในระดับสูง ยังคงกดดันความเชื่อมั่นและกำลังซื้อ





