“ดับเบิลยูอาร์-วี” 2 รุ่น เริ่มต้น 7.99 แสนบาท

ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) เพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคด้วย ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ เสริมไลน์อัปรถยนต์อเนกประสงค์ ภายใต้รูปโฉมของสปอร์ตเอสยูวีขนาด 5 ที่นั่ง ตอบโจทย์การใช้งานด้วยขุมพลัง 1.5 ลิตร เติมเต็มด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง มาพร้อม 2 รุ่นทางเลือก เคาะราคาจำหน่าย 799,000-869,000 บาท
“ตลาดรถเอสยูวีถือว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ฮอนด้าในฐานะผู้บุกเบิกเซ็กเมนต์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้ง ซีอาร์-วี, เอชอาร์-วี และบีอาร์-วี และเป็นผู้นำตลาดเอสยูวีในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ในครั้งนี้ฮอนด้าพร้อมส่งมอบประสบการณ์การขับขี่สไตล์คนเมืองยุคใหม่ที่รักอิสระ ชอบออกไปใช้ชีวิตข้างนอก”
“ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ ยนตรกรรมเอสยูวีอเนกประสงค์ 5 ที่นั่ง รุ่นล่าสุด ที่เต็มเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพทั้งในด้านสมรรถนะ และความอเนกประสงค์ สามารถปรับการใช้งานให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายได้อย่างสะดวกสบาย โดยการเปิดตัว ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ ในครั้งนี้ ยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ไลน์อัปเอสยูวีของฮอนด้าอีกด้วย” มร.โนริยุกิ ทาคาคุระ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงผลิตภัณฑ์ใหม่
ฮอนด้า ดับเบิลยูอาร์-วี ใหม่ ผสานความสปอร์ตและความพรีเมียมเข้ากับเอกลักษณ์เอสยูวี สปอร์ตโฉบเฉี่ยวด้วยกระจังหน้าโครเมียม มือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ ไฟหน้าพร้อมไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED sequential และไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED รวมถึงระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวปรับและพับไฟฟ้า ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบหน่วงเวลา และระบบปัดน้ำฝนด้านหลัง
ส่วนในรุ่น RS ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมไปอีกขั้น ด้วยดีไซน์เอ็กซ์คลูซีฟรอบคัน กระจังหน้าโครเมียมแบบสปอร์ต โดดเด่นด้วยสัญลักษณ์ RS ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวปรับและพับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 17 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารสปอร์ตพรีเมียม ด้วยวัสดุตกแต่งภายในสีดำ Piano black และตกแต่งแถบสีเงิน มือจับประตูด้านในสีเงิน เบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้ วัสดุหุ้มเบาะหนังสังเคราะห์สีดำ ตกแต่งด้วยผ้าและด้ายสีน้ำเงิน พวงมาลัยหุ้มหนัง ตกแต่งด้วยด้ายสีน้ำเงิน ปรับระดับสูง-ต่ำได้
อัปเกรดไปอีกขั้นในรุ่น RS ด้วยวัสดุตกแต่งภายในสีดำ Piano black และตกแต่ง Piano black แถบสีแดง เบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้ วัสดุหุ้มเบาะหนังสังเคราะห์สีดำ ตกแต่งด้วยผ้าและด้ายสีแดง พวงมาลัยหุ้มหนัง ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง ปรับระดับสูง-ต่ำได้ และคิ้วบันไดสเตนเลสที่ประตูหน้า พร้อมสัญลักษณ์ RS
รองรับโมเดิร์นไลฟ์สไตล์ด้วยระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมระบบทำความเย็นเร็วและโหมดทิศทางลมเพื่อความสะดวกสบาย พนักเท้าแขนด้านหน้า (รุ่น SV) หรือด้านหน้าและด้านหลัง (รุ่น RS) แผงบังแดดพร้อมกระจกแต่งหน้าด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า (รุ่น SV) และแบบมีฝาปิด พร้อมไฟส่องสว่างด้านคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า (รุ่น RS)
พร้อมด้วยกระจกมองหลังแบบตัดแสง กระจกไฟฟ้า 4 บาน พร้อมระบบปรับขึ้น-ลง อัตโนมัติด้านคนขับ ช่องเก็บของหลังเบาะผู้โดยสารด้านหน้า ที่วางแก้ว 6 ตำแหน่ง ที่แขวนของในพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้าย ไฟภายในห้องโดยสาร 2 ตำแหน่ง ไฟส่องสว่างห้องสัมภาระท้าย ราวมือจับ 3 ตำแหน่ง (รุ่น SV) และ 4 ตำแหน่ง (รุ่น RS)
ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานกับระบบเกียร์ CVT ที่ได้รับการพัฒนา ให้กำลังสูงสุด 121 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที สร้างแรงบิดสูงสุดที่ 145 นิวตันเมตร ที่ 4,300 รอบ/นาที มาพร้อมอัตราการบริโภคเชื้อเพลิง 16.7 กิโลเมตร/ลิตร รองรับพลังงานทางเลือก E20
ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน และคนเดินถนน มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น RS ราคา 869,000 บาท และรุ่น SV ราคา 799,000 บาท สีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีเงินสเตลลาร์ ไดมอนด์, สีแดงอิกไนต์ หลังคาสีดำ, สีดำคริสตัล, สีเทาเมทิเออรอยด์ และสีขาวทาฟเฟต้า
เสริมความสปอร์ตและพรีเมียม ด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งโมดูโล ประกอบด้วย คิ้วตกแต่งซุ้มล้อด้านหน้า ราคา 1,700 บาท คิ้วตกแต่งฝากระโปรงท้าย ราคา 1,900 บาท คิ้วกันสาด ราคา 2,500 บาท ฟิล์มตกแต่งเสาประตูหลัง ราคา 1,300 บาท ฟิล์มสะท้อนแสงข้างประตู ราคา 1,250 บาท ปลอกท่อไอเสียสเตนเลส ราคา 600 บาท เป็นต้น หรือเลือกตกแต่งในรูปแบบแพ็กเกจชุดแต่งรอบคัน Modulo Sport Package ราคา 14,990 บาท ประกอบด้วย สเกิร์ตหน้า สเกิร์ตข้าง และสเกิร์ตหลัง