ความสำเร็จ BMW การันตีคุณภาพ ผู้นำตลาดพรีเมียมคาร์
ตลาดพรีเมียมคาร์ในประเทศไทย ร่วมขับเคลื่อนด้วยค่ายผู้ผลิตัชั้นนำจากทวีปยุโรป โดย บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เป็นหนึ่งในแรงผลักดันสำคัญ ภายใต้บทบาทของผู้นำตลาด มาพร้อมทางเลือกที่หลากหลาย ครอบคลุมการใช้งานของผู้บริโภคในรูปแบบที่แตกต่างกันไป ภายใต้แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู และ มินิ รวมถึง บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด
ภาพรวมในปีที่ผ่านมา ยังคงเป็นทิศทางอันยอดเยี่ยมของ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย สามารถรักษาบัลลังก์แชมป์รถหรูไว้ได้เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ด้วยยอดจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 15,010 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 36.1% เมื่อเทียบจากตัวเลขจดทะเบียนของปีก่อนหน้า ครองสัดส่วนในตลาดรถหรู 46.6% ขณะที่ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด มียอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 1,293 คัน ครองสัดส่วน10.3% ในกลุ่มเครื่องยนต์ขนาด 500 ซี.ซี.ขึ้นไป
โดย มร.อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวถึงภาพรวมปีที่ผ่านมาว่า “บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย มุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการผลักดันธุรกิจให้ก้าวหน้าและครองความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์พรีเมียมไทย เรายินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เห็นว่าความตั้งใจของเราตลอดปี 2565 ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรม และการสร้างประสบการณ์ที่เยี่ยมยอดให้กับลูกค้าประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี”
“แม้จะมีความท้าทายอย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา ทั้งเราเองและผู้จำหน่ายบีเอ็มดับเบิลยูและมินิอย่างเป็นทางการทุกคน ก็พิสูจน์ให้เห็นครั้งแล้วครั้งเล่า ว่าเราสามารถก้าวข้ามสภาวะทางเศรษฐกิจที่มีความท้าทายไปได้และยังดำเนินธุรกิจได้อย่างแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม เพื่อตอบรับการให้บริการที่ดีที่สุดเพื่อลูกค้าของเรา”
สำหรับตัวเลขยอดจดทะเบียนจำนวน 15,010 คัน จำแนกเป็น แบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู จำนวน 13,572 คัน และแบรนด์มินิ จำนวน 1,438 คัน และเป็นยอดของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% จำนวนทั้งสิ้น 535 คัน เติบโตก้าวกระโดดกว่า 5 เท่าจากปี 2564 ขยับส่วนแบ่งทางการตลาดของรถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มพรีเมียมเพิ่มขึ้นเป็น 40.8%
เป็นผลสำเร็จจากการเดินหน้าทำตลาดอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันมีจำนวนรถยนต์และรถจักรยานยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% เปิดตัวในตลาดประเทศไทยแล้วทั้งสิ้น 6 รุ่น ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู iX3, บีเอ็มดับเบิลยู iX, บีเอ็มดับเบิลยู i4, บีเอ็มดับเบิลยู i7, มินิ คูเปอร์ เอสอี และสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า บีเอ็มดับเบิลยู CE 04
“การครองตำแหน่งผู้นำอันดับ 1 ในตลาดรถยนต์พรีเมียมไทยถึง 3 ปีติดต่อกัน ยังเป็นข้อพิสูจน์ถึงการทำงานหนักและความทุ่มเทของพนักงาน ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ และพันธมิตรทุกรายของเรา ที่ร่วมแรงร่วมใจในการสร้างความพึงพอใจระดับสูงให้แก่ลูกค้า ช่วยสร้างความภักดีต่อแบรนด์และความได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จนส่งผลให้บริษัทมีผลการดำเนินงานทางธุรกิจที่โดดเด่นในระยะยาว” มร.อเล็กซานเดอร์ บารากา กล่าวเสริม
ความสำเร็จดังกล่าว สอดคล้องกับทิศทางของ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ในตลาดโลก ที่ยังคงเติบโตและครองเบอร์ 1 ในกลุ่มรถหรู ด้วยยอดส่งมอบรถยนต์ บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ และโรลส์-รอยซ์ จำนวนทั้งสิ้น 2,399,636 คัน โดยเฉพาะ บีเอ็มดับเบิลยู ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยยอดส่งมอบ 215,755 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 107.7%
เมื่อรวมกับตัวเลขของรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ที่มียอดส่งมอบทั้งสิ้น 372,956 คัน ขยับเพิ่มขึ้น 35.6% สะท้อนถึงความต้องการรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก รวมถึง บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ที่สามารถทำยอดขายได้สูงสุด ด้วยยอดส่งมอบรถจักรยานยนต์ และสกู๊ตเตอร์ รวมทั้งสิ้น 202,895 คัน
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคงดำเนินงานตามแนวทางเชิงกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับเป้าหมายระยะยาวในการสร้างความยั่งยืนให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการสร้างการเติบโตและการพัฒนาให้กับพนักงาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย โดยมีเป้าหมายที่จะส่งมอบสุนทรียะแห่งการขับขี่ เทคโนโลยีอันล้ำสมัย และพลังแห่งทางเลือกให้แก่ลูกค้า และมั่นใจในศักยภาพที่จะขับเคลื่อนไปสู่ความสำเร็จแห่งอนาคต