หนังสือพิมพ์ยวดยาน รายสัปดาห์ ฉบับที่ 1,103 ประจำวันที่ 4-10 พฤศจิกายน 2567 มีให้อ่านกันทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ วางตลาดทุกวันจันทร์ ราคาขายฉบับละ 20 บาท ไม่มีเงินทอน…*** “รามอินทรา” ได้เวลาเข้าเวรรายงานข่าวคราวในแวดวง “คนยานยนต์” กับวังวนที่แต่ละค่ายยานยนต์ ต้องสาละวนกับการหากลยุทธ์เพื่อมาพิชิตยอดจองที่หดหายไปตามสถานการณ์ของสภาพเศรษฐกิจ ที่เหมือนซ้ำเติม หลังจากก้าวพ้นจากโควิด-19 ส่งผลให้คนไทยต้องคิดเยอะ กับการจะควักเงินในกระเป๋าเพื่อมาเป็นเจ้าของรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์สักคัน โดยเฉพาะ…คนในระดับล่างที่น่าจะห่วงปากท้องมากกว่า ไม่ว่ารถน้ำมันหรือรถไฟฟ้า  ล้วนอยู่ในบรรยากาศที่ไม่แตกต่างกัน เวลาที่เหลืออยู่แค่ 2 เดือน ที่คงความหมายเป็นอย่างยิ่ง ต่อตัวเลขยอดขายในปลายปี เชื่อว่า…น่าจะได้เห็นความคึกคักที่มีความจำกัดในเรื่องการใช้จ่าย…*** ด้วยสถานการณ์เยี่ยงนี้แหละ…การขยับตัวของ “อีซูซุ” กับการรุกฆาตด้วยอีซูซุ ดีแมคซ์ กระบะไฮบริด ในสนนราคา 1.145 ล้านบาท อย่าได้มองข้ามเป็นอันขาด เมื่อวันนี้… “ไฮบริด” มาแรงแซงอีวี ความน่าสนใจกับการอยากลองของใหม่ ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับ “คนมีตังค์” ยังไง “รามอินทรา” ก็ยกมือเชียร์ให้มีความคึกคัก ที่อยากบอก…ช่วงเวลาสุดท้ายปลายปี…เป็นห้วงเวลาของ “อีซูซุ” มาโดยตลอด ยกมือเชียร์ครับ “นายญี่ปุ่น” มร.ทาคาชิ ฮาตะ อีกมุมมอง “รามอินทรา” ไม่รู้ว่าการขยับตัวกับกระบะไฮบริดของ “อีซูซุ” ครั้งนี้ เหมือนจะเป็นการปิดทางรถกระบะไฟฟ้าไปโดยอัตโนมัติด้วยหรือไม่? เพราะมองแล้ว…ไม่แตกต่างจากความคึกคักแห่งไฮบริดของรถเก๋ง ที่กำลังคึกคักจาก 2 เบอร์ใหญ่ค่ายญี่ปุ่น คือโตโยต้ากับฮอนด้า ที่เปิดเกมกับรถไฮบริดชัดเจนยิ่งขึ้น…*** เรื่องนี้…ก้อ…เป็นอีกความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ “รามอินทรา” เจอะเจอ “คุณแอม” พีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา เลยได้รู้เรื่องแนวคิด…มอเตอร์แกลเลอรี ที่ห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ มีแนวคิดจะเปิดให้ค่ายยานยนต์ได้เป็นโชว์รูมเก็บเกี่ยวยอดขาย ชัดเจนเมื่อไหร่ จะหยิบมาเขียนถึงอีกครั้ง…*** “รามอินทรา” หยิบเรื่องนี้มาเขียน  เพราะจับสังเกต…วันนี้ค่ายยานยนต์เปิดเกมเดินชนคนอยากเป็นเจ้าของมากขึ้น เผื่อคนซื้อไม่เดินมาหา ก้อ…เดินหาด้วยตัวเองซะเลย ก้อ…จะได้เห็นตามห้างสรรพสินค้าทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีรถยนต์หลายยี่ห้อจอดนำเสนออย่างใกล้ชิด และอย่าแปลกใจ ถ้าจะเห็น “คนบริษัท” ลงพื้นที่ด้วยตัวเอง…*** อีกค่ายที่ “รามอินทรา” เจาะหาข่าว อยากรู้ “นายญี่ปุ่น” มร.โทชิฮิโระ ฟูจิกิ ขยับตัวเยี่ยงไร? ก้อ…ยืนยันช่วงนี้ยังคงเรื่อยๆ มาเรียงๆ ด้วยยังไม่มี “รถใหม่” มานำเสนอ ถ้าไม่มีเอ็กซิเดนต์อะไร ปี 68 รถยนต์นิสสันน่าจะได้เวลาขับเคลื่อนรถใหม่กันบ้าง ยังไง…ก็เอาใจช่วยนะครับ “นายญี่ปุ่น” …*** เรื่องความร้อนแรงของ “ไฮบริด” เมื่อ “ยักษ์ใหญ่” โตโยต้าขยับตัวแรงกับโตโยต้า คัมรี่ ไฮบริด ที่ปรับเปลี่ยนทั่วคัน “รามอินทรา” อยากรู้ “ฮอนด้า” ที่ขยับเรื่องไฮบริดชัดเจนในระยะหลัง จะมีการขยับตัวหรือไม่? เพราะถือเป็นคู่แข่งโดยตรง ยังไงน่าจะได้เห็นต่อจากนี้อีกไม่นานเกินรอ แหม…ถ้าขยับจริง 2 เดือนสุดท้าย ตลาดรถยนต์เมืองไทยน่าจะมีความคึกคักอย่างแน่นอน…*** จากคนยานยนต์ “รามอินทรา” ไปเช็กข้อมูลคนรอบรั้วกันบ้าง…เป็นเรื่องของเบอร์ 1 เรื่องประกันภัย ยุคของ “คุณปุ่น” อมร ทองธิว ชัดเจนยิ่งกับการบริหาร ที่ให้ความสำคัญกับ “คนทำงาน” ทั้งเก่าและใหม่ มีความสำคัญไม่แตกต่างกัน นี่คือ…กลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ “ทุกคน” มีพลังที่พร้อมจะเป็นแนวร่วมการเติบโต 70 ปี…จากรุ่นสู่รุ่น ตอกย้ำความสำเร็จอย่างยั่งยืนยิ่ง “เบอร์ 1” ประกันภัย ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยจริงๆ…*** อีกคนที่วันนี้…เปิดปั๊มน้ำมันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็น “จันทร์ในนภา” จันทร์นภา สายสมร อีกคนรุ่นใหม่ที่ต้องบอก อายุเป็นเพียงตัวเลขจริงๆ การรู้จักใช้คน รู้จักยอมรับในวิถีการทำงาน ทำให้…สามารถแตกหน่อธุรกิจได้  จากฟิล์มติดรถยนต์ สู่ปั๊มน้ำมัน เป็นดวงจันทร์ที่ส่องสว่างไสวยิ่ง ยกมือให้แบบสุดใจจริงๆ…*** ย่อหน้าสุดท้าย “รามอินทรา” ยืนยันปิดคอลัมน์ด้วย…พร้อมรับใช้ทุกคนยานยนต์ พร้อมที่จะนำเสนอทุกข่าวคราวของทุกบริษัท ด้วยความเข้าใจเป็นอย่างยิ่ง ส่งมาได้เลยนะครับ “รามอินทรา” รอรับทุกข่าวด้วยหัวใจที่พร้อมสนับสนุนนะครับ…*** พบกันใหม่สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ