คนในสังคม ฉบับ 1,084

หนังสือพิมพ์ยวดยาน รายสัปดาห์ ฉบับที่ 1,084 ประจำวันที่ 24–30 มิถุนายน 2567 มีให้อ่านกันทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ วางตลาดทุกวันจันทร์ ราคาขายฉบับละ 20 บาท ไม่มีเงินทอน…*** “รามอินทรา” ได้เวลาเข้าเวรรายงานข่าวในแวดวง “คนยานยนต์” กับเรื่องราวของค่ายยานยนต์ ที่ต้องบอก เป็นงงกับข่าวคราวที่กลับไปกลับมา หรือจะเป็นอย่างที่คอมเม้นต์กัน หมดยุคของรถยนต์สายพันธุ์ญี่ปุ่น สู่ยุคของรถยนต์จีน ซึ่งก็เป็นเรื่องของรถไฟฟ้า ที่วันนี้ข่าวคราวก็ยังอยู่ในวังวนแห่งความสับสน รวมถึงความเชื่อมั่นของคนไทย เมื่อ… “รถยนต์จีน” นั้น เยอะแยะจนจำชื่อไม่ได้ วันนี้คนไทยจึงอยู่ในวังวนแห่งความสับสน จะเลือกเป็นเจ้าของรถอะไรดี ยิ่งถ้าเป็นคนติดข่าว ก้อ…จะยิ่งสับสน ไม่ว่าจะเป็นข่าวของรถยนต์ซูซูกิ ที่สุดท้ายก็มีข่าวจะเลิกผลิตจริงปลายปี 2568 แต่…ยังคงนำเข้ามาจำหน่าย ทำให้ “รามอินทรา” เป็นงงกับข่าวก่อนหน้านี้ วันนี้ก็หายเป็นงงแล้วล่ะ…*** อีกข่าวเรื่องรถไฟฟ้า จอดตากแดดแค่ 20 นาที ปรากฏว่า…แบตเตอรี่ไหม้ ต้องเสียค่าจัดการเป็นเงินถึงหลักล้าน พระเจ้าจอร์จ…อะไรกันเนี่ย สุดท้ายแล้ว…มีรถอะไรบ้างที่น่าเชื่อถือ หรือถ้าอยากเป็นเจ้าของรถยนต์สักคัน จะเลือกรถอะไรดี “รามอินทรา” ก็เลยคิดถึงรถไฮบริดนั่นแหละ ที่น่าจะมีข่าวค่อยยังชั่วหน่อย…*** จากข่าวไม่ค่อยโอเค… “รามอินทรา” ไปเขียนข่าวที่โอเคกันบ้าง กับการเปิดข่าวของรถอีซูซุ มิว-เอ็กซ์ ใหม่ ที่ใครอยากรู้รายละเอียดก็ติดตามได้ที่ “ยวดยาน” นี่แหละ ลงให้แบบจอกว้าง และน่าจะเป็นรถคันที่คนซื้อ…ซื้อแล้วสบายใจที่สุด และน่าจะเห็นความคึกคักแห่งตลาด งานนี้คงได้เห็นรอยยิ้มแบบจอกว้างของ “นายญี่ปุ่น” มร.ทาดาชิ ฮาตะ อีกด้วย…*** ข่าวนี้เป็นการเปลี่ยนแปลง “นายฝรั่ง” ของ “คนบีเอ็มดับเบิลยู” ยินดีต้อนรับ มร.เรเน่ แกร์ฮาร์ด ที่อยากบอก วันนี้เส้นทางของรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูนั้น ไม่มีอะไรน่ากังวล โดยเฉพาะ “ยอดขาย” ที่ลูกค้า…แค่อยากเป็นเจ้าของ ทุกอย่างก็จบ รวมถึง…คนดูแลข่าวคราวยิ่งไร้ปัญหา ใครมาเป็น “นายฝรั่ง” ก้อ…แค่คุมนโยบายเท่านั้น…จริงมั้ยครับ “มิสเตอร์จอห์น” …*** ค่ายนี้กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลง เป็นค่ายมิตซูบิชิ ที่ “รามอินทรา” ต้อนรับการกลับมาดูแล “งานพีอาร์” อีกครั้งของ “เสียตังค์” ยอดชาย ซื่อวัฒนากุล น่าจะทำให้อะไร…อะไร…โอเคขึ้นด้วย เพราะ “เสี่ยตังค์” นั้น ประเภทโอนอ่อนผ่อนเกมเก่ง กับ “คนสื่อ” ไม่มีปัญหา ถ้า…มีงบอยู่ ยังไงก็เซย์เยส ยินดีด้วยครับ…*** เขียนถึง “คนพีอาร์” ใครจะมองมุมไหน แตกต่างอย่างไร แต่ “รามอินทรา” อยากบอก…ในยุคของการสื่อสารสมัยใหม่ ที่ “คนสื่อ” เป็นได้แค่มี “มือถือเครื่องเดียว” ยังไงก็ไม่ใช่เรื่องง่ายกับการจะดูแลให้ลงตัว ยิ่งรูปแบบการนำเสนอที่เป็นก๊อปปี้เพรสนั้น…เกิดง่ายและน่าจะตายง่าย แต่ดูแลยาก…ไม่รู้ใครเป็นใคร ก้อ…เป็นสื่อมือถือที่ทุกคนล้วนเป็นเจ้าของ…*** เรื่องรถยนต์ซูบารุ “รามอินทรา” มีโอกาสได้คุยกับ “เจ้านาย” ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ยังบ่นเสียดาย เพราะเห็นเส้นทางตั้งแต่ยอดขายหลักร้อย จนเป็นเกือบสี่พัน เมื่อถึงวันที่ย้อนกลับเส้นทางเดิม แต่ที่น่าเสียดายไม่แพ้กัน เป็นคนทำงานที่กว่าจะบุกเบิกมาจนประสบความสำเร็จ อยากบอก…ไม่ใช่เรื่องฟลุ๊ค แต่เป็นเพราะ “หนุ่มวิน” ตวัน คำฤทธิ์ นั้น รู้จริงและทำจริง ส่วนคำถาม…วันนี้เป็นเยี่ยงไร? “รามอินทรา” ตอบได้แค่…แบ๊ะ…แบ๊ะ…*** ส่วนคำถาม…ถ้ารถยนต์ซูบารุ นำเข้าจากญี่ปุ่น จะเป็นเยี่ยงไร? อันนี้ “รามอินทรา” พอจะตอบได้…ลำบากแน่…ไม่ว่าจะเป็นเพราะราคาหรือรุ่นรถที่จะนำเข้ามาจำหน่าย แต่…อาจจะโอเคสำหรับคนเป็นเจ้าของ แหม…เคยขายแค่ปีละ 100 กว่าคัน ยังโอเคมาแล้ว ยังไงขอแค่ผ่านหลัก 300 ก็น่าจะได้เห็นรถยนต์ซูบารุ วิ่งอยู่บ้างบนท้องถนนเมืองไทย นี่เป็นแค่แนวคิดของ “รามอินทรา” เท่านั้น…*** ย่อหน้าสุดท้ายปลายคอลัมน์…ขอบคุณสำหรับทุกคำอวยพร กับก้าวที่ 26 ของหนังสือพิมพ์ยวดยาน ขอบคุณสำหรับ “ยวดยาน” ฉบับพิเศษ ที่ยังคงอัดแน่นเหมือนเดิม ยืนยันจะยังคงดำรงความเป็น “สื่อสิ่งพิมพ์” ที่มั่นคงต่อไป ขอบคุณ “เจ้านาย” ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา กับต้นทุน 3 ล้านบาท ที่ให้แกมขู่ว่า…หมดก็เลิก สุดท้าย…ก็สามารถต่อยอดมาจนถึงทุกวันนี้ รวมถึง 3 ล้านบาท ของ “เจ้านาย” ก็ยังคงอยู่ ขอบคุณทีมงานทุกคน ที่ยังคงมุ่งมั่นจนทำให้ “ยวดยาน” มีก้าวย่างที่มั่นคงต่อไป…ขอบคุณจริงๆ…*** สุดท้ายขอบคุณทุกภาคส่วนของ “กรังด์ปรีซ์” ที่ร่วมด้วยช่วยกัน จนวางตลาดได้ตรงเวลา โดยไม่ตกหล่น พบกันใหม่ สัปดาห์หน้า สวัสดีครับ…***